ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชี้เด็กไทยวิกฤติ"ตกงาน"เพียบเหตุความสามารถทางภาษาน้อย  (อ่าน 1024 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชี้เด็กไทยวิกฤติ"ตกงาน"เพียบเหตุความสามารถทางภาษาน้อย

สกอ.ยอมรับนักศึกษาตกงาน เหตุความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษน้อยเกินไป หรือ รู้ภาษาต่างประเทศแค่อย่างเดียว จี้ให้เรียนหลายภาษา เพื่อโอกาสมีงานทำ ชี้มหาวิทยาลัยจัดหลักสูตรหลากหลายอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการ


เมื่อวันที่ 21 ส.ค. รศ.นพ.กำจร  ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ .)กล่าวถึงกรณีที่มีนิสิตนักศึกษาบางสถาบันอุดมศึกษาแจ้งว่า ถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าทำงานในบริษัทหรือสถานประกอบการที่มีชื่อเสียง เนื่องจากเรียนและมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษน้อยเกินไปว่า
    เป็นเรื่องปกติที่บริษัทหรือสถานประกอบการต่าง ๆ จะเลือกคนที่เก่งที่สุด 
    มีความรู้ ความสามารถตรงตามความต้องการของหน่วยงานที่จะรับเข้าทำงาน 
    โดยเฉพาะจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต้องการคนที่มีความรู้อย่างน้อยภาษาอังกฤษ
    แต่ถ้ารู้หลายภาษาอย่างน้อย 2-3 ภาษา ขึ้นไปจะมีโอกาสได้งานมากกว่าคนอื่นๆ

“ผมเห็นด้วยและถือว่าเป็นเรื่องที่ดี  ที่บริษัทหรือสถานประกอบการออกมากำหนดคุณลักษณะพิเศษในการคัดเลือกเด็กเข้าทำงาน  ที่ว่าเด็กจะต้องมีความสามารถในหลายภาษา   เด็กจะได้รู้ว่าจะมาเรียนไปเรื่อย ๆ รู้ภาษาเดียวก็พอแล้ว  ไม่ได้อีกต่อไป  และจะต้องเร่งเตรียมตัวด้านภาษา ให้กับตัวเองมากขึ้น และไม่ใช่จะมารอให้มหาวิทยาลัยป้อนให้   เพราะโตแล้ว และช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด  “ รศ.นพ.กำจร กล่าว


 :41: :41: :41:

รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อไปว่า  ส่วนที่ว่ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจัดหลักสูตรการเรียนการสอนที่แตกต่างกันนั้น เป็นเรื่องจริง  เพราะมหาวิทยาลัยจะต้องมีความหลากหลาย และมีปรัชญาการผลิตบัณฑิตที่แตกต่างกันไป โดยเน้นผลิตบัณฑิตตามที่ถนัด และเป็นความต้องการของตลาดแรงงานเป็นหลัก  แต่ในการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ.2548   ที่กำหนดไว้ 

เช่น  โครงการสร้างหลักสูตร ระดับปริญญาตรี จะต้องเรียนหมวดวิชาศึกษาทั่วไป หมวดวิชาเฉพาะ และหมวดวิชาเลือกเสรี  โดยเฉพาะหมวดวิชาศึกษาทั่วไปเป็นวิชาครอบคลุมสาระกลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ภาษาและกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ ต้องเรียนไม่น้อยกว่า 30 หน่วยกิต เป็นวิชามุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีความรอบรู้อย่างกว้างขวาง มีโลกทัศน์ที่กว้างไกล เข้าใจธรรมชาติตนเอง ผู้อื่นและสังคม  เป็นผู้ใฝ่รู้ สามารถคิดอย่างมีเหตุผล สามารถใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารได้ดี  มีคุณธรรม   เห็นคุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมของไทยและประชาคมนานาชาติ สามารถนำความรู้ใช้ในการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้ดี


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/education/227727
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ