« เมื่อ: สิงหาคม 20, 2013, 07:49:11 am »
0
ไทย-ศรีลังกา ถกวิชาการพุทธศาสนาฉลองสัมพันธ์ 260 ปี
ไทย-ศรีลังกา จัดประชุมนานาชาติถกวิชาการพระพุทธศาสนา ฉลอง260 ปีสถาปนาความสัมพันธ์นิกายสยามวงศ์-ลังกาวงศ์ หวังต่อยอดองค์ความรู้ใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่นานาชาติ
วันนี้(19ส.ค.)ที่ประเทศศรีลังกา พระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) กล่าวระหว่างเดินทางไปร่วมการสัมมนานานาชาติ ณ สถาบันวิชาการพระพุทธศาสนานานาชาติ เมืองแคนดี้ว่า จากการที่ประเทศไทยสถาปนาความสัมพันธ์กับประเทศศรีลังกา ครบ 260 ปี ในส่วนของความสัมพันธ์ในด้านพระพุทธศาสนาไทยและศรีลังกา ได้มีการแลกเปลี่ยนพระสงฆ์ระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง จนเกิดคณะสงฆ์นิกายลังกาวงศ์ในไทย และคณะสงฆ์ นิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา
ดังนั้น มจร.จึงได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) คณะสงฆ์สยามนิกาย ฝ่ายมัลลวัตตา ฝ่ายอัสสคีรี และวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว จัดการสัมมนานานาชาติ เรื่อง การแลกเปลี่ยนพระพุทธศาสนานานาชาติในบริบทของโลก เพื่อเฉลิมฉลอง 260 ปี แห่งการสถาปนาพระพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในประเทศศรีลังกา ณ สถาบันวิชาการพระพุทธศาสนานานาชาติศรีลังกา เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา ระหว่างวันที่ 20-21สิงหาคม 2556

พระพรหมบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า การประชุมในครั้งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของไทยและศรีลังกา รวมทั้งทิศทางการเผยแผ่ในระดับนานาชาติว่าจะมีวิธีการอย่างไรในโลกยุคปัจจุบันนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคณะสงฆ์จะได้มีการหารือร่วมกัน ถึงบทบาทหน้าที่ในการนำพระพุทธศาสนา ให้เข้าถึงพุทธศาสนิกชนไปสู่การปฏิบัติ
นอกจากนี้ยังจะมีการเสวนาในเรื่องดังกล่าวเป็นภาษาบาลี ซึ่งถือเป็นภาษาแม่ในพระพุทธศาสนาที่ใช้กันทั่วโลก และเป็นภาษาที่สำคัญที่คณะสงฆ์ใช้ศึกษาพระไตรปิฎก ในการเรียนรู้หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง หากพระสงฆ์มีความรู้เรื่องภาษาบาลี ก็จะทำให้การเผยแผ่หลักธรรมไม่เกิดความผิดเพี้ยน
“รัฐบาลไทย ในนามมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และรัฐบาลศรีลังกา ได้เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ครั้งนี้ ซึ่งในพิธีเปิดงานคณะสงฆ์ไทย-ศรีลังกา ยัังได้รับเกียรติจากนายมหินทรา ราชปักษา ประธานาธิบดีแห่งศรีลังกา มาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสกล่าวสุนทรพจน์ และมีสมเด็จพระสังฆราช พระมหานายก ประมุขสงฆ์มาร่วมกล่าวต้อนรับคณะสงฆ์และผู้แทนประเทศต่างๆ จึงถือได้ว่า การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างไทย-ศรีลังกา ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”อธิการบดีมจร.กล่าวขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/education/227130