ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เตรียมกายให้ไหว เตรียมใจให้พร้อม  (อ่าน 2160 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เตรียมกายให้ไหว เตรียมใจให้พร้อม
« เมื่อ: กันยายน 21, 2013, 11:29:14 am »
0

เตรียมกายให้ไหว เตรียมใจให้พร้อม
คอลัมน์ : หน้าต่างศาสนา
โดย พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี สำนักงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมฯ วัดสระเกศ

จากประสบการณ์ของผู้ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งจะมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิต และมุ่งมั่นไปให้ถึงเป้าหมายนั้น ไม่ท้อแท้หรือสิ้นหวังกับอะไรง่ายๆ แม้จะประสบปัญหาหนักหนาอย่างไรก็ยังคงมุ่งหน้าไปให้ถึงจุดหมายนั้นจนได้

วิธีการนี้ดูจะไปได้ดีกับพระพุทธองค์สอนภิกษุให้ใช้วิธีการพัฒนาตนเองตามแบบนักยิงธนู คือ กำจัดศัตรูหรือเป้าหมายให้ได้ โดยเราอาจพัฒนาวิธีการนี้ด้วยการค้นหาศัตรูให้เจอก่อน และศัตรูที่แท้ก็คือ ตัวเราหรือใจเรานั่นเอง

เราจึงควรเริ่มต้นด้วยจากกำจัดจุดอ่อนในตัวเราให้ได้ก่อน แล้วจะพัฒนาจุดแข็งไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราแก้ไขปัญหาที่อยู่ในตัวเราได้ เราก็สามารถเอาชนะอุปสรรคภายนอกได้อย่างไม่ยากเลย

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ในสมัยประถมผู้เขียนเคยได้ถูกคัดเลือกให้เป็นนักวิ่งประจำโรงเรียน เพราะวิ่งได้เร็วกว่าใครอื่นในห้อง ทุกวันหลังเลิกเรียนครูก็จะมาแนะวิธีการวิ่งว่า "เวลาวิ่งสำคัญที่การออกตัว ยิ่งถ้าออกตัวเร็วก็มีสิทธิ์จะชนะสูงขึ้น"

ผู้เขียนจึงซ้อมวิ่งตามคำแนะนำของครู และเน้นเป็นพิเศษ คือ การออกตัว แต่เวลาไปแข่งขันจริงผู้เขียนกลับไม่เคยพบกับชัยชนะเลย สักครั้งเดียว ทั้งที่เวลาวิ่งจริงก็ออกตัวได้ดีและวิ่งนำมาตลอดแต่สุดท้ายก็แพ้

ครูจึงพยายามหาข้อผิดพลาดและในที่สุดก็พบว่าก่อนจะเข้าเส้นชัยทุกครั้ง ไม่ว่าผู้เขียนจะวิ่งนำหน้ามาอย่างไร จะชะลอความเร็วเสมอ จนครูถามว่า "เธอคิดถึงอะไรก่อนจะวิ่งเข้าเส้นชัย" ผู้เขียนชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลำดับความคิดแล้วตอบ "ก็คิดว่ามาถึงเส้นชัยแล้วไม่ต้องรีบวิ่งอีกแล้วนะครับ"

ครูพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วจี้จุดนั้นทันที "ต่อไปเธอวิ่งทุกครั้งอย่าผ่อนความเร็วจนกว่าจะเข้าเส้นชัยไปแล้ว จำไว้" ผู้เขียนตอบรับ และตั้งแต่ครั้งนั้นมาผู้เขียนก็วิ่งตามคำแนะนำของครูก็ได้รับชัยชนะสมความตั้งใจ



เป็นคำสอนที่ผู้เขียนจดจำมานานจนกระทั่งมาศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ยิ่งเข้าใจมากขึ้นถึงการตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายพร้อมหรือมีความชำนาญเท่านั้น

แต่การจะประสบความสำเร็จได้ต้องไม่ทิ้งความเพียรพยายามไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อย่างไรก็ตาม ไม่ต่างจากการที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจะทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนกับราชสีห์ที่ไม่ว่าจะจับช้างตกมัน หรือจับสัตว์เล็กๆ อย่างกระต่ายมากินก็ใช้ความเร็วเท่ากัน


 ans1 ans1 ans1

ฉะนั้น ไม่ว่าพระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมแก่คนๆ เดียวหรือหลายคน จะเป็นพระเป็นฆราวาส หรือแม้แต่นักบวชนอกศรัทธาก็ทรงแสดงธรรมเสมอกันคือใช้ความเพียรพยายามเท่ากัน และไม่ทรงคิดว่าหากคนฟังไม่มีศรัทธาก็จะแสดงน้อยๆ ใครมีศรัทธามากก็แสดงให้มากขึ้น เพราะที่สำคัญคือการได้ใช้ความเพียรพยายามอย่างเต็มที่นั่นเอง แล้วผลที่ยิ่งใหญ่ก็จะเกิดตามมาเสมอ อย่างที่ผู้ฟังธรรมจะได้รับเสมอหลังจากฟังธรรมจบ

    การเพียรพยายาม เป็นวิธีการกำจัดศัตรูภายในใจที่ทำให้เราอ่อนแอให้หมดสิ้นไป
    เมื่อไม่ละทิ้งความเพียร ไม่ว่าเป้าหมายจะไกลเพียงใดก็สามารถไปถึงได้ในที่สุด


ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOVEExTURFMU5nPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE15MHdNUzB3TlE9PQ==
ภาพจาก http://www.madchima.net/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ