ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : ภูมิวิปัสสนา 1.  (อ่าน 2466 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : ภูมิวิปัสสนา 1.
« เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 09:36:18 am »
0


สมาธิชาวบ้าน : ภูมิวิปัสสนา 1.

การทำสมาธินั้นไม่ง่าย ไม่ยาก เพียงแต่ต้องเข้าใจว่าจิตจะไปสู่ความเดิมแท้ได้ต้องมีวิธีการพรากจิตออกจากความคิด ซึ่งมีวิธีในการนำไปสู่เครื่องรู้ของจิตแทนการนำความคิดมาเป็นเครื่องรู้ เช่น กำหนดลมหายใจ กำหนดคำภาวนา ภาพนิมิตกสิณ วิธีต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้จิตมีเครื่องรู้ ให้จิตมีเครื่องระลึก แทนที่จะตกอยู่ใต้อำนาจความคิดอันเป็นสมมติบัญญัติ

เมื่อเราให้เครื่องรู้ จิตจะไปยึดกับเครื่องรู้ ยึดแบบไม่พรากจากกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ไปอยู่กับลมหายใจ ความรู้สึกหรือจิตนี้มันอยู่กับลมหายใจ เข้ารู้ ออกรู้ สั้นรู้ ยาวรู้ อยู่อย่างแนบแน่น สนิทกัน ไม่พรากจากกัน เพราะจิตไม่มีจังหวะใดที่จะหลุดไปคิด คือจิตอยู่กับกรรมฐานที่ให้อย่างแนบแน่น จิตจับความรู้สึก จับกับลมหายใจตลอดเวลาไม่พรากจากกัน แต่ช่วงขั้นนี้ผู้ปฏิบัติใหม่จะทำได้ยากหน่อย เพราะบางครั้งต้องใช้เวลา บางคนจะอยู่ได้ระยะหนึ่ง จิตจะพรากออกไปเอง เอาไปคิดซ้าย คิดขวาต่างๆ แต่เมื่อมีสติระลึกได้ จิตจะกลับมาใหม่และเป็นอยู่เช่นนั้น หากไม่นำรวมกันเป็นหนึ่งได้ จิตจะยึดติดกับความคิด เมื่อจิตไม่พรากจากความคิดก็จะไม่รู้สภาวะจิตเดิมแท้ได้


 st12 st12 st12 st12 st12

จิตเดิมแท้เป็นอาการของธาตุรู้อย่างหนึ่ง ก่อนที่จะถูกครอบงำจากความคิดอันเป็นสมมติบัญญัติ เมื่อจิตติดสมมติบัญญัติจะขังอยู่ในกรอบความคิดนั้นๆ ทำให้รู้เฉพาะในสิ่งที่เป็นความคิด ความฝัน กายสังขารเกิดมาจากธาตุรู้ เรียกว่าอวิชชา ยึดมั่นถือมั่น คิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา จิตไปเกิดในความคิดความฝันของเราเอง มิติของความคิด ความฝัน คิดเป็นเรื่องเป็นราว เป็นความจริง เพราะจิตที่ไม่ได้ฝึกอบรมมาอยู่ในภาวะไม่รู้ความจริงต่างเกิดมาในความฝัน มีกรรมต่างๆ ผูกพันกัน เกิดในความฝันร่วมกัน ทั้งที่สิ่งที่เราอยู่มันเป็นมิติของความคิดและความฝัน แต่เราแยกไม่ออกว่าแท้จริงแล้วคือความคิดมาปรุงแต่ง รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริง ทำให้เวียนเกิดเวียนตายอยู่อย่างนี้ หลุดออกไปไม่ได้



พระพุทธเจ้ารู้ว่าความคิดเหล่านี้เป็นมิติของความคิด ซึ่งการจะหลุดพ้นออกจากมิติของความคิดได้ มีทางเดียวคือต้องมีปัญญาพระนิพพาน ถ้าไม่ได้ปัญญาพระนิพพานแล้วย่อมต้องเวียนว่ายตายเกิด เวียนเกิดเวียนตายอยู่ในความคิด ความฝันของตัวเราเองนี้ ออกไปไหนไม่ได้

แนวทางการอบรมจิต คือเมื่อเรารวมจิตแล้วเริ่มรู้ความจริง จิตสงบลงด้วยอุบายกรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง จิตออกจากความคิดได้ เกิดปัญญาเรียกว่า "ภูมิวิปัสสนา" เกิดขึ้นเมื่อจิตพ้นอำนาจความคิดแล้ว เกิดความรู้ ความจริงต่างๆ ขึ้นมา ผู้ฝึกปฏิบัติเริ่มแรกนานๆ จึงจะเกิดอาการนี้ครั้งหนึ่ง ต่อไปเมื่อสมาธิมันมั่นคงแข็งแรงดี อาการผุดรู้จะเกิดเร็วขึ้น ต่อมาความรู้จะหลั่งไหลเหมือนสายน้ำไม่ขาดตอน ไม่ขาดสาย แม้จะออกจากสมาธิมาแล้ว จิตก็ยังคงมีปัญญาความรู้หลั่งไหลออกมาตลอด เป็นภูมิวิปัสสนาที่จิตพ้นอำนาจครอบงำของความคิดเดิม เกิดภาวะรู้จริง.



ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/231114/99349
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : ภูมิวิปัสสนา 1.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 10:12:55 am »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา