พิมพ์

[raponsan]

สุขสันต์ที่ “สังคม” ชมอรุณรุ่งและอาทิตย์อัสดงงามจับตา มุดถ้ำพญานาคลึกลับจับใจ

ทะเลหมอก “ภูห้วยอีสัน” งดงามตราตรึง

        เมื่อก่อนนี้หากเอ่ยถึง “อำเภอสังคม” เชื่อว่าคงมีใครหลายๆ คนที่อาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือได้ยิน แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อำเภอสังคมเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลาย มีทัศนียภาพอันงดงาม และยังเงียบสงบไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากนัก
       
       เริ่มต้นการท่องเที่ยวอำเภอสังคมด้วยการสัมผัสกับรุ่งอรุณยามเช้าที่จุดชมวิว “ภูห้วยอีสัน” ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวยามเช้าที่กำลังได้รับความนิยมของอำเภอสังคม มีความสูงประมาณ 200 เมตร ผู้ที่มาเยือนนั้นจะได้ยลทัศนียภาพยามเช้าที่สวยงามเกินบรรยาย โดยเห็นดวงตะวันขึ้นที่ปลายขอบฟ้าที่ฝั่งประเทศลาว ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคมนั้น จะสามารถเห็นทะเลหมอกอันตระการตา สายหมอกดูปุกปุยนุ่มละมุน แต่หากไม่มีทะเลหมอกให้ได้ยลก็จะสามารถเห็นแม่น้ำโขงที่ทอดตัวยาวลัดเลาะขุนเขาน้อยใหญ่ สายน้ำถูกลำแสงแรกของวันกระทบจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับงดงามจนไม่อาจละสายตา

หมอกหนาแลดูปุกปุย ที่ “ภูห้วยอีสัน”

        การขึ้นไปชมวิวที่จุดชมวิวภูห้วยอีสันนั้น จะต้องขึ้นรถอีแต๊กไป เพราะเส้นทางนั้นลาดชัน และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถส่วนตัวขึ้นไป ซึ่งจะต้องโทร.นัดเพื่อจองรถ และจะต้องมาขึ้นรถประมาณตี 5 บริเวณที่ทำการ อบ.ต.บ้านม่วง หรือพื้นที่ของร้านอาหารครัวไม้น้ำ รถอีแต๊ก 1 คันนั่งได้ 5-6 คน ราคา คนละ 60 บาท ระยะทางจากจุดขึ้นรถไปยังจุดชมวิว ห่างกันไม่มากประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ

“รถอีแต๊ก” พาหนะคู่ใจ เพื่อไปดูวิวสวยๆ บนภูห้วยอีสัน

        สำหรับความเป็นมาของจุดชมวิวภูห้วยอีสันนั้น เมื่อครั้งอดีตพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่การเกษตรชาวบ้านโดยมีการปลูกยางพารา กล้วยน้ำว้า ข้าวโพด และเมื่อปี พ.ศ. 2555 นายชัยพร เบ้าแก้ว เกษตรกรของสวนละแวกนั้น ได้ถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ลงในโลกโซเชียล และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีผู้เดินทางมาชมมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมา นายศิริศักดิ์ เบ้าแก้ว นายก อบต.บ้านม่วง ซึ่งเป็นพี่ชายของชัยพร ได้นำภาพทัศนียภาพอันงดงามของภูห้วยอีสันไปเสนอกับนายอำเภอสังคม และมีการสำรวจสถานพื้นที่ในเวลาต่อมา รวมถึงได้มีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมสำรวจ จนได้รับความเห็นชอบ และเปิดเป็นจุดชมวิวภูห้วยอีสันอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2556

บรรยากาศใน “ถ้ำดินเพียง”

        สถานที่ท่องเที่ยวแห่งถัดมา คือ “วัดถ้ำดินเพียง” หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “ถ้ำพญานาค” ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลผาตั้ง ภายในวัดถ้ำศรีมงคล โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งเรื่องราวพญานาคของจังหวัดหนองคาย ที่ถ้ำดินเพียงแห่งนี้ มีตำนานความเชื่อกันว่าเป็นถ้ำพญานาค ที่เป็นประตูมิติเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และเมืองบาดาล เป็นเส้นทางที่พญานาคใช้เดินทางกลับสู่ใต้บาดาล และยังมีความเชื่อด้วยว่าเป็นเส้นทางที่พระธุดงด์ทรงศีลแก่กล้าจากลาวใช้ข้ามฝั่งลอดใต้แม่น้ำโขงเข้ามายังฝั่งประเทศไทย
       
       ลักษณะของถ้ำดินเพียงนั้น เป็นถ้ำใต้ดินที่มีปากทางเข้าอยู่เสมอดินในระดับปกติ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ถ้ำดินเพียง” ภายในถ้ำแห่งนี้ไม่ได้มีหินงอกหินย้อยหรือโถงกว้างใหญ่เหมือนถ้ำอื่นๆ แต่กลับมีโพรงหรือห้องเล็กๆ อยู่มากมายที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน และซับซ้อนเหมือนเขาวงกต บางห้องสามารถเชื่อมถึงกันได้ แต่มุมภายในถ้ำก็จะมีส่วนเว้าโค้งของหินที่สวยงามให้ได้ชม การเดินทางเข้าถ้ำควรมีผู้นำทางเพราะถ้าไปเองอาจทำให้หลงทางและเป็นอันตราย

น้ำตกธารทอง (ภาพ : www.photogangs.com)

        “น้ำตกธารทอง” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของอำเภอสังคม โดยตั้งอยู่ที่ตำบลผาตั้ง น้ำตกธารทองเป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก มีความสูงประมาณ 30 เมตร สายน้ำตกลดหลั่นจากหน้าผาเรื่อยๆ มา จนถึงตอนล่างของน้ำตกที่จะมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ ก่อนจะลดระดับเกิดเป็นชั้นน้ำตกเล็กๆ และไหลลงสู่แม่น้ำโขง น้ำตกแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งในอำเภอและต่างจังหวัด ในการมาเล่นน้ำและพักผ่อน เพราะที่ตั้งของน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากถนนทางหลวงศรีเชียงใหม่-สังคม การเดินทางจึงสะดวก ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมคือระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม

ทัศนียภาพเมื่อยามแม่น้ำโขงลดที่ “หนองปลาบึก”

        อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของอำเภอสังคม คือที่ “หนองปลาบึก” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสแม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิด โดยตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะสามารถชมได้ในช่วงหน้าแล้งเท่านั้น เมื่อยามที่น้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงก็จะมีโขดหินมากมายผุดขึ้นมา กลายเป็นเกาะแก่งที่ขึ้นสวยงามทอดยาวขวางกั้นสายน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เป็นจุดชมอาทิตย์อัสดงได้อย่างสวยงาม โดยสามารถนั่งเรือรับจ้างเพื่อไปยืนชมดวงตะวันลาลับขอบฟ้า พร้อมสายน้ำสะท้อนแสงสุดท้ายได้ที่แก่งหินต่างๆ

อาทิตย์อัสดง ที่ “หนองปลาบึก”

        ที่หนองปลาบึก ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีตำนานพื้นบ้านได้เล่าไว้เช่นกัน ซึ่งผู้คนแถวนั้นได้เล่าต่อๆ กันมาว่า “ท้าวเซียงแม่งชาวเมืองหลวงพระบาง เดินทางล่องมาตามลำน้ำโขงได้แวะพักที่บริเวณแห่งนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนองน้ำกลางลำน้ำโขง เวลานั้นน้ำในแม่น้ำโขงใสสะอาดจนสามารถมองเห็นฝูงปลาบึกแหวกว่ายน้ำอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ ดูแล้วสวยงามมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ “หนองปลาบึก”

ทัศนียภาพอันกว้างไกลยามเย็นที่ “วัดผาตากเสื้อ”

        สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เมื่อได้มาเยือนอำเภอสังคมแล้วก็ต้องห้ามพลาดคือ “วัดผาตากเสื้อ” ตั้งอยู่ตำบลผาตั้ง บนเทือกเขาภูพานน้อย วัดผาตากเสื้อแห่งนี้เมื่อครั้งอดีตเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์สายวิปัสสนา ปัจจุบันป็นที่ตั้งของวัดผาตากเสื้อ ภายในวัดนั้นร่มรื่นและเงียบสงบ และยังเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่งดงามของอำเภอสังคม
       
       ที่จุดชมวิววัดผาตากเสื้อนั้น มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร ในวันที่ฟ้าเปิดจะสามารถมองทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล โดยเป็นทัศนียภาพของอำเภอสังคมที่ตั้งขนาบกับแม่น้ำโขงที่ไหลโค้งเป็นคุ้งน้ำจนเกิดเป็นเกาะกลางแม่น้ำขนาดใหญ่และแยกรูปตัววาย(Y) ไกลออกไปคือฝั่งประเทศลาวเพื่อนบ้านด้านทิศตะวันออก อีกทั้งในบางวันก็จะมีโอกาสเห็นฟ้าเปลี่ยนสีในยามเย็น เมื่อยามที่ตะวันลับขอบฟ้า ก็จะเหลือแสงสีส้มอมแดงทิ้งไว้ให้ได้ชมก่อนจะฟ้าจะมืดลง เป็นอีกหนึ่งวิวทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจุดชมวิววัดผาตากเสื้อแห่งนี้

แสงไฟบนถนนของอำเภอสังคม ยาวขนาบลำน้ำโขงยามพลบค่ำ “วัดผาตากเสื้อ”

        สถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอสังคมยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกมากมาย อาทิ เหมืองทองโบราณ, ไร่ข้าวโพดบ้านวังมน, แก่งพาล (แกรนด์แคนยอนหนองคาย), หาดทรายขาว อำเภอสังคมจึงเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่หากได้มาเยือนแล้วก็คงจะไม่ผิดหวัง เพราะด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มากมายเช่นนี้ ก็คงไม่ทำให้การท่องเที่ยวน่าเบื่ออย่างแน่นอน
                 
       

       สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานอุดรธานี พื้นที่รับผิดชอบ จ.อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ โทร.0-4232-5406-7
       
       การเดินทางไปชมพระอาทิตย์ที่จุดชมวิว “ภูห้วยอีสัน” ต้องติดต่อ อบต.บ้านม่วง โทร.0-4241-4871, 0-8721-9550-0 หรือ ครัวไม้น้ำ โทร.0-8500-1741-1 เพื่อจองรถอีแต๊กในการขึ้นไปชม โดยจะต้องมาขึ้นรถเวลาประมาณตี 5 หากช้าจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น เพราะเส้นทางนั้นลาดชันต้องใช้เวลาในการเดินทาง ค่าบริการรถอีแต๊กคนละ 60 บาทนั่งได้ 6-7 คน
       
       การเดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกและแก่งหิน ที่ “หนองปลาบึก” สามารถใช้บริการเรือของชาวบ้าน เที่ยวละ 300 บาท เรือนั่งได้ 5 คน สอบถามที่ ครัวไม้น้ำ โทร 0-8500-1741-1
       
       การเดินทางไปชมวิวทิวทัศน์ที่ “วัดผาตากเสื้อ” ควรแต่งกายสุภาพและทางวัดมีข้อห้าม ไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยทางวัดจะมีผ้าถุงและผ้าม้าให้บริการ สำหรับผู้ที่นุ่งสั้น

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000015886

[nongyao]

สวยจริง ๆ  ๆ

[PRAMOTE(aaaa)]

    สาธุ  สาธุ

      ชอบครับ

    รู้สึกถึงความ.....คุ้นเคย

      ที่แบบนี้ เห็นเมื่อไหร่......รู้สึกชอบ  แดนดินถิ่นนี้

   ขอเน้นว่า.. ที่เกี่ยวพัน กับพญานาคราช