ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง.! เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน  (อ่าน 1017 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อึ้ง.! เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน

ทีมงานก่อสร้างอึ้ง ปรับปรุงซ่อมแซมโบสถ์วัดจันทร์อยุธยาที่ถูกน้ำท่วมจนทรุด แต่พอเคลื่อนย้ายองค์พระกลับพบวัตถุมงคล เศียรพระพุทธรูป สมัยรัตนโกสินทร์

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดจันทร์ ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้มีการย้ายองค์พระประธาน หรือหลวงพ่อขาว เพื่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ กลับพบวัตถุมงคลเศียรพระพุทธรูปจำนวนมาก จึงไปตรวจสอบ พบพระครูโสภณปริยัตยานุยุต เจ้าอาวาส กำลังควบคุมดูแลการเจาะฐานของพระประธาน หรือหลวงพ่อขาว เพื่อติดตั้งโครงเหล็กเอาไว้รองรับน้ำหนักองค์พระ กระทั่งพบว่าใต้ฐานองค์พระมีไหสีดำขนาดใหญ่ มีหูจับ 4 หู จึงนำมาเปิดดูพบว่า ภายในมีพระเครื่องเนื้อดินเผา อาทิ หลวงพ่อโตวัดบางกระทิง พระซุ้มกอเหรียญหลวงพ่อขาววัตถุมงคลรุ่นแรกของวัด




สอบถาม พระครูโสภณปริยัตยานุยุต เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า หลังจากวัดถูกน้ำท่วมเมื่อปี 54 โบสถ์เสียหายมาก จึงได้บูรณะเพื่อสร้างใหม่โดยการปรับปรุงพื้นที่และรื้อโบสถ์หลังเก่าออกเหลือไว้เพียงพระประธาน จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายพระประธานออกก่อน ทำให้พบพระพุทธรูปเศียรพระ และไหที่บรรจุพระเครื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพระเครื่องที่ทางวัดสร้างขึ้นและส่วนหนึ่งเป็นพระเครื่องเนื้อดินเผาเก่าแก่ที่บูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์

"จากการค้นคว้าประวัติวัดจันทร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งตะวันตกของแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ชานเมืองกรุงเก่า สันนิษฐานเป็นวัดสมัยรัตนโกสินทร์ยุคต้นในสมัยก่อน เมื่อประมาณ 70-80 ปีมีธรรมชาติเงียบสงบ ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมทั่วไปหมด ท้องทุ่งกว้างติดเขตวัดวัดจันทร์อยู่ในสภาพทรุดโทรมอุโบสถไม่มีหลังคาต้องใช้สังกะสีทำเป็นเพิงคลุมองค์พระประธาน พอกันแดดกันฝนครั้งอดีตมีหลวงตาแก่ๆ อยู่จำพรรษารูปเดียว ชาวบ้านแถววัดเรียกพระรูปนี้ว่าหลวงตาเขียว" พระครูโสภณปริยัตยานุยุต กล่าว




เจ้าอาวาสวัดจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนพระประธานภายในพระอุโบสถชาวบ้านเรียกหลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนสีขาวทั้งองค์ศิลปะรัตนโกสินทร์ยุคต้นในสมัยก่อนมักจะมีพวกนักขุดโบราณสถานและโบราณวัตถุแอบลักขโมยขุดหาทรัพย์สมบัติวัดจันทร์ ก็เป็นวัดหนึ่งที่ถูกขโมยลักขุด โดยขุดที่ฐานชุกชีพระประธาน ได้ทรัพย์สมบัติและพระพุทธรูปบูชาไปจำนวนหนึ่งพอรุ่งสว่างพวกขโมยรีบขนจนทำให้พระกระจัดกระจายไปทั่ว เพราะพวกขโมยขนไปไม่ทันส่วนพระพิมพ์ขนาดเล็กทั้งสีดำ สีแดง และเนื้อตะกั่วสนิมแดง หลวงพ่อโต ฯลฯปล่อยทิ้งไว้กระจายไปทั่วพื้นพระอุโบสถหลวง-ตาเขียวแกพบเห็นเข้าก็ให้ลูกชาวบ้านที่เลี้ยงควายอยู่แถวหลังวัดช่วยกันขนใส่กระบุงแล้วให้ แล้วให้ขนไปไว้ที่โคนต้นคูนใกล้ๆ หลังพระอุโบสถ

"สันนิษฐานจากพุทธลักษณะพระกรุวัดจันทร์เป็นพระพิมพ์ที่มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์กำแพงไขว้ พิมพ์ปิดตาพิมพ์ปางรำพึง พิมพ์นางกลีบบัว พิมพ์ซุ้มกอเล็กพิมพ์พลายเดี่ยวหลังจารตัวเฑาะว์ พุทธลักษณะสันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเป็นพระสร้างสมัยรัตนโกสินทร์ประมาณ 150-170 ปีจากลักษณะพิมพ์ทรงและอักขระคาถาที่ประทับด้านหลังองค์พระ เช่น อุเฑาะว์ นะ" เจ้าอาวาสวัดจันทร์ เผยเพิ่มเติม




นายบุญส่ง กิตินาม อายุ 80 ปี ชาวบ้านที่อยู่กับวัดมาตลอดชีวิต เปิดเผยว่า พระประธานที่วัดนี้เคยถูกคนร้ายตัดเศียร แต่เอาไปไม่ได้จึงได้ทิ้งเอาไว้ ซึ่งครั้งนั้นวัดยังไม่มีตัวโบสถ์มีเพียงรั้วสังกะสีเก่าล้อมเอาไว้ ต่อมามีการบูรณะวัดซ่อมแซมโบสถ์นำเศียรมาต่อใหม่ ส่วนพระเครื่องที่พบได้มีการรวบรวมและบรรจุเอาไว้ในไห.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/regional/215108/อึ้ง!+เคลื่อนย้ายองค์พระเจอเศียรสมัยรัตนโกสินทร์ใต้ฐาน
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ