พิมพ์

[raponsan]

สะพานลูกบวบใกล้เสร็จสัญจรได้เร็วๆ นี้ คาดสะพานมอญซ่อมสมบูรณ์ต้นปี′58

จากกรณีที่มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับในแต่ละวันประมาณ 60-100 บาท

หลังจากที่สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ หรือสะพานไม้ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อม 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 2 กับหมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ได้ถูกน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากพัดพาสวะและเศษไม้ลงสู่แม่น้ำซองกาเลียและไหลมาปะทะกับเสาสะพานอุตตมานุสรณ์ ทำให้ตัวสะพานเกิดความเสียหายทรุดตัวและขาดออกจากกันประมาณ 13 ช่วงสะพาน แต่ละช่วงมีความกว้าง 4 เมตร รวมเป็นระยะทาง 52 เมตร

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก จึงได้มอบเงินให้กับทางอำเภอสังขละบุรี เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท เพื่อนำไปบรรเทาทุกข์กับราษฎร ด้วยการสร้างสะพานลูกบวบเพื่อให้ราษฎรสามารถใช้สัญจรไปมาเป็นการชั่วคราว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ความคืบหน้าหลังจากที่ชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวมอญต่างร่วมแรงร่วมใจคนละไม้ละมือช่วยกันจัดหาไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัสดุหลักมาทำสะพานลูกบวบ ตามโครงหนึ่งคนหนึ่งลำ ที่พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ซึ่งเป็นแม่งานหลัก คิดขึ้น โดยการใช้ลำไม้ไผ่มัดรวมกันทำเป็นทุ่นลอยน้ำ ขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร จากนั้นนำไม้ไผ่มาผ่าเป็นแผ่นๆ แล้วผูกเชื่อมติดกันปูเป็นทางเดิน ความกว้างประมาณ 2 เมตร

โดยเริ่มลงมือสร้างมาตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา จากริมตลิ่งฝั่งบ้านวังกะ หมู่ 2 ไปยังบ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 ต.หนองลู ซึ่งจะต้องก่อสร้างเป็นระยะทางความยาวประมาณ 350 เมตร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาร่วมสร้างสะพานลูกบวบในครั้งนี้ด้วย ซึ่งทำให้สะพานมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดสามารถสร้างแล้วเสร็จไปได้แล้วกว่า 90% ระยะทางกว่า 330 เมตร ยังคงเหลือเพียง 10-20 เมตรเท่านั้น

 

แต่เนื่องจากผู้ใช้เรือจะต้องเดินทางสัญจรไปมาในแม่น้ำซองกาเลีย โดยแล่นผ่านใต้สะพานอุตตมานุสรณ์ ดังนั้น จึงได้ทำสะพานยกระดับไว้ช่วงกลางของสะพานลูกบวบด้วย โดยทำเป็นทางลาดเอียงประมาณ 45 องศา ความกว้างรวมฐานประมาณ 5-6 เมตร สูงจากระดับผิวน้ำประมาณ 2 เมตร เพื่อให้ผู้ใช้เรือสามารถสัญจรไป-มา โดยการขับแล่นผ่านใต้สะพานลูกบวบที่มีความกว้างประมาณ 2-3 เมตร

คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะสามารถเปิดให้ประชาชนเดินสัญจรไปมาได้ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมกันนี้จะได้จัดทำป้ายเตือนให้ผู้ใช้สะพานระมัดระวังอันตรายในการเดินข้ามด้วย

สำหรับการบูรณะซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์ให้กลับสู่สภาพเดิมและมีความคงทนและแข็งแรง ต้องมีการเชื่อมสะพานออกไปอีกฝั่งละประมาณ 10 เมตร รวมความยาวของสะพานที่จะต้องมีการบูรณะซ่อมแซมทั้งสิ้น ประมาณ 72 เมตร คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการบูรณะซ่อมแซมได้ในช่วงต้นปีหน้า

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377067767&grpid=&catid=19&subcatid=1906