พิมพ์

[raponsan]

พบเงื่อนงำอีกเหตุฆ่าพระ-ชาวบ้านชุมนุมให้กำลังใจพระผู้ใหญ่

จากกรณีพระศรีสกลกิจ อายุ 73 ปี อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และเจ้าอาวาสวัดศรีสุมังค์ อ.เมือง จ.สกลนคร ที่ถูกคนร้ายฆ่าโหดบนกุฏิ “โบแดงอนุสรณ์” เมื่อเช้าวันที่ 8 ก.ย.2555 จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายและผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีได้ ขณะที่ญาติและบรรดาศิษย์ออกมาเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ส่ง จนท.ตำรวจเข้าคลี่คลายคดี กระทั่งต่อมา พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 สั่งให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 เป็นหัวหน้าชุดนำทีมสืบสวนพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงศ์สมาน ผบก.สส.ภ.4 เข้าสะสางคดีนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค “ไทยรัฐ” ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 ถึงความคืบหน้าคดีฆ่าพระศรีสกลกิจ อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดศรีสุมังค์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ว่า พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ. 4 ได้มอบหมายให้ตนนำทีมชุดสืบสวนเข้าคลี่คลายคดี โดยเบื้องต้นตำรวจท้องที่ได้จับกุมพระรูปหนึ่ง แต่ต่อมาพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง จากการตรวจสอบหลักฐานใหม่ที่พบ ไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนสอบสวนของตำรวจในท้องที่ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ทาง จนท.พิสูจน์หลักฐานเก็บไว้

ซึ่งหลักฐานสำคัญนี้จะต้องมีในสำนวน หรือถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมามันมีพิรุธ ทำไมหลักฐานสำคัญจึงไม่ปรากฏในสำนวนสอบสวนตั้งแต่ตอนแรก จำเป็นต้องดึงสำนวนสอบสวนเดิมของตำรวจท้องที่ที่สอบไว้ มาให้พนักงานสอบสวนตำรวจภาค 4 ทำการสอบเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ไม่ไว้ใจตำรวจท้องที่ แต่คดีนี้มีความสำคัญ หากสาวไปถึงใครก็ต้องดำเนินการอย่างแน่นอนขอให้มั่นใจได้

 

ทางด้าน พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผบก.ภ.จ.สกลนคร เปิดเผยว่า หลักฐานดังกล่าวยังไม่ทราบมาก่อน ทางตำรวจภูธรภาค 4 คงจะประสานมาหากเจอหลักฐานใหม่เพิ่มเติมก็สามารถนำเข้าไปประกอบในสำนวนใหม่ได้ จากการทำงานของตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.สกลนคร ได้เบาะแสเพิ่มเติมอีกว่า

ก่อนผู้ตายถูกสังหารไม่นาน มีผู้ไปทวงเงินค่าต่อเรือของวัดจำนวนหนึ่งจากผู้ตาย โดยได้ให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนคร ไปสืบหาพยานที่เป็นช่างต่อเรือที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 6 คน ที่มารับจ้างต่อเรือให้กับวัด อาจจะเป็นความคืบหน้าอีกทาง เพราะในวันที่เกิดเหตุพบหลักฐานเป็นเครื่องมือช่างต่อเรือเปื้อนเลือดด้วย นอกจากนี้ ยังติดตามตัววัยรุ่นชายคนหนึ่งที่ชื่อ “ต” ซึ่งใกล้ชิดกับผู้ตาย ส่วนประเด็นการสอบสวนยังมุ่งไปที่ความขัดแย้งในวงการสงฆ์ และประสงค์ชิงทรัพย์ ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

 

ตอนเย็นวันเดียวกัน ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร นายสังคม แสงพิทยา ประธานชมรมคนรักพระธาตุเชิงชุม พร้อมสมาชิกกว่า 300 คน ได้มารวมตัวกันเพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจพระเทพสิทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร จากกรณีข่าวคดีฆาตกรรมพระศรีสกลกิจ อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และคดีเงิน 3 ล้านบาท ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว

นายสังคมกล่าวว่า ชมรมคนรักพระธาตุเชิงชุมรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวของ นสพ.ไทยรัฐที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ใน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาโดยตรง แต่ข้อความในเนื้อข่าวก็ชวนให้สังคมเกิดความสงสัยไปในทางที่เสียหาย จึงพร้อมใจกันมาเพื่อให้กำลังใจพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในวัดพระธาตุเชิงชุม และเรียกร้องสื่อให้ความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวด้วย

 

ด้านนายสมเกียรติ โรจนกมล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าคณะจังหวัดสกลนครเปิดเผยว่า เนื้อความในสื่อหนังสือพิมพ์มีลักษณะไม่ชัดเจนในการนำเสนอ เป็นเพียงการกล่าวลอยๆและพาดพิงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นทนายความจะได้พิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่นำเสนอข่าวนี้หรือไม่ หากพบว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวมีความผิดชัดเจนก็จะดำเนินคดีในทางอาญาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องสื่อมวลชนขอให้นำเสนอข่าวทั้งสองด้านและมีความชัดเจน จากนั้นชมรมคนรักพระธาตุเชิงชุมได้เข้ามอบช่อดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจแก่คณะสงฆ์จังหวัดสกลนคร โดยมีพระครูพิมลธรรมนิเทศ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (ธ) เจ้าอาวาสวัดทุ่ง เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกับกล่าวให้พรแก่ผู้แทนมอบช่อดอกไม้ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/498799