พิมพ์

[raponsan]

“พระบรมธาตุเจดีย์” วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ได้รับการติดตั้งแสงไฟแบบใหม่

ชม“แสง-สี” วัดพระบรมธาตุฯ เมืองนคร มิติใหม่ในการชมแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี

       การชมแสงไฟที่ประดับประดาในสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ของการท่องเที่ยว ที่สามารถเห็นความงดงามของแสงสี ซึ่งสวยงามไม่แพ้ช่วงเวลากลางวัน และที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความสวยงามของวัดในเวลากลางคืนได้อีกด้วย ซึ่งทางวัดนั้นจะมีการประดับไฟไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามของวัด โดยเฉพาะ “พระบรมธาตุเจดีย์” โบราณสถานสำคัญของวัดที่ถูกสาดส่องด้วยแสงไฟอย่างสวยงามให้ได้ชม

แสงไฟที่สวยงามมากขึ้นในยามค่ำคืน

       “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” แห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยตำนานกล่าวว่า พระบรมธาตุเจดีย์ สร้างโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พร้อมการสร้างเมืองนครศรีธรรมราชในพุทธศตวรรษที่ 18 และเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 คณะกรรมการมรดกโลก มีมติในการประชุมคณะกรรมการสมัยที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รับรองให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น ก่อนเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก กับองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)

“พระบรมธาตุเจดีย์” เมื่อครั้งยังติดตั้งแสงไฟแบบเก่า

       ความสวยงามของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารในช่วงเวลากลางคืนนั้น ถือได้ว่างดงามไม่แพ้ในช่วงเวลากลางวัน เพราะมีการเปิดไฟส่องสว่างให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ และเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางบริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จัดแคมเปญ ”ส่องสว่างความเป็นไทยสู่ชาวโลก” ร่วมมือกับทางจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างแบบใหม่ให้แก่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีการติดตั้งที่บริเวณพระบรมธาตุเจดีย์เป็นจุดแรก เพื่อเพิ่มความสวยงามให้มากยิ่งขึ้นและให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในยามค่ำคืน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกในอนาคต

นายธนากร วงศ์วิเศษ อธิบายหลักการวิเคราะห์แสงไฟ

       ปัจจัยสำคัญของความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในยามราตรีนั้นคือแสงไฟ แต่การติดตั้งไฟเพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวงดงามในช่วงเวลากลางคืนนั้น ต้องมีการวิเคราะห์ให้เหมาะกับสถานที่ท่องเที่ยวด้วย โดยนายธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า
       
       “การติดตั้งไฟในสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ต้องคำนึงถึงความสำคัญในประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยวมาเป็นอย่างแรก อย่างเช่นการติดตั้งไฟที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแห่งนี้ การใช้สีของแสงไฟก็ต้องมีการวิเคราะห์ ว่าแสงไฟนั้นมีการให้ความเคารพแก่สถานที่ท่องเที่ยวหรือไม่ และปัจจุบันจะเห็นได้ว่า การใช้ไฟในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะเป็นการใช้ไฟอยู่เพียงสีเดียว ซึ่งจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเป็นสีเดียวกันหมด และหากใช้แสงไฟที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ดูหมองลงไป แต่หากมีการวิเคราะห์และกำหนดโทนสี ก็จะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สวยงามมากขึ้นในยามกลางคืน”

แสงสียามราตรีของ “หอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี”

       อีกทั้งทางฟิลิปส์ยังมีการพัฒนาระบบแสงให้เป็นแบบแอลอีดี (LED) ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีของแสงได้ในโคมเดียว จึงเป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดวาง และสามารถประหยัดไฟเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ซึ่งยังใช้การวิเคราะห์ดังกล่าว ไปติดตั้งระบบไฟที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ วัดพระแก้ว, หอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี, หอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย, สะพานพระราม 8 อีกด้วย

ทัศนียภาพ “วัดพระแก้ว” ยามค่ำคืน

       การคำนึงถึงการใช้แสงสีเพื่อให้เเสงสว่างเเก่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในยามค่ำคืนนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้สถานที่นั้นงดงามไม่แพ้ช่วงเวลากลางวัน หากมีการจัดวางให้ถูกที่ถูกทางแล้วนั้น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจให้ได้มาชม เป็นการสร้างสีสันให้กับแหล่งท่องเที่ยว และกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คึกคักมากขึ้นแม้จะเป็นช่วงเวลาค่ำคืน

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000079260

[PRAMOTE(aaaa)]

ขออนุโมทนาสาธุ