เห็นด้วย ครับ ทาง กลุ่ม มส. ต้องการให้ คนหลาบจำ ไม่ให้ มี พระ รูปไหน มาทำแบบนี้อีก
มองในแง่ ดี ก็คือ ดี จะได้ไม่มีใครมากล้าทำ
แต่ มองในความถูกต้อง
การที่ พุทธอิิสสระ กระทำนั้น เขาเรียกว่า การยื่น ฏีกา เพื่อสอบสวน คดี ( ในกลุ่ม สงฆ์ เอง )
ดังนั้น มส. ไม่ควรดำเนินการ แจ้ง เอาผิด กับผู้ยื่น ฏีกา กับ ผู้ยื่นเรื่อง
เพราะประโยชน์ ของ ฏีกา นั้นก็คือ เพื่อขจัดมลทิน ให้กับ ผู้ที่ถูกกล่าวหา หรือ คดีไม่ยุติธรรม
ดังนั้น การที่ มส. ส่ง พระเมธีธรรมาจารย์ และ กลุ่ม พศ. ออกมา ชักชวนให้คนออกมาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้หมิ่นประมาท ใน มส. อันนี้เห็น ชัด ๆ เลยว่า กลุ่ม มส. ใจไม่กว้าง และ ต้องการเอาเรื่อง ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ควร กระทำการเยี่ยงนี้ กับผู้ยื่น ฏีกา อีกทั้งยังมีการกดดัน ทำลายกลุ่มตรวจสอบ อีก แสดงให้เห็นว่า จงใจแสดงอำนาจ ว่า สงฆ์ เป็นใหญ่ สามารถ ชี้เป็น ชี้ตาย คนในรัฐได้
ดังนั้น ผมคนหนึ่ง เมื่อติดตามข่าวสารของสงฆ์ มา ถึงแม้ส่วนตัวไม่ได้ ชอบ พุทธอิสสระ แต่ ก็เห็นว่าท่าน ก็ดำเนินขั้นตอนกล้าชน ในเรื่องที่ ประชนชนสงสัย อย่าลืมว่าประเด็นวัดพระธรรมกาย นั้น ถูกหมกเม็ดและคุยกันมาในเว็บ มากมาย จนเป็นตำรา หรือ กระทั่ง มส. บีท พระพรหมคุณาภรณ์ ที่ออกวิจัยเรื่อง ธรรมกาย นั้นกระเด็นไปอยู่ชนบท
คนเป็นบัณฑิต มองเห็นการกระทำ และเรื่องราวเหล่านี้ ดี แต่ สุดท้าย มันสู้อำนาจเงินตราไม่ได้ เพราะพระสงฆ์ไทย เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ได้รับเงินจากวัดธรรมกาย กันถ้วนหน้า ไปดูรายชื่อ ตอนที่ นิมนต์พระสังฆาธิการมารับปัจจัย ที่ วัดธรรมกายให้ดี นะครับ
หรือ แม้ แต่ความช่วยเหลือ เรื่องบิณฑบาต ช่วยเหลือ ภาคใต้ ผมเคยสอบถามไปทางที่วัดภาคใต้ ก็ตอบมาว่า ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ ใด ๆ ก็มีหลายวัดนะครับ นั่้นหมายถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ยังไม่ลง รวม นั่นก็นับ พวกธรรมยุติ ด้วย
แต่ ธรรมยุต มีพระน้อยกว่า มหานิกาย มาก มีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น หมายถึง 300
ใครอยากร่วม ดีเดย์ แจ้งความ ก็เชิญ เถิด อย่าให้ใจ ปิดด้วย ปัญญา ของตนนะ