ปลุกเสกยิ่งใหญ่ ‘หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร’ เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ พระอาทิตย์ทรงกลด
คอลัมภ์ - เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน
พระครูวรเวทมุนี (อี๋ พุทธสโร) หรือ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร ผู้ถูกขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำทะเลตะวันออก ท่านเป็นชาวจังหวัดชลบุรี เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๘ ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔ ) เป็นบุตรของนายขำ และนางเอียง ทองขำ อุปสมบทเมื่ออายุเบญจเพส ณ วัดอ่างศิลานอก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์จั่น วัดเสม็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทิม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์แดง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร
หลวงพ่ออี๋ ได้อยู่ศึกษาธรรมะและเวทมนตร์ต่าง ๆ กับพระอาจารย์แดงถึง ๖ พรรษา ก่อนไปฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ซึ่งช่วงนั้นมีชื่อเสียงมาก และท่านยังได้ออกธุดงควัตรไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เมื่อบังเกิดความกล้าแข็งทางจิต สัมฤทธิ์ในธรรมแล้ว จึงเดินทางกลับมาสร้างวัดสัตหีบขึ้น ใช้เวลาเพียง ๕ ปีจึงสมบูรณ์ ท่านได้ใช้วิชาอาคมอันแก่กล้ามาสร้างและปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่าง ๆ แจกศิษยานุศิษย์ โดยเฉพาะปลัดขิกนั้นโด่งดังที่สุดในเมืองไทย เป็นที่เลื่องลือในคุณวิเศษมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านมรณภาพในท่านั่งสมาธิเมื่อวันที่ ๒๐ ก.ย. ๒๔๘๙ สิริอายุได้ ๘๑ ปี ๖๑ พรรษา

ภาพของ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 ของไทย เป็นสิ่งที่บรรดาลูกศิษย์และชาวพุทธไม่เคยลืมภาพของหลวงพ่ออี๋ ที่ยกผ้าเหลืองโบกไปโบกมา พร้อมทั้งยืนบริกรรมพระคาถาอย่างสงบนิ่ง ลูกระเบิดที่หย่อนมาจากเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรหมายถล่มตลาดและฐานทัพเรือให้ราบเป็นจุณ กลับเบี่ยงเบนปลิวไปตกในทะเลจนหมดสิ้น ไม่อาจทำลายฐานทัพเรือและชีวิตของประชาชนชาวอำเภอสัตหีบได้
นับแต่นั้นมาหลวงพ่ออี๋ จึงได้รับการกล่าว นามถึงในความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ช่วยรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัยกันถ้วนหน้า จนบรรดาลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชน ได้ขนานนามว่า ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำทะเลตะวันออก ท่านเป็นอาจารย์ของพระเกจิอาจารย์ไทยชื่อดังมากมาย เช่น หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นต้น
ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีมหามงคล พุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทางฐานทัพเรือสัตหีบ โดย พล.ร.ท.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้จัดพิธีปลุกเสกพระพุทธชินราชวรเวทมุนีราชนาวีศรีบูรพา และพระกริ่งวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ) เหรียญรูปไข่หลวงพ่ออี๋ เหรียญสมอเรือหลังรูปเหมือน ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์

โดยก่อนหน้านี้ พล.ร.ท.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พล.ร.ต.อดุงสวัสดิ์ พุ่มพวง ร่วมกันเป็นประธานจัดสร้างพระพุทธชินราชวรเวทมุนีราชนาวีศรีบูรพา ขนาดหน้าตัก ๕๙ นิ้ว พระเกตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นอนุสรณ์พุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธานประจำฐานทัพเรือสัตหีบ
เพื่อให้ข้าราชการ ทหาร และพุทธศาสนิกชนชาวไทยสักการบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล รวมทั้งเผยแพร่เกียรติคุณ หลวงพ่ออี๋ โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานที่ปรึกษา และมีพระครูปลัดสมศักดิ์ ตาณรโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ เป็นเจ้าพิธีเททองหล่อ ณ หน้าพระอุโบสถ วัดสัตหีบ เมื่อวันที่ ๒๗ มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ ( ๑ ส.ค.) มีหลวงพ่ออุดม วัฒนมงคล วัดถ้ำวัฒนมงคล ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่เกศของพระพุทธชินราช ที่สร้างเป็นที่ระลึกเพื่อประดิษฐานเป็นพระประจำฐานทัพเรือสัตหีบ โดยมีหลวงปู่บัว ถามโก เป็นประธานจุดและดับเทียนชัย มีพระเถระและพระเกจิทั่วประเทศ ๙๙ รูป นั่งปรกอธิษฐานปลุกเสก อาทิ หลวงปู่ชาญ วัดบางบ่อ หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงปู่ฮก วัดมาบลำปิด หลวงพ่อไฉน วัดป่าคุณากรบูรพาจารย์ เป็นต้น

ในงานก่อนพิธีปลุกเสก มีข้าราชการและพ่อค้าประชาชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศมีเมฆฝนตั้งครึ้มทั่วท้องฟ้าทำท่าจะตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจพอเริ่มพิธีปลุกเสก มีการบวงสรวงโดยพราหมณ์ แสวง สังข์ทอง ท้องฟ้ากับเปิดเมฆที่ครึ้มมาด้วยฝนกลับหายไปอย่างมหัศจรรย์ พอเริ่มพิธีหลวงพ่ออุดม วัฒนมงคลขึ้นอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นพระเกตุพระพุทธชินราชเกิดมีลมแรงทำให้ผู้ที่อยู่ในงานเย็นสบาย และมีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องลงมาบรรยากาศในงานอบอุ่นและเย็นสบายคล้ายกับยืนอยู่บนภูเขา
จากนั้นเมื่อเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงปู่บัว ขึ้นเป็นประธานจุดเทียนชัย พระเถระและพระเกจิ ขึ้นนั่งทำพิธีปลุกเสกจำนวน ๙๙ รูป อาทิ หลวงปู่บัว หลวงปู่คำบุ หลวงพ่อฟู หลวงพ่อเพิ่ม หลวงพ่อเอียด หลวงปู่ฮก เป็นต้น สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากลับมี พระอาทิตย์ทรงกลด ทำให้ประชาชนที่อยู่ภายในงานต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาถึงความศักดิ์สิทธิ์พิธีปลุกเสกพระหลวงพ่ออี๋ในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการจัดสร้างมีด้วยกัน ๓ รูปแบบ ประกอบด้วย
๑. ชุดพระกริ่งวรเวทมุนี (หลวงพ่อ อี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ) มวลสาร ๙ ประการ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะก้นทองคำ, เนื้อนวโลหะก้นเงิน, เนื้อนวโลหะก้นทองแดง, พระชัย เนื้อทองคำ, พระชัย เนื้อนวโลหะ, พระสังกัจจายน์ เนื้อทองคำ, พระสังกัจจายน์ เนื้อนวโลหะ, พระปิดตาเนื้อทองคำ และพระปิดตา เนื้อนวโลหะ
๒. ชุดเหรียญรูปไข่ จัดสร้าง ๒๐,๐๐๐ เหรียญ ตอกโค้ดและมีหมายเลข ๑-๒๐,๐๐๐ เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญรูปไข่เนื้อทองคำ, เหรียญรูปไข่เนื้อนาก, เหรียญรูปไข่เนื้อเงิน, เหรียญรูปไข่เนื้อนวโลหะ, เหรียญรูปไข่เนื้ออัลปาก้า และเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง และ
๓. ชุดเหรียญสมอเรือหลังรูปเหมือน สำหรับเนื้อทองแดง จัดสร้าง ๒๐,๐๐๐ เหรียญ ตอกโค้ดและมีหมายเลข ๑-๒๐,๐๐๐ กำกับ ประกอบด้วย เหรียญสมอเรือ เนื้อทองคำ, เหรียญสมอเรือ เนื้อนาก, เหรียญสมอ เนื้อเงิน, เหรียญรูปไข่ เนื้อนวโลหะ และเหรียญสมอ เนื้อทองแดง

ด้าน พล.ร.ท.ชัยณรงค์ กล่าวว่า การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้มีความยิ่งใหญ่ ทั้งเจตนาการจัดสร้าง มวลสาร และพิธีปลุกเสก ดั่งรายนามคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ ประกอบไปด้วยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และฐานทัพเรือสัตหีบร่วมกับจังหวัดชลบุรี ขอเชิญประชาชนร่วมใจสร้างบุญกุศลยิ่งใหญ่ทั่วแผ่นดินร่วมกัน
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถสั่งจองตั้งแต่วันนี้ และรับพระได้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ส.ค.เป็นต้นไป ที่ศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์ กองการข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โทร.๐๓๘-๔๓๗๖๐๐ ต่อ ๗๑๐๓๑ และ โทร.๐๘-๖๖๕๖-๒๓๕๗
โดยจะนำรายได้บริจาคสมทบทุนที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วไปเป็นประโยชน์แก่สาธารณกุศล และเป็นสวัสดิการฐานทัพเรือ รวมทั้งสมทบกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการกองทัพเรือที่ไปปฏิบัติราชการใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย.
อาราธนานังขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/article/1291/229738