ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองรักษาฟรี(เกือบ) ทุกโรคในสถานพยาบาล (รัฐบาลไทย)  (อ่าน 8991 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

สธ. ดีเดย์ 1 ต.ค. ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองรักษาฟรี(เกือบ) ทุกโรคในสถานพยาบาล (รัฐบาลไทย)
           จุรินทร์ ดีเดย์ 1 ตุลาคม 2553 รักษาฟรี 48 ล้านคน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ให้ประชาชนรับบริการสาธารณสุขที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

          เมื่อวันที่ 29 กันยายน  ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.พรรณสิริ  กุลนาถศิริ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์วินัย  สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว" ซึ่งจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 นี้เป็นต้นไป

          นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมมานาน 6 เดือน สำหรับการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง ให้ประชาชน 48 ล้านคน ที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลในสังกัด กระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ซึ่งในการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และได้ทดสอบระบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ระหว่างหน่วย บริการกับ สปสช. เพื่อตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล

          สำหรับสถานีอนามัยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อีกประมาณร้อยละ 3 ที่อยู่ห่างไกล ไม่มีระบบคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่จะสำเนาฐานข้อมูลรายชื่อจากส่วนกลางและปรับให้ทันสมัยทุกเดือน กำหนดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพการบริการในโครงการ "โรงพยาบาลยุคใหม่ เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม" หรือโรงพยาบาล 3 ดี มั่นใจว่าประชาชนจะมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้น

          นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับหน่วยบริการอื่น ๆ นอกสังกัด ในฐานะประธานกรรมการบริหาร สปสช. ได้ลงนามในหนังสือสั่งการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 เพื่อย้ำอีกครั้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป หน่วยบริการทุกหน่วยในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จะต้องใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรับบริการฟรี ได้ที่หน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรือหากประชาชนยังไม่ได้รับบัตรประชาชนสามารถใช้บัตรอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักและรูปถ่าย

          ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ยกเว้นกรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ เช่น อยู่ที่กรุงเทพฯ ไปเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถเข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐในจังหวัดเชียงใหม่ได้ทันที โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวรับบริการ

          นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสิทธิรับการรักษาฟรี เป็นไปตามชุดสิทธิประโยชน์โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งขณะนี้ครอบคลุมเกือบครบทุกโรค รวมถึงบริการทำฟัน การตรวจสุขภาพ และการฟื้นฟูสภาพหลังเจ็บป่วยในรายการที่เหมาะสม การรักษาฟรี เช่น โรคเอดส์ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต ถ้าจำเป็นสามารถผ่าตัดเปลี่ยนไต ล้างไต และมีบริการส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านฟรี ยกเว้นการล้างไตผ่านเครื่องซึ่งมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท รัฐจ่ายให้ 1,000 บาท ผู้ป่วยร่วมจ่ายเพิ่มเพียง 500 บาท  และไม่ครอบคลุมการผ่าตัดตกแต่ง การปลูกถ่ายตับ ปอด และหัวใจ ซึ่งมีราคาสูงมาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.thaigov.go.th
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เริ่มแล้วบัตรใบเดียวรักษาตามสิทธิ 37จว.ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง
# เริ่มแล้ว 37 จังหวัดใช้บัตรประชาชนใบเดียวแทนบัตรทองเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ อีก 8 จังหวัดนำร่องใช้บัตรประชาชนรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ในจังหวัด

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการให้ประชาชนใช้สิทธิรักษาพยาบาลในสิทธิหลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ที่มีประมาณ 47 ล้านคน ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวแทนบัตรทองในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ ระบุตามสิทธิแล้ว 37 จังหวัด และจะดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้

37 จังหวัดที่มีการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองแล้ว ได้แก่ 1.น่าน 2.แพร่ 3.พิษณุโลก 4.นนทบุรี 5.นครนายก 6.อ่างทอง 7.สระบุรี 8.ร้อยเอ็ด 9.ขอนแก่น 10.บุรีรัมย์ 11.ยโสธร 12.นครศรีธรรมราช 13.สงขลา 14.ศรีสะเกษ 15.อำนาจเจริญ 16.อุบลราชธานี 17.ชุมพร 18.ปัตตานี 19.นราธิวาส 20.แม่ฮ่องสอน 21.พะเยา 22.สุโขทัย 23.ตาก 24.อุตรดิตถ์ 25.ชัยนาท 26.สมุทรสงคราม 27.ฉะเชิงเทรา 28.จันทบุรี 29.มหาสารคาม 30.หนองคาย 31.เลย 32.สกลนคร 33.หนองบัวลำภู 34.นครพนม 35.อุดรธานี 36.มุกดาหาร และ 37.สระแก้ว

รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้จะดำเนินการให้ประชาชนตามสิทธิดังกล่าวสามารถใช้บัตร ประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ภายในจังหวัด โดยจะนำร่องใน 8 จังหวัด และเมื่อมีการปรับปรุงระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลจนมีประสิทธิภาพแล้วจึงจะขยาย ผลไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่ง 8 จังหวัดนำร่องได้แก่ 1.แพร่ 2.พิษณุโลก 3.อุบลราชธานี 4.ยโสธร 5.ราชบุรี 6.นครนายก 7.ศรีสะเกษ และ 8.พังงา

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่ามีผู้มีสิทธิบัตรทองสอบถามสายด่วนสปสช.1330 จำนวนมากกรณีมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช. หลอกถามหมายเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงินให้ ขอย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีจำนวนกว่า 47 ล้านคน ตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ให้สิทธิแก่คนไทยในการรักษาพยาบาลเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข ย้ำคนไม่ป่วยช่วยคนป่วย หากสงสัยสอบถามสายด่วนสปสช.1330 ก่อน

ทั้งนี้ สปสช.ได้รับเงินงบประมาณจากรัฐบาล จึงได้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวในปี 2553 เป็นจำนวนเงิน 2,406.32 บาทต่อประชากร ซึ่งงบรายหัวที่ได้เพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ขณะเดียวกันจะเน้นเรื่องการส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เข้าถึงบริการมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนแข็งแรงเพราะสังคมไทยกำลังจะเข้าสู่โครง สร้างสังคมที่มีประชากรสูงอายุในสัดส่วนที่มากขึ้น
แหล่งข่าวโดย.... เว็บไซต์คมชัดลึก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 02, 2010, 06:31:23 pm โดย ประสิทธิ์ »
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พระภิกษุ สามารถทำบัตรประชาชนได้แล้วในปัจจุบัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 06:30:02 pm »
0
ปัจจุบันนี้ พระสามารถทำบัตรประชาชนได้แล้ว ท่านใดมีความประสงค์จะทำบัตรประขาชนสำหรับ ให้เตรียมเอกสารไปติดต่อได้ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบถ่ายบัตรประชาชน สำหรับท่านที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ให้ติดต่อได้ที่ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งพระมหาบุญถิ่น ปุญฺญสิริ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด ได้ไปติดต่อทำบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับพระสงฆ์ ในเขตอำเภอเมืองเป็นรูปแรก  รายละเอียดอ่านต่อด้านในครับ
     
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ระวังการบอกหมายเเลขบัตรประชาชนทางโทรศัพท์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 06:55:45 pm »
0
ตอนนี้มาอีกรูปแบบใหม่ นอกจากเครดิตการ์ด กรมสรรพากร  ตอนนี้มาถึงศาลแล้ว
 
 


ถึงทุกๆท่าน

         ดิฉันมีเรื่องอยากเตือนทุกท่านให้ระวังเอาไว้  ถึงการหลอกลวงรูปแบบใหม่

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552  เวลาประมาณ 09.15 น.  ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข +886226994823
เป็น ระบบเสียงอัตโนมัติ อ้างว่าโทร.."จากศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร  แจ้งว่ามีหมายส่งถึงดิฉัน  แต่ไม่สามารถส่งหมายได้
ให้ติดต่อไปยังศาลอาญา    มิฉะนั้นศาลจะออกหมายจับไป  กด 1 หากต้องการฟังซ้ำ  กด 9 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่"

         ด้วยความที่ดิฉันเป็นทนายความ  จึงสงสัยและจับพิรุธได้ดังนี้
             1. เกิดมาไม่เคยกระทำความผิดใดๆ ตามกฏหมายที่จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา
             2. เบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ  เหมือนโทร.มาจากต่างประเทศ
             3. ในประเทศไทยไม่มีศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร
             4. ศาลไม่มีบริการติดตามคู่ความ หรือตรวจสอบข้อมูลทางโทศัพท์  (ยกเว้นท่านจะโทร.ไปที่ศาลเพื่อขอข้อมูลเอง
                 หรือตรวจสอบจากเว็บไซด์)

         ดิฉันจึงตัดสินใจกด  9 เพราะอยากรู้มีเขามีลูกเล่นอย่างไร  สักพักก็จะมีเสียงผู้หญิงรับสาย  (มีเสียผู้ชายดังเข้ามาเหมือน
กำลังเจรจาเกี่ยวกับคดีความกับคนอื่นอยู่ ซึ่งทำให้เหมือนจริงว่าโทร..มาจากศาล)  แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาสาจะตรวจสอบ
ข้อมูลให้  ขอทราบชื่อ-นามสกุล    ดิฉันก็แจ้งชื่อ-นามสกุลให้ทราบ  จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็ จะขอหมายเลขบัตรประชาชน 13  หลัก  ดิฉันไม่ให้  เขาก็บอกว่าการติดต่อราชการจะต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน  ดิฉันจึงบอกไปว่าการตรวจสอบข้อมูล
ของศาลนั้นไม่ต้องใช้เลขบัตรประชาชนก็ได้  ตรวจจากชื่อนาม-นามสกุลก็ได้แล้ว  ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังยืนยันว่าต้องใช้เลข
บัตรประชาชน  ดิฉันจึงแจ้งว่าจะไปติดต่อศาลเอง ขอทราบชื่อเจ้าหน้าศาลที่จะต้องติดต่อ  ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตอบมาด้วย
เสียงดุๆ  ว่าให้ไปติดต่อได้ที่ศาลอาญารัชดา แล้วก็รีบวางสาย  ไม่ยอมแจ้งชื่อให้ทราบ

         ดิฉันได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวพบว่า
             -  ไม่ใช่หมายเลขของศาลอาญารัชดาฯ
             -  เป็นรหัสทางไกล 886  ซึ่งโทร..มาจากไต้หวัน

ดังนั้นจึงขอเตือนทุกๆท่าน  ได้โปรดระวังการหลอกลวงแบบใหม่นี้ไว้ด้วย  เพราะหากท่านให้เลขบัตรประชาชน  13 หลักไป
ไม่ทราบว่าเขาจะเอาไปทำอะไร   เลขบัตรประชาชนของท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆของท่าน เช่นข้อมูลทางการเงิน
ข้อมูลบัตรเครดิต  ฯลฯ  ได้มากมาย  !!!!!!!!

       นอกจากนี้ขอให้เตือนเพื่อนๆ  ญาติสนิท  มิตรสหายของท่านให้ทราบด้วย

                                                                                    ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;