ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'ถ้ำอชันตา' ปฏิมากรรมพุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก  (อ่าน 2321 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


'ถ้ำอชันตา' ปฏิมากรรมพุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก
'ถ้ำอชันตา'ปฏิมากรรมทางพุทธศาสนา ที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก : เรื่อง / ภาพ แล่ม จันท์พิศาโล

ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) เมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย...ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อ พ.ศ.๓๕๐ โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร  ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ทำให้ประวัติศาสตร์หน้าต่อมาของ ศาสนาพุทธในอินเดีย ได้ปรากฏขึ้นในหมู่ถ้ำบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดกกัน เมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฎร์ แห่งนี้
 
ต่อมาเรื่องราวของ ถ้ำอชันตา ได้หายเงียบไป กลายเป็นถ้ำร้างที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และต้นไม้ปิดปากถ้ำ...จนถึง พ.ศ.๒๓๖๒ จอห์น สมิธ นายทหารชาวอังกฤษได้เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ จนมาถึงบริเวณเทือกเขาแห่งหนึ่งบริเวณหมู่บ้านอชันตา และได้ค้นพบถ้ำแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ


 :49: :49: :49:

ถ้ำเหล่านี้ถูกเจาะลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อสร้างเป็นวัด มีวิหารขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นองค์เจดีย์ เป็นพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ เล่าเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดก และที่น่าแปลกใจ คือ ถ้ำเหล่านี้ซุกซ่อนตัวอยู่ที่นี่มานานถึงกว่า ๑,๕๐๐ ปี โดยไม่ถูกรุกล้ำจากผู้คนทั้งหลาย นับตั้งแต่จากวันที่ถูกทอดทิ้งให้รกร้างตลอดมา

การค้นพบ หมู่ถ้ำอชันตา ในครั้งนั้นทำให้โลกต้องตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ของศิลปะภายในวัดถ้ำ ที่ไม่มีใครเคยพบเห็น หรือรู้เรื่องมาก่อน ขณะเดียวกันก็ทำให้นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวของ ศาสนาพุทธ ในอินเดียได้อย่างชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ด้วยการศึกษาจากภาพแกะสลักหินภายในถ้ำ ที่ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ไม่ผุกร่อนพังทลายไปเหมือนพุทธสถานอื่นๆ เพราะทุกอย่างที่นี่ สลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก นับเป็นสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลกก็ว่าได้
   
ถ้ำเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ เป็นวัด เป็นวิหาร โดยใช้วิธีเจาะภูเขาทั้งลูกเข้าไป บางถ้ำมีถึง ๓ ชั้น มีทางเดินเชื่อมถึงกันตลอด

 

ถ้ำที่ก่อสร้างในยุคแรกๆ เป็น วัดถ้ำของพุทธฝ่ายเถรวาท พระสงฆ์ในยุคนั้นได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเรียบง่าย โดยเจาะหินเข้าไปเป็นห้องโถง เปิดโล่ง ใช้เป็นที่นั่งสนทนาธรรม ส่วนผนังทั้งสามด้านก็สกัดหิน เจาะเข้าไปเป็นห้องนอน ภายในมีเตียงหิน ห้องละ ๒ หลัง
 
วัดของพุทธฝ่ายเถรวาท หลายถ้ำสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นห้องบูชา ด้วยฝีมือการแกะสลักของช่างในยุคนั้น โดยได้สกัดหินจากด้านนอกเข้าไป และสกัดจากเพดานถ้ำลงมา จนได้ห้องโถงขนาดใหญ่ มีระเบียงทางเดินอยู่ด้านข้าง มีเจดีย์อยู่ในสุดของห้อง
   
มีการสร้าง พระสถูปเจดีย์ ไว้เพื่อสักการบูชาแทนองค์พระพุทธเจ้า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเช่นเดียวกับการสร้าง พระสถูปเจดีย์ ที่สืบทอดมาจากชาวพุทธทางอินเดียตอนเหนือ...ด้วยเหตุนี้ ถ้ำอชันตา ในยุคแรกจึงยังไม่มีการแกะสลักเป็นองค์ พระพุทธรูป ให้พบเห็นมาก่อนหน้านี้

 :25: :25: :25:

ถ้ำหมายเลข ๑๐ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ถ้ำอชันตา สร้างเป็น หอสวดมนต์บูชาพระเจดีย์ เมื่อครั้งที่ "จอห์น สมิธ" ได้เข้าไปพบเห็นเป็นครั้งแรก ตอนที่เข้าไปในในถ้ำนั้น ดินโคลนได้ทับถมสูงขึ้นไปจากพื้นถ้ำกว่าครึ่ง
 
"จอห์น สมิธ" ได้จารึกชื่อไว้บนเสาหิน พร้อมลงวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๓๖๒ ซึ่งเป็นวันที่ ถ้ำอชันตา ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลก
 
นอกจากนี้ยังมีรอยจารึกสำคัญที่พบในถ้ำเดียวกันนี้ ได้ระบุชื่อของกษัตริย์พระองค์หนึ่งในราชวงศ์สาตวาหนะ ทำให้นักประวัติศาสตร์ได้รู้ว่าวัดถ้ำที่อชันตาได้รับการอุปถัมภ์อย่างต่อเนื่องจากพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่การสร้างวัดถ้ำในยุคแรกๆ

   
 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ลักษณะของหมู่วัดถ้ำอชันตา นั้นพบว่ามีถ้ำมากกว่า ๓๐ ถ้ำ เรียงตัวต่อเนื่องกันยาวหลายร้อยเมตร บนเชิงเขาสูง ลักษณะเป็นวงโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว  บริเวณหน้าถ้ำแต่ละแห่งสร้างเป็นบันไดทอดยาวลงไปยังแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลลดเลี้ยวไปตามหุบเขาเบื้องล่าง แม่น้ำสายนี้คือ "แม่น้ำวโฆระ" ซึ่งจะมีระดับน้ำขึ้นสูงในช่วงฤดูฝน
 
ถ้ำพุทธฝ่ายเถรวาท ที่ "อชันตา" เจริญรุ่งเรืองอยู่ต่อมาอีกราว ๒๐๐ ปี จนถึง พ.ศ.๕๕๐ ก็หยุดชะงัก ไม่ปรากฏร่องรอยการสร้างวัดถ้ำของพุทธฝ่ายเถรวาทที่นี่อีกต่อไป นานถึง ๔๐๐ ปี จึงกลับมาสร้างต่ออีกครั้งในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๐
   
แม้จะยังไม่มีคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพุทธสถานที่ถ้ำอชันตาในช่วง ๔๐๐ ปี ที่เว้นว่างไป แต่ในช่วงเวลานั้นเองก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวสำคัญที่พลิกโฉมศาสนาพุทธในอินเดียไปอย่างสิ้นเชิง
     
สิ่งแรก คือ การเกิดขึ้นของ พระพุทธรูป สิ่งที่สองคือ ศาสนาพุทธ สายมหายาน ได้เกิดขึ้นแล้วอย่างเต็มตัว
 
การสร้าง วัดถ้ำ ที่ "อชันตา" ระยะที่ ๒ เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากศาสนาพุทธในอินเดียได้เข้าสู่ยุคของมหายานไปแล้วถึง ๔๐๐ ปี

   



ในบรรดาวัดถ้ำทั้งหมดพบว่ามีวัดถ้ำในแบบพุทธมหายานถึง ๒๔ ถ้ำ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นใน สมัยคุปตะ ซึ่งเป็นยุคทองของศิลปะอินเดีย พระภิกษุฝ่ายมหายานได้เข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และปรับเปลี่ยนถ้ำให้เหมาะสมกับพิธีกรรมที่ทำขึ้น
   
จากวิหารแบบเรียบง่ายที่สร้างขึ้นในสมัยพุทธฝ่ายเถรวาท ถูกเปลี่ยนไปเป็นห้องโถงใหญ่โตโอ่อ่า สลักหินเป็นเสาสูงมากมาย ที่หัวเสาแกะสลักเป็นลวดลายงดงามทั่วทั้งคูหาถ้ำ ผนังด้านในทั้งสองด้านแกะสลักเป็น พระพุทธรูป และ พระโพธิสัตว์ ขนาดใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือช่างประติมากรรมชั้นสูงในการแกะสลักหินออกมาได้อย่างอ่อนช้อยและสวยงาม
 
สำหรับถ้ำหมายเลข ๑ เป็น ถ้ำพุทธมหายาน ที่ได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลกว่า มีภาพเขียนสีที่งดงามมากที่สุด แม้เวลาจะผ่านมานานถึงกว่า ๑,๕๐๐ ปี ภาพก็ยังคงสีสันและลายเส้นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากอย่างไม่น่าเชื่อ
   
ถ้ำอชันตา อยู่ห่างจาก เมืองออรังกาบาด ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๑๐๔ กม. อยู่ในรัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย

       

ขอขอบคุณ...ข้อมูลจาก....หนังสือ "ตามรอยพระพุทธเจ้า",  palungdham.com <http://palungdham.com/> และ บริษัท ทรัพย์พันแสน ท่องเที่ยว จำกัด <supphunsean.com <http://supphunsean.com/>> ผู้นำคณะของเราไปชมสถานที่แห่งนี้ด้วยบริการที่ประทับใจยิ่ง
http://www.komchadluek.net/detail/20140313/180731.html#.UyGd3849S4l
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

MICRONE

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 310
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คงมีสักครั้ง ได้ไปสถานที่ แห่งนี้ พร้อมเหล่าผองเพื่อน ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

  :25: :25: :25: thk56
บันทึกการเข้า
อบอุ่นใจด้วยคุณธรรม จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา