ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘ขันติธรรมทางศาสนา’ คสช.หวังแนวสร้างสันติสุขเออีซี  (อ่าน 943 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


‘ขันติธรรมทางศาสนา’ คสช.หวังแนวสร้างสันติสุขเออีซี
‘ขันติธรรมทางศาสนา’คสช.หวังแนวสร้างสันติสุขเออีซี : สำราญ สมพงษ์รายงาน

จากกระแสความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งของคนในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขัดแย้งกันในด้านความคิด และความขัดแย้งกันทางด้านศาสนา หรือแม้แต่ในศาสนาเดียวกันก็ยังมีกรอบแนวคิดที่แตกต่างกัน ดังปรากฏที่มีการสู้รบกันเช่นปาเลสไตน์ภายใต้การนำของกลุ่มฮามาสสู้รบกับประเทศอิสราเอลที่มีความขัดแย้งกันด้านชาติพันธุ์โดยนำศาสนามาเป็นเครื่องมือ ส่วนที่ประเทศอิรักที่กลุ่มไอเอสที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุนีย์สู้รบกับรัฐบาลอีรักที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์

กระแสความรุนแรงหวาดกลัวรุกลามไปตามพื้นที่ต่างๆ อย่างเช่นนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำเครือข่ายก่อการร้าย 'อัล ไกดา' ประกาศผ่านคลิปวิดีโอความยาว 55 นาที ที่เผยแพร่เมื่อวาน ระบุว่า อัล ไกดา ได้ตั้งสาขาใหม่ในอินเดีย เพื่อหวังแผ่ขยายการต่อสู้ในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยกองกำลังใหม่ จะทำลายพรมแดนที่แบกแย่งประชากรมุสลิมในภูมิภาคนี้


 :32: :32: :32: :32:

ทั้งนี้ปกติแล้ว อัล ไกดา จะเคลื่อนไหวอยู่ในอัฟกานิสถาน และปากีสถาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ซ่อนตัวของนายซาวาฮิรี  แต่ผู้นำอัล ไกดา บอกว่า นักรบญิฮัดของอัล ไกดา จะขยายการต่อสู้ทั้งในรัฐอัสสัม รัฐคุชราต และรัฐจัมมู แคชเมียร์ ของอินเดีย เมียนมาร์ และบังกลาเทศ เพื่อปลดปล่อยชาวมุสลิมในดินแดนเหล่านี้ จากการกดขี่ ข่มเหง และความอยุติธรรม เขาบอกด้วยว่า กองกำลังนี้เกิดจากการใช้เวลานานกว่าสองปีในการรวบรวมนักรบ

นอกจากนี้ เขาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมในดินแดนเหล่านี้ สนับสนุนนักรบของเขา และอย่าไปยอมรับระบบประชาธิปไตยที่แยกศาสนาออกจากการเมือง แทนการปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม และรัฐบาลที่ยึดศาสนาอิสลามเป็นหลัก

 :49: :49: :49: :49:

พร้อมกันนี้วิทยาศาสตร์ก็ท้าทายความเชื่ออยู่พอสมควรอย่างเช่นผลงานวิจัยทีมนักจิตวิทยาและแพทย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเบอร์ลิน (Technische Universität of Berlin) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2014 ที่ผ่านมาว่า “ชีวิตหลังความตายมีอยู่จริง”ทั้งนี้จากผลการทดลองอิงจากพื้นฐานข้อสรุปของการศึกษาที่ใช้ประสบการณ์การเฉียดความตายในทางการแพทย์ที่ได้รับออกแบบให้เหมาะสมกับการทดลอง โดยทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตตามหลักการแพทย์ไปเป็นระยะเวลานาน 20 นาที ก่อนจะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ขณะเดียวกันชาวพุทธประเทศเมียนมาร์เกิดการปะทะกับชาวมุสลิมเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนจากทั้ง 2 ฝ่าย   และช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธและมุสลิมหลายแห่ง โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 คน กระแสต่อต้านมุสลิมลุกลามไปยังภาคกลางของประเทศ ทำให้เกิดเหตุรุนแรงในเมืองเมกถิลา และเมืองกันบาลู ในปี 2556 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่การจลาจลเกิดขึ้นในมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมาร์ ซึ่งมีชาวมุสลิมกว่า 2 แสนคน ขณะเดียวกันที่ประเทศศรีลังกาก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นเดียวกัน

 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยถึงจะมีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ถึงกระนั้นก็ยังมีประเด็นศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงความขัดแย้งเกี่ยวกับกรณีกรณีพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล  เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี  ตัดศีลปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์เหลือเพียง 150 ข้อ จากเดิม 227 ข้อเป็นต้น

จากแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างศาสนาดังกล่าวแม้ว่าจะมีองค์กรที่เรียกว่าองค์การสภาศาสนาโลกทำหน้าที่ในการระงับความขัดแย้ง โดยเริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1893 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันแต่ความขัดแย้งทางศาสนาก็ยังมีอยู่



 ask1 ans1 ask1 ans1


'มจร'เชิญ70ผู้นำศาสนาอาเซียนสร้างต้นแบบ'ขันติธรรมทางศาสนา'

อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ได้เห็นภัยของความขัดแย้งในรูปแบบต่างๆ ในฐานะที่สถานจัดการศึกษาต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพระหว่างศาสนาและสันติภาพโลกจึงได้เปิดหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสันติศึกษา(เชิงพุทธ)ขึ้น โดยมี ธัมมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดี  หัวหน้าหลักสูตรปริญญาโท สันติศึกษา "มจร"  เป็นหัวหน้าหลักสูตรปัจจุบันนี้เปิดเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว

ประกอบกับในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมอาเซีน เพื่อเตรียมความพร้อมทาง มจร ร่วมกับสำหนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ"พศ."ได้รับนโยบายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้มาหาแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติในมติทางศาสนา จัดประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาระหว่างวันที่ 24-29 กันยายนนี้  ภายใต้ชื่อเรื่องว่า “ขันติธรรมทางศาสนา” (Religious Tolerance) ซึ่งสอดรับกับแนวทางที่ยูเนสโกให้ย้ำเตือนให้มนุษยชาติใช้หลักขันติธรรมมาเป็นเครื่องมือในการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่มีความแตกต่างมีผลสรุปที่จะนำแนงทางนี้มาใช้เพื่อสร้างเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของพลเมืองประชาคมอาเซียน


 st12 st12 st12 st12

พระมหาหรรษา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเตรียมการจัดงานได้สรุปผลการประชุมเตรียมการดังกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานนี้ประกอบด้วย
     (1) เพื่อสร้างเวทีให้ผู้นำศาสนาต่างๆ ในประชาคมอาเซียน ได้นำเสนอองค์ความรู้ และหลักการสำคัญเกี่ยวกับขันติธรรมทางศาสนาตามที่ปรากฏในคัมภีร์ และความเชื่อของแต่ละศาสนา
     (2) เพื่อให้ผู้นำศาสนาในประชาคมอาเซียนได้ร่วมกันถอดบทเรียนเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรมในประชาคมอาเซียนของแต่ละศาสนิกชนในประชาคมอาเซียน
     (3) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างผู้นำศาสนาในประชาคมอาเซียน ซึ่งจะเอื้อต่อการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลาย ทางด้านศาสนาสังคมและวัฒนธรรมอย่างมีขันติธรรม และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
     (4) เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาระดับโลกในอนาคต โดยผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรทางพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ทั่วภูมิภาค


 :96: :96: :96: :96:

สำหรับการประชุมโต๊ะกลมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาอาเซียนครั้งนี้ จะประกอบด้วยผู้นำศาสนาจากทุกศาสนาในประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ จำนวน 70 รูป/คน และจะมีนิสิตพร้อมทั้งบุคคลทั่วไปจำนวนทั้งสิ้น 300  รูป/คน กิจกรรมต่างๆ จะประกอบด้วยการศึกษาดูงานพื้นที่กุฎีจีนในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร ซึ่งกลุ่มคนที่มีความเชื่อที่แตกต่างระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

การปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ขันติธรรมทางศาสนา” โดยพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร และเลขาธิการอาเซียน การเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “บทบาทของผู้นำศาสนากับการสร้างขันติธรรมในประชาคมอาเซียน” ระหว่างผู้นำจาก 5 ศาสนาหลัก การประชุมโต๊ะกลมเพื่อถอดบทเรียนของแต่ละประเทศเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรมของศาสนิกต่างๆ วันสุดท้ายจะเป็นการลงนามความร่วมมือระหว่างผู้นำศาสนาต่อประเด็นการกำหนดกิจกรรม และสร้างเครือข่ายเพื่อเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป ซึ่งผู้สนใจในสามารถติดต่อสอบถาม หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 035 248098  หรือ โครงการปริญญาโทสาขาสันติศึกษา www.li.mcu..ac.th



 ask1 ans1 ask1 ans1


จัดถก'ศาสนาในฐานะต้นเหตุแห่งสงครามและต้นตอแห่งสันติภาพ'

พร้อมกันนี้หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบ คณะพุทธศาสตร์  มจร  จัดสัมมนาทางวิชาการศาสนาเปรียบเทียบ ภาคเช้า สัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ศาสนาในฐานะต้นเหตุแห่งสงครามและต้นตอแห่งสันติภาพ" โดย Asst.Prof.Dr. Imtiyaz Yusuf จากมหาวิทยาลัยมหิดล และภาคบ่ายสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ประสบการณ์การสานเสวนาทางศาสนา: เครื่องมือแห่งศาสนศานติที่ยังต้องพัฒนา" โดย ผศ.ดร.ปาริชาด สุวรรณบุปผา จากมหาวิทยาลัยมหิดล ในวันอังคารที่ 30 กันยายน 2557 ณ ห้องประชุมคณะพุทธศาสตร์ ชั้นจี โซนดี อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


 ask1 ans1 ask1 ans1


อิสลามเปิดตัวสถาบันวะสะฏียะฮ์แนวคิดทางสายกลาง

ขณะเดียวกันทางด้านศาสนาอิสลามประจำประเทศไทยนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วยตัวกระทรวงศาสนสมบัติแห่งรัฐคูเวต ร่วมเปิดตัวสถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา โดยมีนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนทูตานุทูตและอุปทูตคูเวตประจำประเทศไทย ร่วมด้วย เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2557 ที่ผ่านมา

โดยนายอาศิส กล่าวว่า สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา มีแผนการพัฒนาและยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านความคิดสายกลางในอิสลาม เพื่อเผยแพร่ให้สังคมได้เกิดความรู้ ความเข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ดำรงอยู่ในทางสายกลางของทุกมิติคำสอน ทั้งเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจและการดำเนินชีวิต ซึ่งการเปิดสถาบันร่วมกับรัฐคูเวตครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญทางศาสนาเพื่อให้คนไทยได้มีความเข้าใจและเข้าถึงคำสอนของอิสลามได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือและสนับสนุนจากกระทรวงศาสนสมบัติและกิจการศาสนาแห่งประเทศคูเวตและแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อดำรงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของความเป็นมุสลิม ป้องกันแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของความขัดแย้งที่กำลังเบียดขับความมั่นคงของมนุษย์ในปัจจุบัน



 ask1 ans1 ask1 ans1


นักข่าวแนะรู้ปัญหาจริงลงคลุกพื้นที่

อย่างไรก็ตามนายปกรณ์ พึ่งเนตร ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและสำนักข่าวอิศราที่ติดตามเคลื่อนไหวสถานการณ์ภาคใต้มาตลอดให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาผู้นำองค์กรศาสนาในพื้นที่เก็บตัวเงียบไม่ออกมาแสดงความเห็นชี้ถูกชี้ผิด เพราะหากออกมาแล้วขัดกับกลุ่มก่อการร้ายอาจจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ ดังนั้นองค์กรหรือผู้ประสงค์จะสร้างสันติภาพภาคใต้จะต้องศึกษาปัญหาอย่างจริงจังแล้วลงพื้นที่อย่างจริงจัง ทำเพียงแค่จัดโครงการลงไป องค์กรศาสนาในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือส่งแต่ตัวแทนมาร่วมก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จ

แนวทางดังกล่าวนี้ข้างต้นนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง'ขันติธรรมทางศาสนา' เป็นความพยายามและเป็นตัวเชื่อมให้ประชาคมอาเซียนและโลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขบนสภาพพหุวัฒนธรรมความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140905/191569.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ