พิมพ์

[raponsan]

ในหลวงทรงอธิษฐานจิตยอดฉัตรทองคำ

ในหลวงทรงอธิษฐานจิตยอดฉัตรทองคำ ประดิษฐานบนยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงลงพระนามาภิไธยบนแผ่นทองคำประกอบยอดฉัตร ในขณะที่ช่างทองหลวงเร่งหุ้มยอดฉัตรทองคำให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค.

วันนี้(21พ.ย.)แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถา ในฐานะรองประธานอุปถัมภ์โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา เปิดเผยว่า ตามที่ทางโครงการฯ ได้ดำเนินการรวบรวมทองคำที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคมายังโครงการฯ เพื่อนำทองคำมาหลอมและขึ้นแบบเพื่อนำไปหุ้มยอดฉัตรของพระมหาโพธิเจดีย์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติต์ พระบรมราชินีนาถนั้น

หลังจากเริ่มดำเนินการรวบรวมทองคำจากผู้มีจิตศรัทธาตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2556 โดยตั้งเป้าให้ได้ทองคำน้ำหนัก 250 กิโลกรัม จึงจะสามารถหุ้มยอดฉัตรซึ่งมีความสูงประมาณ 6 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางในช่วงกว้างที่สุดของยอดฉัตรประมาณ 3 เมตรได้ทั้งหมด แต่หลังจากดำเนินการมาจนสิ้นสุดโครงการพบว่ามีทองคำที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด 289 กิโลกรัม

 

แม่ชีศันสนีย์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ได้มีการนำทองคำที่ขึ้นแบบเป็นยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์แล้วนำแยกเป็นชิ้นส่วน บรรทุกเครื่องบิน และนำไปประกอบบนยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์ ประเทศอินเดียแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ย. โดยก่อนที่จะมีการเดินนทางไปนั้น ทางโครงการฯได้นำทองคำที่ขึ้นแบบเป็นยอดฉัตรไปถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงอธิษฐานจิต ที่พระราชวังไกลกังวล พร้อมทั้งยังได้นำแผ่นทองคำถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงลงพระนามาภิไธย

ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานกลับมายังโครงการฯ เพื่อนำไปประกอบเป็นยอดฉัตรหุ้มพระมหาโพธิเจดีย์ โดยขณะนี้การหุ้มยอดฉัตรอยู่ระหว่างการดำเนินการโดยช่างทองหลวงไทยจากวิทยาลัยกาญจนาภิเษก จำนวน 11 คน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม

แม่ชีศันสนีย์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการโครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากรมว.วัฒนธรรมของประเทศอินเดีย แผนกโบราณคดีฝ่ายมรดกโลก รัฐบาลอินเดีย และคณะกรรมการบริหารมหาโพธิวิหารแล้ว และหลังจากหุ้มทองคำยอดฉัตรเรียบร้อยแล้วจะส่งมอบให้ทางคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นผู้ดูแลต่อไป เนื่องจาก พระมหาโพธิเจดีย์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา

สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะประธานโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา กล่าวว่า การบริจาคเงิน บริจาคทอง ถือเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยอามิสบูชา ซึ่งถือเป็นการบูชาด้วยสิ่งของ แต่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเสมอว่าอามิสบูชา สู้การปฏิบัติบูชาไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่ได้ร่วมกันทำอามิสบูชาด้วยการบริจาคทองคำหุ้มยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์แล้ว ขอให้ตั้งใจที่จะปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วย

 

นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ฝ่ายฆราวาสโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา กล่าวว่า พุทธคยาเป็นจุดกำเนิดของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่นี่เมื่อ 2,600 ปีที่แล้ว โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาโพธิเจดีย์ เป็นการบริจาคทองคำจากคนไทยทั้งประเทศ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงเนื่องในโอกาสครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทำให้เกิดเป็นพระพุทธศาสนาขึ้น และการดำเนินการโครงการนี้ทางวัดพุทธคยาจะบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ด้วยว่าเป็นการดำเนินงานของประเทศไทย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=196547

[rainmain]

ยอดฉัตรทอง พุทธคยา ในรัชสมัย รัชกาลที่ 9 ก้องก้งวานบุญเดช ทั่วโลก

  เป็นยุคทอง ของพระพุทธศาสนา ในช่วงนี้จริง ๆ