พิมพ์

[raponsan]

สื่อผู้ดีออกคู่มือเที่ยวสงกรานต์ในไทย

สื่ออังกฤษเผยแพร่คู่มือแนะนำการเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ในไทย

ทอม เวเตอร์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ เดอะ เทเลกราฟ อังกฤษ จัดทำรายงานพิเศษอธิบายที่มาที่ไปฉบับย่อเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ในไทย พร้อมรวบรวมคำเตือนและแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเที่ยวสงกรานต์ในไทยให้สนุกและปลอดภัย รวมถึงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่ไม่ควรพลาด

ทั้งนี้ บทความของเวเตอร์เริ่มต้นด้วยการตอบคำถามว่าเทศกาลสงกรานต์ของไทยตามปกติแล้วจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 - 15 เม.ย. ของทุกปี แต่สำหรับปีนี้ ที่วันที่ 12 เป็นวันเสาร์ ดังนั้นการเฉลิมฉลองน่าจะเริ่มต้นเร็ว 1 วัน

ขณะที่ เทศกาลสงกรานต์ในภูมิภาคอื่นของไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ จะเฉลิมฉลองยาวนานเป็นสัปดาห์
นอกจากนี้ ลักษณะการฉลองตามแนวสงกรานต์ยังสามารถพบเห็นได้ในกัมพูชา ลาว พม่า และชนกลุ่มน้อยในมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน

 

สงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย คือเทศกาลของชาวพุทธ และเป็นช่วงวันหยุดยาวที่สำคัญของประเทศไทย คำว่า สงกรานต์นี้มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า การผ่าน หรือ การย้าย ในทางโหราศาสตร์ แต่เดิมนั้น การกำหนดวันสงกรานต์จะดำเนินการโดยพราหมณ์ ทว่า ทุกวันนี้ มีการกำหนดวันที่แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง

เวเตอร์อธิบายต่อว่าสงกรานต์ถือเป็นการสิ้นสุดฤดูแล้ง ซึ่งตรงกับเดือนเม.ย. เดือนที่ร้อนที่สุดของไทย และเป็นสัญญาณการย่างเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งตรงกับเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติไทย โดยชาวไทยส่วนใหญ่จะพากันเข้าวัด ขอพร และสรงน้ำพระพุทธรูป รวมถึงทำความสะอาดรูปปั้นพระพุทธรูปภายในบ้าน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นสิริมงคล ตลอดปีใหม่

สำหรับภาคเหนือของไทย ชาวพุทธจะหิ้วถุงทรายขนาดย่อมเข้าวัด อันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนหมายถึงการคืนดินที่เคยติดเท้ากลับไปในช่วงปีที่ผ่านมา โดยทรายเหล่านี้จะนำมาก่อเป็นเจดีย์ทราย ตกแต่งด้วยธงหลากสี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

 

รายงานจากสื่อผู้ดีระบุชัดว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ยังถือเป็นเทศกาลวันหยุดที่ยาวที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่คนต่างจังหวัดจะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน ดังนั้น กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศจึงค่อนข้างเงียบ รวมถึงการจราจรคับคั่งที่เป็นสัญลักษณ์ประจำกรุงเทพฯ ที่จะค่อนข้างสงบเรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อในช่วงไม่กี่วันนี้

สำหรับจุดเด่นหรือไฮไลท์สำคัญของเทศกาลสงกรานต์ก็คือการเล่นสาดน้ำ ซึ่งหากพูดตามความเป็นจริงแล้ว เวเตอร์ระบุว่า ระยะเวลา 3 วันของสงกรานต์ได้เปลี่ยนพื้นที่ทั่วประเทศให้กลายเป็นสงครามสาดน้ำ เด็กๆ จะถือปืนฉีดน้ำออกมายืนตามท้องถนนหรือนั่งอยู่ท้ายรถกระบะปิกอัพ พร้อมถังน้ำใบใหญ่ ตระเวณสาดน้ำตามท้องถนน

ทั้งนี้ นอกเหนือจากน้ำแล้ว ยังมีการปะแป้ง หรือสาดแป้งดินสอพองใส่กันอย่างเมามัน จนเปลี่ยนถนนหนทางให้ขาวโพลนประหนึ่งเพิ่งจะเผชิญพายุหิมะ โดยเวเตอร์เตือนว่า ข้อเสียของเทศกาลสงกรานต์เพียงอย่างเดียวที่ต้องระวังก็คืออุบัติเหตุตามท้องถนนร้ายแรงอันเกิดจากการเมาแล้วขับ

 

ประเด็นต่อมาที่ผู้สื่อข่าวอังกฤษรายนี้กล่าวถึงคือวิธีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยช่วงนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมตัวมีอย่างเดียวคือเตรียมรับการกอดจากคนไทย โดยเวเตอร์อธิบายว่า นักท่องเที่ยวมักเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่บรรดาวัยรุ่นไทยจะพยายามเสนอการละเล่นพิเศษเช่นสาดน้ำเย็นจัดใส่ขณะเดินผ่าน ซึ่งสถานที่ที่โด่งดังที่สุดในการเล่นสงกรานต์ในกรุงเทพฯ ก็คือถนนข้าวสาร ที่ที่มีชาวไทยและชาว
ต่างชาติออกมาต่อสู้ด้วยน้ำและกระป๋องเบียร์

เวเตอร์ยังได้รวบรวมคำแนะนำในเรื่องเสื้อผ้าที่ควรสวมใส่เพื่อเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ โดยระบุว่าเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัด และโอกาสที่เสื้อผ้าจะเสียหายยับจากการเล่นน้ำ ดังนั้น จึงควรใส่ให้น้อยชิ้น และไม่นำสิ่งของมีค่าติดตัว แต่เสื้อผ้าแบบโป๊เปลือยก็ไม่สมควรเช่นกัน เพราะจะกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวให้กระทรวงวัฒนธรรมไทยปวดหัว เนื่องจากขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม นอกจากนี้ หากอยากพกกล้องไป ก็ต้องใช้อุปกรณ์กันน้ำอย่างดี ไม่เช่นนั้น อาจตกเป็นเหยื่อของสงครามน้ำนี้ได้

 

ทั้งนี้ คู่มือเที่ยวสงกรานต์ของเวเตอร์ปิดท้ายด้วยการแนะนำสถานที่ควรเที่ยวในช่วงเทศกาล ในกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงแนะนำที่พัก โดยแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯที่ไม่ควรพลาดคือ สงกรานต์ถนนวิสุทธิกษัตริย์ บางลำพู ลานคนเมือง ถนนข้าวสาร และถนนสีลม ภาคเหนือคือจังหวัดเชียงใหม่และสุโขทัย ภาคกลาง ภาคตะวันออกและตะวันตก  คือจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะพัทยา จังหวัดอยุธยา กาญจนบุรี สมุทรปราการ และสุพรรณบุรี ภาคอีสานคือจังหวัดนครพนมหนองคาย และขอนแก่น ส่วนภาคใต้คือจังหวัด นครศรีธรรมราช ภูเก็ต อำเภอหาดใหญ่ และเกาะสมุย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/รอบโลก/ข่าวรอบโลก/287026/สื่อผู้ดีออกคู่มือเที่ยวสงกรานต์ในไทย