พิมพ์

[raponsan]

สนช.เพิ่มเงินอัดฉีด "กรมการศาสนา" ดันงาน 5 ศาสนา

อภินันท์"เผย สนช.เพิ่มงบประมาณปี 59 ให้กรมการศาสนาใช้การดูแลงานศาสนาพุทธ คริตส์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์

วันนี้ (1 มิ.ย.) ศ.ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 วาระที่ 1 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้ชื่นชมการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์และพันธกิจของ วธ.ในเรื่องการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โดยให้มีการรักษา สืบทอด และพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนปลุกจิตสำนึกความเป็นไทย สร้างค่านิยม และวิถีชีวิตที่ดีงาม ส่งเสริม สนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดให้เป็นอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้าง สรรค์ และชื่นชมการทำงานของกรมการศาสนา(ศน.) ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแล 5 ศาสนา คือ พุทธ คริตส์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์

อย่างไรก็ตาม วธ.ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าภารกิจของ ศน.มีมาก โดยเฉพาะการทำนุบำรุงทั้ง 5 ศาสนา แต่ในปีงบฯ2559 ได้รับการจัดสรรงบฯ เพียง 417 ล้านบาทเท่านั้น สนช.จึงเห็นควรจัดสรรงบประมาณให้ ศน.เพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอและครอบคลุมการปฏิบัติงานมากขึ้น

 

"สนช. ได้เสนอแนะ วธ.ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวัฒนธรรมที่พึงประสงค์ในด้านต่างๆ ได้แก่ วัฒนธรรมการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วัฒนธรรมประชาธิปไตย วัฒนธรรมการดำรงชีวิตให้ประชาชนใช้เศรษฐกิจพอเพียง วัฒนธรรมในการทำงานอย่างจริงจังและจริงใจ การน้อมนำพระราโชวาท “รู้รักสามัคคี” มาเป็นแนวทางการอยู่ร่วมกัน ซึ่ง วธ.ยินดีรับข้อเสนอแนะมาปรับใช้ในการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น”

ปลัด วธ.กล่าว ปลัด วธ. กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา วธ.ได้ขับเคลื่อนการดำนินงานตามนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปลุกจิตสำนึกและส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ รวมถึงส่งเสริมให้ชุมชนทั่วประเทศนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยการนำทุนวัฒนธรรมที่มีอยู่มาพัฒนาให้เป็นสินค้าทางวัฒนธรรมหรือ ซีพอท ซึ่งก็ได้ผลดี แต่ยังมีช่องทางการจำหน่ายหรือตลาดที่จำกัด ซึ่ง วธ.กำลังหาตลาดรองรับสินค้าทางวัฒนธรรมให้มากขึ้น.

ขอบคุณภากพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/325082