พิมพ์

[raponsan]

ค่ายธรรมะกับเยาวชน ยาขมเป็นขนมสุขภาพใจ

การจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียนเป็นภารกิจสำคัญของสถานศึกษาที่จะต้องดำเนินการให้มี ความเหมาะสม อย่างต่อเนื่องเป็นไปด้วยวิถีที่สร้างสรรค์การเรียนรู้ทั้งภาคแนวคิดและการ ปฏิบัติ

นักเรียนโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้เข้าค่ายธรรมะ ที่ค่ายพุทธบุตรสหปฏิบัติฯ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณ บุรี โดยมีพระธรรมวิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ ดำเนินการอบรม

โดยฐานของ ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำมาประยุกต์สร้างเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน ซึ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เข้าถึงและนำไปสู่การพัฒนา สร้างทัศนคติที่ดี และการประยุกต์ธรรมะใช้ในชีวิตประจำวัน

"ศีล เป็นเครื่องรักษากายวาจาให้เรียบร้อย มีความสงบ เป็นปกติ ควบคุมพฤติกรรมไม่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน" พระอาจารย์ชาตรี ทันตาจาโร กล่าวให้โอวาท ก่อนนักเรียนจะสมาทานศีล 5 เพื่อน้อมนำมาเป็นหลักปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในค่ายธรรมะตลอดทั้ง 2 คืน 3 วัน

 

พระอาจารย์ชูชัย ธีรเมธี พระธรรมวิทยากร เล่าว่า "กิจกรรมมีความเรียบง่าย หลากหลาย ใช้ความเบิกบานเปิดใจ น้อมธรรมนำเด็กเข้าสู่การเรียนรู้ ด้วยกระบวนการที่ให้ได้คิดและใช้ความคิดแก้ไขปัญหา ซึ่งจะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ก่อให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาและการปฏิบัติมากขึ้น"

นาย นราธิวัฒน์ วงษ์สุรี ชั้น ม.4 เล่าถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้ ว่า "รู้เรื่องกฎแห่งกรรม กรรมคือการกระทำ มี 3 อย่าง คือ กรรมแรกเป็นรากฐานของทุกการกระทำ คือ มโนกรรม การใช้ความคิด ก่อนที่จะทำอะไรเราต้องใช้ความคิด แล้วก็ปฏิบัติกรรมนั้น และอีกสองกรรมคือ กายกรรม ใช้ร่างกายในการปฏิบัติกรรม เป็นการแสดงออกทางกาย เช่น การฆ่าสัตว์ และวจีกรรม การพูด ไม่ว่าจะเป็นการต่อว่าเพื่อน หรือการพูดให้พร และศีลก็เกี่ยวข้องกับกรรม เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ขโมยของ ผิดทางกาม เป็นกายกรรม ข้อมุสาวาทคือเว้นการพูดโกหกหลอกลวง เป็นวจีกรรม เยาวชนเราควรรักษาศีลให้ดี เวลาทำอะไรควรอยู่ในความพอดี"

น.ส.วี นัส พิมพขันธ์ ชั้น ม.4 กล่าวถึงการเข้าค่ายธรรมะครั้งนี้ว่า "ก่อนมาคิดว่า คงแบบโหดๆ เคยมาแล้ว รู้สึกว่าไม่ชอบ ไม่อยากมาเลย แต่พอมาแล้ว ได้เข้าฐาน คุยกับพระอาจารย์ ที่เป็นกันเอง อยากรู้อะไรก็ถาม ได้นั่งสมาธิ ทำให้รู้ใจตัวเองมากขึ้น ส่วนมากอยู่บ้าน หัวใจจะอยู่กับเฟซบุ๊ก ไลน์ การบ้าน แต่พอมาที่นี่ได้นั่งสมาธิ ได้สงบจิต เรียกหัวใจตัวเองกลับมา เราได้อยู่กับตัวเองและได้รู้จักใจตัวเองมากขึ้น"

 

การ เปลี่ยนแปลงทางสังคมจะเป็นไปอย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่ามีศีลธรรมเป็นกลไกในการขับเคลื่อนสังคม ก็พอจะมีความหวังได้ว่า จะเป็นการสร้างความสุขให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน ซึ่งท่านพุทธทาสได้เคยกล่าวว่า "ศีลธรรมของเยาวชนนั้นคือสันติภาพของโลก"

การนำนักเรียนมาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติหลักพุทธธรรมที่ดีงามจึงเป็นความหวังอย่างหนึ่งว่า "จะทำสันติสุขสู่สังคมไทยต่อไป"

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd016Y3hNRE0xT1E9PQ==&sectionid=TURNd053PT0