ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'บาตร' โชว์ที่อัฟกัน..ใช่ของพระพุทธเจ้าหรือไม่.?  (อ่าน 1981 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29441
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



'บาตร' โชว์ที่อัฟกัน..ใช่ของพระพุทธเจ้าหรือไม่.?
รัฐบาลอินเดียจะมีคำตอบ : พระมหาสมพงษ์ คุณากโร เมืองเจนไน ประเทศอินเดียรายงาน

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาสำนักข่าวเดอะฮินดู The Hindu ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อหนังสือพิมพ์ของอินเดียได้นำเสนอการตามหาบาตรของพระพุทธเจ้าที่หายไปจากเมืองไพสาลี โดยมีนักการเมืองท่านหนึ่งนามว่า ดร. ราคุวานส์ ประสาด ซิงห์ (Raghuvansh Prasad Singh) ได้จุดประกายขึ้นมาโดยได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลอินเดียในคราวประชุมที่รัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ว่า

     ask1 ask1 ask1

“เวลานี้รัฐบาลได้รับข้อมูลหรือยังว่า บาตรของพระพุทธเจ้าที่ทรงประทานแก่ชาวเมืองไพสาลีนั้นได้ถูกค้นพบแล้วที่พิพิธภันฑสถานแห่งชาติที่เมืองคาบู ประเทศอัฟกานิสถาน?
    ถ้าค้นพบแล้ว ทางสถานทูตอินเดียที่ประเทศอัฟกานิสถานได้ส่งรูปบาตรอันนั้นให้กับรัฐบาลหรือยัง?
    ถ้าได้ส่งมาให้รัฐบาลแล้ว ทางรัฐบาลได้เริ่มกระบวนการที่จะนำเอาบาตรนั้นกลับคืนมาหรือยัง?
    ถ้าได้เริ่มดำเนินการแล้ว รัฐบาลได้รับข้อมูลบันทึกการเดินทางของนักแสวงบุญชาวจีนชื่อ ฟา เหียน ( Fa-hein) และงานเขียนของ ดร. คันนิ่งแฮม (Dr. Cunningham) รวมทั้งงานเขียนของ ศรี เอส วี ซาห์นิ Shri S.V. Sahni ที่ได้อ้างถึงบาตรอันนี้หรือยัง?
    ถ้าได้รับแล้วขอรายละเอียดเกี่ยวกับงานเขียนของท่านเหล่านั้นได้มั้ย.?”


      ans1 ans1 ans1

     รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียในขณะนั้นได้ตอบกระทู้ถามเหล่านี้ว่า
    “สถานทูตอินเดียที่เมืองคาบูได้สำรวจประเด็นดังกล่าวแล้วและได้บทสรุปว่า วัตถุที่มีการตั้งข้อสมมุติฐานกันว่าเป็นบาตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น อยู่ที่เมืองกันดาฮาร์ (Kandahar) มาจนถึงสมัยของอดีตประธานาธิบดี นาจิบูลลาห์ President Najibullah
     จากนั้นได้มีการนำไปที่เมืองคาบูและปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของอัฟกานิสถาน ที่เมืองคาบู
     ดูจากรูปภาพบาตรที่ทางสถานทูตได้รับมีลักษณะค่อนข้างใหญ่
     นอกจากนี้ยังมีรอยจารึกเป็นภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซียอีกด้วย
     ทางรัฐบาลได้ขอข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับบาตรอันนี้กับทางฝ่ายสำรวจทางโบราณคดีของอินเดียแล้ว ซึ่งทางฝ่ายสำรวจนี้อาจจะมีข้อมูลดังกล่าว”


        ask1 ask1 ask1

      ต่อมานักการเมืองท่านเดิมได้ติดตามประเด็นดังกล่าวและได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเกี่ยวกับความคืบหน้าการพิสูจน์หาความจริงว่าบาตรที่ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่เมืองคาบูนั้นใช่บาตรของพระพุทธเจ้าจริงหรือไม่ โดยตั้งกระทู้ถามอีกว่า

      “รัฐบาลได้รับข้อมูลการตรวจสอบทางประวัติศาสตร์และทางโบราณคดีเกี่ยวกับแหล่งที่มาของบาตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากหน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดียหรือยัง?
        ถ้าได้แล้ว รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรในการพิสูจน์หาความจริงแหล่งที่มาของบาตรอันนั้น?”


        ans1 ans1 ans1

      ภายหลังจากที่ส่งทีมสำรวจทางโบราณคดีไปตรวจสอบลักษณะของบาตรที่ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่เมืองคาบู ประเทศอัฟกานิสถานแล้ว รัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศของอินเดียได้ตอบกระทู้ถามอันนี้ว่า

      “บาตรอันดังกล่าวเป็นบาตรหินขนาดใหญ่ สูง ๑ เมตรโดยประมาณ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ เมตร มีความหนาราว ๆ ๑๘ เช็นติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ หรือ ๓๐๐ กิโลกรัม
     นอกจากนี้ยังมีรอยจารึกบทสวดโดยเขียนคล้าย ๆ ลายมือและใช้ภาษาอาราบิกและเปอร์เซียน
     บาตรอันนี้ปัจจุบันพบที่ทางเข้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของประเทศอัฟกานิสถานที่เมืองคาบู
     แรกๆ บาตรอันนี้พบที่เมืองกันดาฮาร์ และได้มีการนำมาที่เมืองคาบูในสมัยอดีตประธานาธิบดี นาจิบูลลาห์
     และได้มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เป็นบาตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (The Bhikshapatra of Lord Buddha)
     ฝ่ายสำรวจทางโบราณคดีของอินเดีย ได้รายงานว่า
     พวกเขาได้เอารูปภาพบาตรอันนี้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดู และได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมในเบื้องต้น คือ วัตถุอันนี้ (บาตร) ไม่ปรากฏว่าเป็นบาตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     อย่างไรก็ตามทางฝ่ายสถานทูตอินเดียกำลังพยายามสำรวจประเด็นดังกล่าวต่อไป เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของบาตรจากเจ้าหน้าที่ของประเทศอัฟกานิสถาน”




         ask1 ask1 ask1

      ต่อมาในคราวประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๒ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ นักการเมืองท่านเดิมคือ ดร. ราคุวานส์ ประสาด ซิงห์ (Raghuvansh Prasad Singh) ได้ตั้งกระทู้ถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสำรวจบาตรที่เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองคาบูว่า

      “ถ้าบาตรหินอันที่เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ประเทศอัฟกานิสถานได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นบาตรของพระพุทธเจ้าแล้ว รัฐบาลได้ให้นักประวัติศาสตร์ นักวิชาการ องค์กรต่าง ๆ รวมไปถึงหน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดีย จัดหาข้อมูลพร้อมทั้งหลักฐานต่าง ๆ และมีการดำเนินการเพื่อนำบาตรที่ว่ากันว่าเป็นบาตรสำหรับบิณฑบาตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมาจากประเทศอัฟกานิสถานหรือยัง?”


       ans1 ans1 ans1

      รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินเดียคนต่อมาคือ นายซัลมาน คุร์ศิด (Salman Khurshid) ได้ตอบกระทู้นี้ว่า
      “รัฐบาลได้รับรูปภาพเกี่ยวกับบาตรจากสถานทูตอินเดียที่เมืองคาบูแล้ว และได้ตรวจสอบรูปภาพนั้นแล้วโดย ผู้อำนวยการ ฝ่ายสำรวจทางโบราณคดี ที่เมืองนาคปูร์ จากการตรวจสอบรูปภาพดังกล่าวในเบื้องต้น ผู้อำนวยการท่านนี้ได้กล่าวอ้างถึงรอยจารึกว่า รอยจารึกที่รอบนอกของบาตรดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า
      บาตรอันนี้เกี่ยวข้องกับเมืองกันดาฮาร์ ผู้อำนวยการท่านนี้แนะนำว่า บาตรอันนี้ควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งทางด้านลักษณะของบาตรและวัตถุที่ใช้ทำบาตร เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมแหล่งที่มาของบาตร ขั้นตอนต่อไปคือรัฐบาลกำลังตรวจสอบโดยการหารือกับหน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดียเพื่อให้ได้ข้อยุติแหล่งที่มาของบาตรอันนี้”

      อย่างไรก็ตามคงไม่ง่ายนักที่รัฐบาลอินเดียจะตรวจสอบบาตรที่ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองคาบู ประเทสอัฟกานิสถานเพื่อพิสูจน์ว่า เป็นบาตรอันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้บิณฑบาตและมอบให้แก่ชาวเมืองไพสาลีหรือไม่ เพราะตัวบาตรมีการจารึกบทสวดที่ปรากฏในคัมภีร์ศาสนาหนึ่ง  ซึ่งจารึกเป็นภาษาอาหรับและเปอร์เซีย
      นอกจากนี้ ถึงแม้หน่วยงานด้านโบราณคดีของอินเดียจะพิสูจน์ได้ว่า นั่นแป็นบาตรขององค์สมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้าจริง คงไม่ง่ายนักที่จะนำกลับมาประดิษฐานไว้ที่เดิมคือ ที่เมืองไพสาลีตามที่นักการเมืองนามว่า ดร. ราคุวานส์ ประสาด ซิงห์ (Raghuvansh Prasad Singh) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ

หมายเหตุ : แหล่งข้อมูล: เว็บไชต์รัฐสภาของอินเดีย หนังสือพิมพ์เดอะฮินดู (The Hind) และ Buddha & Asian antiques blog


ขอบคณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130825/166571/บาตรโชว์ที่อัฟกันใช่ของพระพุทธเจ้าหรือไม่.html#.UhqPNX_KXHt
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ