ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธศาสนา..กับประโยชน์และความควรโดยธรรม.! (ปัญหาจากอินเดีย)  (อ่าน 2728 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พุทธศาสนา..กับประโยชน์และความควรโดยธรรม.! (ปัญหาจากอินเดีย)

ปุจฉา : เข้าสู่เทศกาลจาริกแสวงบุญในอินเดียเนปาล มีชาวไทยเตรียมเดินทางกันไปมากมาย เพื่อร่วมงานบุญกุศล... พบงานบุญอยู่เรื่องหนึ่ง น่าจะเป็นคณะเดียวกันกับการสร้างทองหุ้มฉัตร ตรงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ได้เชิญชวนร่วมสร้างหรือบูรณะซ่อมประตูที่พระศรีมหาโพธิ์ (ไม่ทราบตรงไหน?) มีมูลค่าซุ้มประตูละ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท และจะมีการสร้างฉัตรทอง...ฉัตรเพชรภายในมหาวิหาร ที่ประทับของพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่รู้จักในชื่อ พระพุทธเมตตา โดยอ้างว่าเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมสร้างบูรณะ ซึ่งมีไม่บ่อยครั้ง...

...ไปร่วมงานถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ที่เวฬุวันมหาวิหาร ในครั้งนี้ ได้รับคำสอนจากหลวงพ่อว่า ...พระพุทธศาสนามิใช่วัตถุศาสตร์ แต่เป็นสัตถุศาสตร์ คือ คำสั่งสอนที่เป็นอริยสัจ อันเป็นไปเพื่อความรู้แจ้งในธรรมนิยาม... พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสั่งสอนให้พุทธบริษัทมุ่งสู่การปฏิบัติบูชาบนหนทางสายกลาง ที่เรียกว่า อริยมรรค อันมีองค์ธรรม ๘ ประการ เพื่อการเข้าถึงสัมมาญาณและสัมมาวิมุตติ ...

    สำหรับการบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ แม้มิได้ห้ามปราม แต่ก็มิได้ยกย่อง ทรงตรัสแสดงให้เห็นการใช้ประโยชน์แห่งวัตถุสิ่งของเหล่านั้น ที่เอื้อเฟื้อต่อการดำเนินชีวิตไปเพื่อการประพฤติธรรม
    ...จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพระสงฆ์องค์เจ้าทั้งหลายในสมัยนี้ ไม่มุ่งนำประชาชนเข้าสู่การศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนที่มุ่งสู่ธรรมทาน ให้ยิ่งกว่าวัตถุทาน...


    :96: :96: :96: :96: :96:

    มีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อไปนั่งอยู่ที่เวฬุวันฯ หลังจากร่วมถวายผ้ากฐิน และได้มีโอกาสร่วมถวายพระมหาธรรมเจดีย์โอวาทปาติโมกข์ ที่หลวงพ่อนำศรัทธาสร้างขึ้น กลางลานพระโอวาทปาติโมกข์ ในเวฬุวันมหา วิหาร ที่เป็นธรรมลักษณะของธรรมเจดีย์ที่ไม่ได้ใหญ่โตเชิงวัตถุ แต่เมื่อได้ฟังความหมายและได้สัมผัสด้วยจิตแล้ว กลับให้คุณค่าอย่างยิ่ง ด้วยแสดงถึงความเป็นสัตถุศาสตร์ มิใช่วัตถุศาสตร์ ไม่มีพระพุทธรูป เครื่องปั้นตบแต่งใดๆ ให้สิ้นเปลืองจนเกินเหตุ มีความเรียบง่ายสวยงาม เป็นความหมายธรรมของพระพุทธศาสนาที่นำไปสู่ความสงบ

    จึงออกจะชื่นชมในแนวคิดการออกแบบก่อสร้าง ที่ผูกความหมายธรรมและประดิษฐานพระธรรมวินัยไว้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะพระพุทธบัลลังก์ฯ ที่ได้ประดิษฐานแผ่นหินอ่อน จารึกอักษรบาลีโบราณพระโอวาทปาติโมกข์ไว้อย่างสมบูรณ์ประกอบตราธรรมจักร ซึ่งเป็นธัมมลักษณะที่ให้ความหมายอย่างลึกซึ้งถึงนัยสำคัญว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า แท้จริงคือ พระธรรมวินัย นี่เอง...



    ขออนุโมทนาต่อแนวรูปแบบ มหาธรรมเจติยะ ที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนา และขอมีส่วนร่วมในบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ที่ได้มีการปลูกสร้างเครื่องหมายพระพุทธศาสนาให้กลับคืนมาอย่างถูกต้อง ที่ชอบใจมาก คือ การไม่บอกบุญ หรือเรี่ยไรเงินทองจากประชาชน ต้องยอมรับว่า ทุกคนที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานบุญกุศลประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ มีความสุขใจ สบายใจ และสะอาดใจจริงๆ โดยวิธีเรียบง่าย ไม่มีบวงสรวงเทวดา ให้รกรุงรังด้วยศาสนพิธีแบบเดิมตามก้นพราหมณ์ ให้สูญเสียความเป็นอเทวนิยมของพระพุทธศาสนาไป เพื่อพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา จักได้ดำรงอยู่ในโลกนี้สิ้นกาลนาน ตามที่หลวงพ่อกระทำอธิษฐาน เทอญ

     ก่อนจบ มีเรื่องเล็กๆ แทรกปรากฏ ด้วยมีพระภิกษุรูปหนึ่ง ดูสีจีวรน่าจะเป็นมหานิกาย ลักษณะรูปร่างอ้วนๆ ได้เข้ามาแนะนำตนว่ากำลังประสานงานกับผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลอินเดีย เพื่อปลูกสวนไผ่สร้างสิ่งต่างๆ ในเวฬุวันฯ และได้สร้างถนนที่นาลันทาให้กับทางอินเดีย นั่งมองดูพระรูปดังกล่าวเห็นไปทำพิธีแปลกๆ ที่ลานพระโอวาปาติโมกข์ เหมือนปลุกเสกและซัดดอกไม้หรือสิ่งของไปบนซุ้มเจดีย์เดิมที่มีพระพุทธรูปองค์เล็ก ขอให้หลวงพ่อช่วยพิจารณาด้วย เพราะดูแปลกๆ ในการกระทำ


     นมัสการมาด้วยความเคารพ
            ศิษย์ผู้ใหญ่


 


วิสัชนา : เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา อาตมาคงไม่ต้องวิสัชนาใดๆ เพราะมีแง่คิดอยู่ในปุจฉาครบสมบูรณ์อยู่แล้ว หากรู้จักคิดพิจารณาโดยสามัญสำนึกของวิญญูชนในฐานะศาสนิกชน...

    ...เอาเป็นว่า เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันทุกฝ่าย จึงขอกล่าวถึงองค์ประกอบของศาสนาที่มุ่งขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามรูปแบบที่ถูกต้องโดยธรรมนั้น จะต้องประกอบขึ้นด้วย ศาสนธรรม ศาสนบุคคล ศาสนวัตถุ และศาสนสถาน โดยความสำคัญคงเป็นไปตามลำดับ หมายถึง ศาสนธรรม ต้องเป็นหลักสำคัญที่สุด ที่จะต้องถวายความเคารพสักการบูชาด้วยความศรัทธายิ่งในพระตถาคตเจ้า

     ซึ่งหมายถึงการรู้คุณค่าอันยิ่งของพระธรรมคำสั่งสอน ที่ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง อันจะนำไปสู่การให้กำเนิดศาสนบุคคล ด้วยการศึกษาปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในศาสนธรรม ซึ่งทั้งนี้คงปฏิเสธศาสนวัตถุและศาสนสถานไม่ได้ ว่าเป็นเครื่องช่วยเอื้อเฟื้อต่อการดำเนินชีวิตไปบนหนทางแห่งการศึกษาปฏิบัติ ดังที่พระวินัยแสดงให้เห็นถึงการจัดความสัมพันธ์อย่างพอเหมาะในประโยชน์อันควรโดยธรรม...

     :96: :96: :96: :96: :96:

    ดังนั้น ประโยชน์ใด หากไม่พอเหมาะ พอควร ประโยชน์นั้นก็จะเสียประโยชน์ไปโดยธรรม จึงไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ...สาธุชนจึงควรพิจารณาให้เข้าใจตามหลักดังกล่าว แล้วจะรู้ด้วยตนเองว่า... สิ่งนี้ควรทำ หรือไม่ควรทำ!!

      เจริญพร


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/327786/พุทธศาสนา-กับประโยชน์และความควรโดยธรรม-ปัญหาจากอินเดีย-
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 st11       :c017:      thk56       :s_good:
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา