ท่องไปกับใจตน : บุญห่อข้าวประดับดิน...บันดาลใจ
เรื่อง / ภาพ...ธีรภาพ โลหิตกุล
ฮีต 12 คอง 14 คำคล้องจองนี้ช่างมีความหมายถึงความมั่งมีมั่งมูนในวิถีวัฒนธรรมของชาวลาวและผู้คนบนที่ราบสูงอีสานของไทย เพราะงานบุญตามจารีตประเพณีตลอด 12 เดือนในรอบปี กับแนวทางประพฤติปฏิบัติตามครรลองคลองธรรมอันดีงาม 14 ประการ รวมเรียกว่า “ฮีต 12 คอง 14” คือคำอธิบาย “ผญา” หรือภาษิตเก่าแก่ของชาวอีสานบทที่ว่า...ไผว่าเมืองอีสานฮ้าง สิจูงแขนเพิ่นไปเบิ่ง เสียงแคนดังจ้นๆ เสียงพิณห่าวโดดโด่ง มันสิเศร้าอยู่จั่งได๋
 
แต่เพราะมีงานบุญกันได้ตลอด 12 เดือนในรอบปี ย่อมเป็นธรรมดาที่ในวันนี้ แต่ละชุมชน แต่ละพื้นที่ อาจให้ความสำคัญของงานบุญในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน เช่น อุบลราชธานี มีงานบุญแห่เทียนเข้าพรรษา หรือบุญเดือนแปด เอิกเกริกสุด ในขณะที่ยโสธร มีงานบุญบั้งไฟ หรือบุญเดือนหกที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ถ้าร้อยเอ็ดก็ต้องบุญพระเวสสันดร หรือบุญผะเหวด 
 
เช่นเดียวกับในลาว ชาวแขวงบอลิคำไซ ถือเอา “บุญซำฮะ” หรืองานบุญชำระล้างจิตใจให้ผ่องแผ้ว ด้วยการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ เป็นบุญใหญ่ในรอบปี ส่วนชาวแขวงหลวงพระบาง นอกจากบุญปีใหม่ หรืองานสงกรานต์อันโด่งดังระดับโลกแล้ว ยังมีอีกงานหนึ่ง ซึ่งเอิกเกริกไม่แพ้กัน คือ บุญห่อข้าวประดับดิน หรือบุญเดือนเก้า ซึ่งจะจัดพร้อมกับ “บุญส่วงเฮือ” หรือบุญแข่งเรือ ในราวเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี
 
 
แล้วบุญนี้ไยต้อง “ห่อข้าวประดับดิน” ? ห่อข้าว ในที่นี้หมายถึงห่อใบตอง หรือกรวยใบตอง ใส่ผลหมากรากไม้ ขนมนมเนย หมากพลู ข้าวเหนียว หรือสิ่งต่างๆ ที่เราปรารถนาจะส่งไปให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตลอดรวมถึงบรรดาสัมภเวสี หรือดวงวิญญาณสรรพสัตว์ซึ่งยังต้องแสวงหาที่เกิดทั้งหลาย “ประดับดิน” คือการเจตนาวางห่อข้าวไว้ตามโคนต้นไม้ ริมทางเดิน กำแพงวัด ฐานเจดีย์ ฯลฯ แล้วเปิดห่อข้าวทิ้งไว้ เพื่อให้สัมภเวสีที่ผ่านทางมา ได้มารับผลบุญอย่างทั่วถึงที่สุด กล่าวได้ว่า บุญข้าวประดับดิน เป็นงานบุญที่กล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้เป็นผู้รู้จัก “ให้” อย่างเท่าเทียม และอย่างงดงามเป็นที่สุด 
 
เรือนถัดมาอีกหลัง ขายแจ่วบอง (น้ำพริกเผา) กับข้าวแรมฟืน (อาหารทานเล่นทำจากบุก) ช่วงเช้าๆ คุณแม่จึงมีงานยุ่ง แต่ก็ยังไม่ลืมจัดห่อข้าวให้ลูกสาวเป็นตัวแทนไปวางประดับดิน ปีนี้ลูกสาวโตพอจะไปทำบุญที่วัดแทนพ่อแม่ได้แล้ว จึงจัดเตรียมกระติ๊บข้าวเหนียว ดอกไม้ ธูปเทียน ให้ลูกสาวไปทำบุญที่วัด พอดีน้องสาวแต่งตัวเสร็จก็ขอตามพี่สาวไปด้วย  
 
ตามริมถนนใจกลางเมือง มีคนทำกรวยใบตองใส่ผลไม้แบบสำเร็จรูป มาวางขายหลายเจ้า เพราะสาวๆ ไม่ค่อยทำห่อข้าวเองแล้ว มัวแต่เสียเวลาไปทำสวยที่ “วุด-ทิสักคลินิก” ซึ่งอุตส่าห์ข้ามโขงมาเปิดสาขาที่หลวงพระบาง ทว่า รากแก้วแห่งวิถีคนเมืองหลวงฯ ยังยึดโยงผู้คนจากรุ่น...สู่รุ่น ไม่ขาดสาย นี่สิ น่าทึ่งและควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้ยิ่งนัก 

 
โดยรวมแล้วกล่าวได้ว่าหากมีเวลา บุญห่อข้าวประดับดิน และบุญส่วงเฮือที่หลวงพระยง ควรค่าแก่การไปทัศนาเป็นบุญตายิ่งนัก ปีนี้วันขึ้น 15 ค่ำเดือนเก้า ตรงกับวันที่10 สิงหาคม 2557 ท่านใดสนใจ วางแผนการเดินทางแต่เนิ่นๆ นะครับ  (คุณค่าของสารคดีเรื่องนี้ ขออุทิศแด่ รศ.ดร.ขจิต จิตตเสวี กัลยาณมิตรรุ่นพี่ผู้ลาลับ หลังเดินทางกลับจากไปร่วมงานบุญห่อข้าวประดับดิน ที่หลวงพระบาง เมื่อ 6 กันยายน 2556)
ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140525/185221.html