ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาเถรฯย้ำ "ห้ามบวชสามเณรี-ภิกษุณี" ในไทย  (อ่าน 1618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

มหาเถรฯย้ำ "ห้ามบวชสามเณรี-ภิกษุณี" ในไทย

มหาเถรสมาคมลงมติย้ำประกาศห้ามภิกษุสามเณรทุกนิกายบวชผู้หญิงเป็นภิกษุณีในไทย ยกเหตุผลภิกษุณีสาบสูญไปจากพุทธเถรวาทนานแล้ว พร้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศออกประกาศแจ้งพระในต่างประเทศต้องขออนุญาติมหาเถรสมาคมก่อนเข้ามาจัดบวชใครในประเทศไทย

วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวภายหลังประชุมมส.ว่า จากการที่พระศรีลังกามาบวชภิกษุณีในประเทศไทย จำนวน 47 คน ณ ทิพยสถานธรรมภิกษุณีอาราม ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เมื่อเร็วๆนี้นั้น ที่ประชุมมส.ได้มีการหารือกรณีดังกล่าวแล้ว และได้มีมติให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศ ปฏิบัติตามประกาศของกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ เรื่องห้ามพระเณรไม่ให้บวชหญิงเป็นบรรพชิต พ.ศ.2471 โดยห้ามมิให้พระภิกษุสามเณรทุกนิกายบวชผู้หญิงเป็นภิกษุณี เป็นสิกขมานา เป็นสามเณรี ด้วยเหตุผลที่ว่า นางภิกษุณีหมดสาบสูญขาดเชื้อสายมานานแล้ว

พระพรหมเมธี กล่าวต่อไปว่าแต่เดิมข้อบัญญัติในภิกขุนีขันธกะแห่งวินัยปิฎก ในพระไตรปิฎกกำหนดไว้ว่าผู้หญิงทั่วไปที่อายุยังไม่ครบ20ปีสามารถเข้ารับบรรพชาเป็นสามเณรี และเมื่ออายุได้18ปีให้บวชเป็นสิขมานาผู้รักษาศีล6ข้อ ซึ่งจะขาดไม่ได้แม้แต่ข้อเดียวเป็นเวลา 2ปี จนมีอายุครบ20ปี จึงจะสามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีจากอุภโตสงฆ์ คือ คณะสงฆ์2ฝ่าย ได้แก่ ภิกษุณี และภิกษุสงฆ์เถรวาท แต่เมื่อปัจจุบันภิกษุณีในพระพุทธศาสนาเถรวาทได้ขาดสูญไปแล้วการบรรพชาสามเณรีและการอุปสมบทภิกษุณีโดยภิกษุสงฆ์เถรวาทเพียงฝ่ายเดียวจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้


 :96: :96: :96: :96: :96:

กรรมการและโฆษกมส. กล่าวอีกว่า ภิกษุณีสงฆ์ก็ได้ขาดสูญไปจากประเทศศรีลังกาแล้วเช่นกันตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าวิชัยพาหุ  ซึ่งในปัจจุบันคณะสงฆ์และรัฐบาลศรีลังกาก็ไม่ได้รับรองสถานภาพของภิกษุณีในศรีลังกาด้วยเหตุผลที่ว่าภิกษุณีสงฆ์เถรวาทได้ขาดสูญไปนานแล้ว การนำภิกษุและภิกษุณีสงฆ์มหายานจากเกาหลีและไต้หวันมาร่วมอุปสมบทแก่ภิกษุณีเถรวาทที่อินเดียย่อมทำให้สังฆกรรมนั้นบกพร่องไม่เป็นไปตามพระวินัยกำหนด  ทั้งนี้มหาเถรสมาคมยังได้มอบหมายให้พศ.ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศในการที่จะออกประกาศให้พระสงฆ์จากต่างประเทศที่จะมาจัดพิธีบรรพชา อุปสมบทในประเทศไทย ต้องแจ้งให้มหาเถรสมาคมรับทราบ และได้รับหนังสืออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเพื่อป้องกันเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นที่จังหวัดสงขลาอีก

"เราไม่ได้ห้ามไม่ให้ภิกษุณีอยู่ในประเทศไทยแต่มหาเถรสมาคมห้ามภิกษุบวชภิกษุณีในประเทศไทย เพราะตามประวัติศาสตร์ถือว่าภิกษุณีเถรวาทหมดไปจากประเทศไทยแล้ว และที่มีการกล่าวอ้างว่า มีพระมหินทวังสะเจ้าอาวาสวัดทีปทุตมาราม แห่งนิกายอมรปุระ  ประเทศศรีลังกามาเป็นประธานบวชภิกษุณีในประเทศไทยก็เป็นการกระทำที่ขัดต่อประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตามทราบว่าในเร็วๆนี้จะมีการบวชภิกษุณีอีกจึงมอบหมายให้พศ.ติดตามและดำเนินการตามประกาศดังกล่าวต่อไป" โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/286849/มหาเถรฯย้ำห้ามบวชสามเณรี-ภิกษุณีในไทย
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มหาเถรฯย้ำ "ห้ามบวชสามเณรี-ภิกษุณี" ในไทย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2014, 02:26:01 am »
0
อาจจะทําให้พุทธศาสนามีอายุสั้นลง

       และมีอายุไม่ครบ พ.ศ.๕๐๐๐ ตามพุทธทํานาย

           เพราะกรรมเปลี่ยน ผลก็อาจจะเปลี่ยน
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา