รำลึกหลวงพ่อคูณผ่าน “พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณฯ” วัดบ้านไร่ โคราช
การละสังขาร มรณภาพของพระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถือเป็นอีกหนึ่งการสูญเสียครั้งสำคัญของบ้านเราอาคารพิพิธภัณฑ์(ภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ)
สำหรับหลวงพ่อคูณ คือหนึ่งในเกจิชื่อดังของเมืองไทยมีคนนับถือเป็นจำนวนมาก มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง และด้วยความเลื่อมใสศรัทธา บรรดาคณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนจึงร่วมทรัพย์ ร่วมแรง ร่วมใจ กันสร้าง "พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ"ขึ้น ภายในวัดบ้านไร่ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งศรัทธาเนื่องในโอกาสอายุครบ 7 รอบของท่าน โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดพิธีภัณฑ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ต.ค. 52
นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณฯ ยังมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อให้เป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลในลักษณะของอุทยานธรรม เพื่อให้คำสอนของท่านดำรงคงอยู่ได้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและนำไปปฏิบัติภาพท่านั่งยองๆอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อคูณ(ภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ)
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณฯ ตั้งอยู่ที่อาคารศาลาอเนกประสงค์(หลังเก่า) วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา สร้างตามศาสตร์ฮวงจุ้ยจีน ที่ประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาเยือน มีจำนวน 2 ชั้น แบ่งการจัดแสดงออกเป็น9 ส่วน โดยมีคำกล่าวของหลวงพ่อคูณแสดงเป็นเครื่องเตือนใจอยู่ทั่วไป
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณฯ มี 2 ชั้น ชั้นล่าง เป็นการจัดแสดงในส่วนที่ 1,2, 8 และ 9 โดยส่วนที่ 1 ศรัทธามหาชน จะเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณในท่านั่งยองๆซึ่งเป็นภาพที่เราคุ้นเคยในขนาดเท่าตัวจริง นอกจากนี้ก็ยังมีมีภาพจิตรกรรมและภาพเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อคูณ อาทิ ภาพประชาชนมากราบไหว้หลวงพ่อคูณ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของหลวงพ่อคูณ เช่น การนั่งยอง เหยียบโฉนด เคาะหัว รับปัจจัยใบเดียว เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ภิกษุสมถะแห่งแดนอีสาน ผู้บำเพ็ญทานอันยิ่งใหญ่ ในส่วนนี้นำเสนอวัตรปฏิบัติอันสมถะเรียบง่ายของหลวงพ่อคูณ ที่มีเพียงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการครองสมณะเพศเท่านั้น ส่วนที่ 8 เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ บูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณ และส่วนที่ 9 บุญคูณลาภ ชวนทำบุญทำทานกับหลวงพ่อคูณ
คำสอนหลวงพ่อคูณ (ภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ)
ขณะที่ในชั้นที่ 2 จะเป็นการจัดแสดงในส่วนที่ 3, 4, 5, 6 และ 7 โดยส่วนที่ 3 แสงทองส่องสว่างที่ด่านขุนทด เป็นการจัดแสดงเรื่องราวประวัติของหลวงพ่อคูณทั้งหมด ส่วนที่ 4 จารึกบุญ จารึกธรรม ชมภาพบรรยากาศเสมือนจริงจำลองเหตุการณ์เมื่อครั้งที่หลวงพ่อคูณออกธุดงค์ในเส้นทางสามประเทศ
ส่วนที่ 5 ถ้ากูไม่ทำ แล้วใครจะทำ เป็นการจัดแสดงเมื่อครั้งหลวงพ่อคูณกลับมาพัฒนาวัดบ้านไร่ ส่วนที่ 6 ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว เรื่องราว และ รูปภาพต่างๆเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาท และพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีต่อหลวงพ่อคูณ และในส่วนที่ 7 มรดกหลวงพ่อคูณ หลวงพ่อคูณได้บริจาคร่างกาย เพื่อประโยชน์แก่การศึกษา อีกทั้งในส่วนนี้จะจัดแสดงพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณอีกด้วย
และนี่ก็เป็นหนึ่งในมรดกทางธรรมที่หลวงพ่อคูณได้ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
"กูไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เพราะกูมีทุกอย่างแล้ว...กูมีความเพียร ความสมถะ ความศรัทธา มีเมตตา มีศีล มีความรักเพื่อนมนุษย์ และมีธรรมะในหัวใจ"
คำกล่าวของหลวงพ่อคูณ จาก "พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ"
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เปิดให้เข้าชม วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์,อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-17.00 น. โดยหยุดทุกวันจันทร์ ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000055781
ผู้เขียน
หัวข้อ: รำลึกหลวงพ่อคูณผ่าน “พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณฯ” วัดบ้านไร่ โคราช (อ่าน 1248 ครั้ง)