ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ก้าวแห่งสติก้าวแห่งปัจจุบัน : บาตรเดียวท่องโลก  (อ่าน 2461 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ก้าวแห่งสติก้าวแห่งปัจจุบัน : บาตรเดียวท่องโลก
โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

เขาคิชฌกูฏ วันนี้เดินขึ้นไปได้อย่างสะดวกสบาย เพราะทางเดินได้รับการบูรณะดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากนักแสวงบุญจำนวนมากเดินทางมาที่แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย และถ้าเราตระหนักรู้ลมหายใจแห่งสติในทุกย่างก้าวเพื่อก้าวย่างเฉกเช่นพระพุทธองค์ และเหล่าอริยสาวกที่ได้ใช้หนทางนี้เดินขึ้นลงอยู่เสมอในสมัยพุทธกาล นั่นแสดงว่า เรากำลังใช้ย่างก้าวที่สร้างพลังแห่งความสงบสุขบูชาพระตถาคต ถือเป็นการบูชาอย่างสูงสุดกว่าการบูชาด้วยเงิน ดอกไม้ ธูปเทียน หรือสิ่งที่เป็นอามิสทั้งหมด

   เพราะความสงบแต่ละย่างก้าวของเรา จะช่วยเยียวยา รักษา เปลี่ยนแปลงความเจ็บปวด ความทุกข์ในจิตใจของเราได้
   อดีตที่เคยตกเป็นเหยื่อแห่งอารมณ์ที่ไม่น่ารักทั้งหลายทั้งปวงกำลังได้รับการบำบัดรักษา ด้วยก้าวย่างแห่งปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยมแท้จริง

   ก้าวย่างที่มีลมหายใจจดจ่ออยู่จะค่อยๆ เพิ่มพลังแห่งสติในตัวเราเองมากยิ่งขึ้น ทำให้เราตระหนักรู้สภาวะจิตใจที่แปรเปลี่ยนไปมา ทำให้เราเห็นความดี ไม่ดีในตัวเอง ทำให้จิตใจยอมรับความไม่ดีเหล่านั้นได้ เพราะมันเป็นเพียงสภาวะจิตอย่างหนึ่ง ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเอง เมื่อเรามีสติ สติจะทำให้เราเห็น ทำให้เราสามารถระงับและไม่ทำความไม่ดีนั้นอีก


     st12 st12 st12 st12

    เมื่อเราสร้าง "สติ" ให้แนบแน่นกับจิตได้แล้ว จากนั้น "สติ" จะสร้างพลังแห่งการปกป้องตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อความอยากทั้งปวงอย่างมหัศจรรย์ แต่ถ้าเรายังขาดพลังแห่งสติในตัวเอง เราจะตกเป็นเหยื่อสิ่งไม่ดีที่เราเคยชินและสะสมไว้ในตัวเองมาเนิ่นนานจากการถูกถ่ายทอดจากพ่อแม่ บรรพบุรุษและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินชีวิตอย่างไม่ตระหนักรู้ เสพติดของไม่ดี มัวเมา เพลิดเพลินไม่รู้สักเท่าไหร่อยู่ร่ำไป เราจะรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจหรืออาจไม่พอใจหรือเกลียดชังตัวเอง เพราะพลังแห่งสติยังไม่พอ

     ดังนั้น พลังแห่งการตระหนักรู้ด้วยสติในทุกย่างก้าวในทุกๆ ที่จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนักกับทุกชีวิต
     เมื่อเราสามารถดูแลอารมณ์ของเราให้เป็นปกติอยู่เสมอ จะยังผลประโยชน์ให้เกิดกับคนรอบข้างและสรรพชีวิตอีกมากมาย เพราะเราจะไม่ส่งผ่านความเจ็บปวดของเราหรือความไม่น่ารักด้วยคำพูด ให้บุคคล สัตว์ สิ่งของและสรรพสิ่งทั้งหลายอีกต่อไป เมื่อเราสามารถดูแลจิตใจตัวเองให้มีสติ ความสงบสุขจักปรากฏอยู่เสมอในใจเรา

 
     ans1 ans1 ans1 ans1

    การเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ กับกลุ่มผู้แสวงบุญ ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถสัมผัสความสุขสงบในตัวเองได้ ตราบใดที่จิตใจของไม่อยู่กับย่างก้าวและลมหายใจอย่างแท้จริง จิตเราจะกระโดดไปอยู่กับความคิดที่ทำให้ทุกข์ได้ ถ้าเกิดไม่สบายใจ หงุดหงิด ไม่พอใจกับผู้ร่วมเดินทาง ความเห็น ความต้องการไม่ตรงกัน ติดความสะดวกสบายในเรื่องที่พัก รสชาติอาหารที่เคยมีเมื่ออยู่เมืองไทย  และที่สำคัญหากเราไม่ได้ฝึกฝนให้มีพลังแห่งสติเพียงพอ เราก็ไม่สามารถที่จะกลับมาสัมผัสปัจจุบันขณะ สัมผัสสิ่งงดงามที่แปรเปลี่ยนไปในทุกขณะของตัวเองและคนรอบข้างในบริบทที่แตกต่างจากเดิมได้ นั่นหมายความว่า เราได้สูญเสียความเป็นพุทธะในตัวเอง ขณะที่เราอยู่ ณ ดินแดนพุทธภูมิ แล้วดินแดนพุทธภูมิที่แท้จริงอยู่ ณ ที่ใด?

     ในที่ซึ่งเป็น "สมมุติ" ก็มี 'วิมุตติ' อยู่ด้วยเสมอ เมื่อเรากลับมาดำรงอยู่ตรงนั้นอย่างแท้จริง สัมผัสตัวเราในความไร้ซึ่งตัวเรา อย่าให้ย่างก้าวของเราสูญเสียโอกาสที่จะสัมผัสพุทธะในตัวเองไม่ว่าที่ใดๆ ในโลก


      :25: :25: :25: :25:

     เราสามารถสร้างดินแดนพุทธภูมิในทุกๆ ที่ที่เราอยู่ ด้วยการกลับมาตระหนักรู้ก้าวย่างแห่งสติของตัวเอง เช้านี้ที่เขาคิชฌกูฏจึงเป็นเช้าที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก เพราะทุกคน ตั้งใจที่จะกลับมาสัมผัสย่างก้าวแห่งสติของตนตามกำลังความสามารถของตน

     ระงับความทุกข์ ความไม่พอใจในตน โดยการกลับมาอยู่กับก้าวแห่งปัจจุบันขณะและลมหายใจแห่งสติ
     ย่างก้าวของพวกเราจึงเป็นเครื่องบูชาสูงสุดอย่างหาที่เปรียบมิได้
     ก้าวย่างแห่งพุทธะ ปรากฏได้ในทุกที่ ซึ่งสติดำรงอยู่


ขอบคุณภาพและบทความ
http://www.komchadluek.net/detail/20150327/203692.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ