ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิสาขบูชา น้อมรำลึกหลักธรรม  (อ่าน 1120 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
วิสาขบูชา น้อมรำลึกหลักธรรม
« เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 12:13:07 pm »
0


วิสาขบูชา น้อมรำลึกหลักธรรม

วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา และยังเป็นวันสำคัญของโลก “เดลินิวส์ออนไลน์” รวบรวมความสำคัญของวันวิสาขบูชา เพื่อน้อมรำลึกถึงหลักธรรมที่ควรปฏิบัติ

วันวิสาขบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิดได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ และได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราว นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี และยังบังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6

นอกจากนี้วันวิสาขบูชา ยังถือเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ "วันสำคัญของโลก" อีกด้วยเนื่องจากคณะกรรมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลก ทั้งนี้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ


 :25: :25: :25:

ทั้งนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน

ดังนั้น เมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก ซึ่งหลักธรรมที่ควรนำปฏิบัติ ได้แก่

ความกตัญญู คือ ความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว้ก่อน เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น ทั้งบิดามารดา ที่มีอุปการคุณแก่ลูก ในฐานะผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบโต ให้การศึกษาอบรมสั่งสอน ทั้งครูอาจารย์มีอุปการะคุณแก่ศิษย์ ซึ่งความกตัญญูและความกตเวทีนี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ที่จะส่งผลให้ครอบครัวและสังคมมีความสุขได้ ส่วนในทางพุทธศาสนาการรู้พระคุณและตอบแทนด้วยความกตัญญูกตเวทีด้วยการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาและประพฤติปฎิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

 st11 st11 st11 st11

อริยสัจ4 คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงความจริงของชีวิตที่ไม่ผันแปร เกิดมีได้แก่ทุกคน มี 4 ประการ คือ ทุกข์ ทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐาน และทุกข์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหา ซึ่งทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นปัญหาของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น อันได้แก่ความอยากได้ต่างๆ นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ โดยทุกข์ทั้งหมดสามารถแก้ไขได้ โดยต้องแก้ไขตามทางหรือวิธีแก้ 8 ประการ และมรรค คือ การปฏิบัติเพื่อจำกัดทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ต้องการ

ต่อมา ความไม่ประมาท คือ การมีสติเสมอ ทั้งในขณะทำ ขณะพูด และขณะคิด สติ คือการระลึกได้ในภาคปฎิบัติเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเมื่อทำได้อย่างนี้ก็เชื่อว่ามีความไม่ประมาทจะนำไปสู่การทำงานต่างๆ สำเร็จได้ก็ด้วยความไม่ประมาท โดยที่ผู้ทำย่อมต้องมีสติระลึกรู้อยู่ว่าตนเองเป็นใครมีหน้าที่อะไร และกำลังทำอย่างไร หากมีสติระลึกรู้ได้อย่างนั้นก็ย่อมไม่ผิดพลาด

...คิดดี ทำดี พูดดี เพื่อตอบแทนคุณ...

ขอบคูณภาพและบทความจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/237064/วิสาขบูชา+น้อมรำลึกหลักธรรม
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ