ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมภารวัดใหญ่  (อ่าน 2822 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29351
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมภารวัดใหญ่
« เมื่อ: มีนาคม 23, 2015, 07:57:41 pm »
0

วัดใหญ่ แม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม

สมภารวัดใหญ่

หันหน้าหาปากคลองแม่กลอง โบสถ์วัด (หลวงพ่อ) บ้านแหลมอยู่ฝั่งขวา โบสถ์วัดใหญ่อยู่ซ้าย เดิมที...ชุมชนเมืองแม่กลอง...อยู่แถววัดใหญ่ ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม

เมื่อรถไฟมาถึงข้างวัดศรีจำปา...ศูนย์กลางเมือง ก็เปลี่ยนไป วัดศรีจำปา วัดเล็กๆ มีพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร เป็นพระประธานในโบสถ์ กลายเป็นวัด (หลวงพ่อ) บ้านแหลม ชุมชนเล็กกลายเป็นตลาดแม่กลอง

แต่วัดใหญ่ ก็ยังคงชื่อ “ใหญ่” เพราะมี “กลอง” ใบใหญ่ อยู่ในหอกลอง ข้างศาลาการเปรียญ กลองใบนี้เป็นต้นตำนาน...เรื่องเมืองแม่กลอง ครั้งหนึ่ง มีกลองใบใหญ่ลอยน้ำมา

ชื่อวัดใหญ่ ไม่ได้ใหญ่จากกลองใบเดียว...เทพชู ทัพทอง เขียนไว้ว่า วัดใหญ่สร้างตั้งแต่สมัยปลายอยุธยา ชื่อวัดตั้งตาม เนิน เดิม มี สามพี่น้อง ผู้สร้าง


 st12 st12 st12 st12

สมัยธนบุรี จีนกุน บุตรชายจีนกุ๋ย พ่อค้าเรือสำเภา รับราชการเป็นพระราชประสิทธิ์ ถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นพระยาศรีพิพัฒน์ จางวางกรมพระคลังสินค้า ต่อมาเลื่อนเป็นพระยาคลัง ฉายา ท่านท่าเรือจ้าง ในรัชกาลที่ 2 เป็นเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ที่สมุหนายก (ต้นตระกูล รัตนกุล)

บ้านท่านสมุหนายกอยู่ใกล้วัด ท่านยกที่บ้านให้สร้างวัด อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ใหม่ใหญ่โตสวยงาม ชื่อวัดเนินเดิมมี ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นวัดใหญ่ ใหญ่...ตามความยินยอมพร้อมใจของผู้คน

ราวปี 05 ผมบวชเณรอยู่วัดบ้านแหลม เจอหนังสือจารึกวัดโพธิ์ มีกลกลอน กลโคลง ในหอไตรวัดใหญ่ ...ก็ออกปากขอยืม แต่หลวงพี่สนิท ตอนนั้นเป็นครูสอนนักธรรม...ไม่ให้ ท่านว่า หนังสือยืมไม่เคยได้คืน อนุญาตให้แค่มาอ่าน มาคัดลอกเอาเอง...ตอนนั้น เป็นแรมเดือน ผมต้องไปวัดใหญ่ทุกวัน


วัดใหญ่ แม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม

วัดใหญ่ตอนนั้น หลวงพ่อสิน เป็นสมภารขลัง เก่งทางเคี่ยวน้ำมัน... สมานแผล...น้ำมันเคี่ยวในกระทะเดือดปุดๆ ท่านก็เอามือจุ่มลงไปหน้าตาเฉย

สมภารรอง หลวงพ่อแหวน...นับตามลำดับ หลวงพี่สนิท เป็นที่ 3 เมื่อหลวงพ่อแหวนมรณภาพ คิวสมภารก็มาถึงหลวงพี่...ผมได้ข่าวว่า ท่านพยายามหนีตำแหน่งนี้...เจอหน้าท่านก็บ่นว่า...เป็นสมภารวัดไหน ทุกข์ก็ไม่หนัก เท่าสมภารวัดใหญ่

โบสถ์งาม ศาลาการเปรียญสวย...ที่มาชื่อวัดใหญ่ ไม่เพียงจะเก่าแก่ผุพัง ต้องหาเงินซ่อม ของเก่าๆในวัด งานไม้สลักหน้าโบสถ์ กระทั่งหลวงพ่อแก่นจันทร์ พระประธานในโบสถ์ ก็ถูกขโมย

น้ำในแม่น้ำแม่กลอง...สมัยที่ยังไม่มีเขื่อนท่าม่วง ที่เมืองกาญจน์ น้ำลงน้ำขึ้นปริ่มฝั่งคลอง วันละสามเวลา...พอเขื่อนแรกมา เขื่อนที่สองสามสี่ห้า...ตาม น้ำแห้งขอด ตลิ่งวัดใหญ่ก็พัง

โบสถ์หลังงาม...ใกล้หล่นน้ำเข้าไปทุกที หลวงพี่ฉันไม่ได้ นอนไม่หลับ ดิ้นรนหาเงินยื้อโบสถ์ยื้อวัดเอาไว้...จนอยู่ได้


 :96: :96: :96: :96:

ผมเจอท่านครั้งสุดท้าย...วันทหารยึดอำนาจ...งานเผาศพ คุณสมใจ พรหมทรัพย์ พี่ใจเคยบวชเป็นพระที่วัดใหญ่ เป็นศิษย์หลวงพี่สนิท สมฤดี ลูกสาวพี่ใจ ก็ไปนิมนต์มา ผมเข้าไปกราบ...

กราบสมภารวัดใหญ่ แต่ละครั้ง ก็สนิทใจ...ตลอดชีวิตที่รู้จักท่าน...
ท่านเป็นพระลูกชาวบ้าน เป็นพระแท้เคร่งศีล ไม่เคยมีข่าวเสียหาย
หลวงพี่ยิ้ม...แววตาที่เคยฉายแววทุกข์ กลายเป็นแววตาอิ่มสุข

พระศิษย์บอกว่า หลวงพ่อไม่ยินดียินร้าย จำใครไม่ได้แล้ว ไม่สุขไม่ทุกข์กับวัดกับสังขารของท่านต่อไปแล้ว

ราวแปดเดือนจากนั้น จนถึงวันนี้ หลวงพี่สมณศักดิ์ พระครูสมุทรภัทรกิจ (สนิท มาลัยมาน) อายุ 90 ปี ก็ปลดทุกข์ทิ้งสังขาร...สิ้นเชิง ศพหลวงพี่ ทำพิธีพระราชทานเพลิง ไปเมื่อบ่ายสี่โมง วันอาทิตย์ (8 มีนาคม)

วันเวลายาวนาน เปลี่ยนแปลง วัดใหญ่ที่เคยใหญ่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ให้กลายเป็นวัดย่อมๆ แต่เรื่องที่น่าดีใจ วัดนี้ยังมีพระใหญ่ ใหญ่ในศีลในธรรม...ไม่ใช่พระดังๆ จำพวกขอเวลาไปคุยกับพระอินทร์ นั่งทางในไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เจอคดีทางโลก ให้ตำรวจออกหมายเรียกไปสอบสวน

ชาวบ้านอย่างผมสารภาพ ทุกวันนี้หาพระใหญ่ที่กราบได้โดยสนิทใจได้น้อยลง.


คอลัมน์ชัดธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง
http://www.thairath.co.th/content/485609
ขอบคุณภาพจาก www.วัด.ไทย/วัดใหญ่-แม่กลอง/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ