« เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 07:56:00 am »
0
สารทเดือนสิบ - ร้อยเรื่องมรดกไทย
ร้อยเรื่องมรดกไทยสัปดาห์นี้ชวนสืบสานศิลปวัฒนธรรมการทำบุญเดือนสิบหรือวันสารทไทยที่ใกล้จะมาถึงโดยสารเดือนสิบตรงกับวันแรม 15ค่ำเดือน 10 ของทุกปีซึ่งมักจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
สารทเดือนสิบมีประวัติมายาวนานนับแต่สมัยโบราณ ตามหลักฐานพบว่ามีมานับแต่ครั้งสมัยสุโขทัยเป็นประเพณีทำบุญกลางปีเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองที่มีชีวิตผ่านพ้นเวลามาได้กึ่งปี ขณะเดียวกันในโอกาสนี้ยังถือเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพชนเพื่อแสดงความเคารพความกตัญญูซึ่งนอกจากสำหรับอาหารคาวหวานแล้ว ขนมที่นิยมใช้ทำบุญในช่วงเวลานี้คือ กระยาสารท ข้าวยาคู หรือข้าวทิพย์หรือข้าวมธุปายาส
และจากบทความเผยแพร่ความรู้บุญประเพณีสารทเดือนสิบพระยาอนุมานราชธนเขียนอธิบายในหนังสือเทศกาลและประเพณีไทยซึ่งคำว่า “สารท ” เป็นคำอินเดีย หมายถึง “ ฤดู ” โดยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นระยะที่พืชพันธุ์ธัญชาติและผลไม้เริ่มสุกและให้พืชผลครั้งแรก ประชาชนจึงยินดีและถือเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริงทำพิธีตามความเชื่อ บางแห่งนำพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งแรกบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลและแสดงความเคารพที่ได้บันดาลพืชพันธุ์ธัญหารอุดมสมบูรณ์จนเก็บเกี่ยวได้ ฯลฯ

สารทเดือนสิบ อันหมายถึง การทำบุญเดือนสิบ สันนิษฐานว่าน่าจะนำมาจากคติของอินเดีย เกี่ยวกับความเชื่อเรื่อง ผลแรกอย่างที่กล่าวข้างต้น การทำบุญเดือนสิบในหลายภูมิภาคได้ปฏิบัติสืบสานต่อกันมาอย่าง
- เช่นทางภาคอีสาน จะเรียก บุญข้าวสาก หรือสลากภัต เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองอันเป็นการทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับซึ่งข้าวสากจะทำด้วยข้าวเม่า ข้าวพอง ข้าวตอกคลุกเข้ากันผสมกับน้ำตาล น้ำอ้อย ถั่ว งา มะพร้าว
- คล้ายๆกระยาสารทของภาคกลาง ซึ่ง กระยาสารทเป็นขนมประจำวันสารทมีส่วนประกอบ คือ ข้าวตอก ข้าวเม่า ถั่ว งา และน้ำตาล โดยทั้งหมดจะนำมากวนเข้าด้วยกันเมื่อสุกแล้วจึงนำมาปั้นเป็นก้อนกลม หรือจะตัดเป็นแผ่น เป็นต้น
- ส่วนทางภาคใต้ สารทเดือนสิบ บุญประเพณีดังกล่าวทางภาคใต้ยึดปฏิบัติสืบสานต่อเนื่องมานับแต่อดีตจวบปัจจุบันโดยวันดังกล่าวเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ การประกอบพิธีจะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เรียกว่าวันรับตายายและในวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 จะร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์โดยมี ขนมพอง ขนมลา ขนมกง ขนมดีและขนมบ้า เป็นเอกลักษณ์.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/article/1547/236144