ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชะตาอาภัพของ “สาวตักน้ำ”  (อ่าน 974 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29438
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ชะตาอาภัพของ “สาวตักน้ำ”
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2015, 11:54:26 am »
0



ชะตาอาภัพของ “สาวตักน้ำ”

พวกเธอมาทำหน้าที่เป็น “สาวตักน้ำ” ให้กับครอบครัว ในทุกๆ2-3วัน พวกเธอจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรไปยังแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด

ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายของสังคม วัฒนธรรม ศาสนาและชนเผ่าพื้นเมืองสูงประเทศหนึ่งของโลก หมวยเล็กจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับอีกหนึ่งสถานะของผู้หญิงสุดอาภัพ ที่มาจากพื้นที่ชนบทแห้งแล้งยากจน ถูกขายมาแต่งงานอยู่ในสถานะ “ภรรยารอง”เพื่อมาทำหน้าที่ “สาวตักน้ำ” ให้กับครอบครัวสามี ในประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายนี้

ผู้ชายในหมู่บ้านพื้นที่ห่างไกล ธุระกันดารและแห้งแล้งมักแต่งงานรับภรรยาคนที่สองหรือสามซึ่งถูกขายมาแต่งงานโดยเฉพาะไว้ เพื่อนำพวกเธอมาทำหน้าที่เป็น “สาวตักน้ำ” ให้กับครอบครัว ในทุกๆ 2-3 วัน พวกเธอจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรไปยังแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด เทินคนโทอะลูมิเนียมไว้บนศีรษะ เพื่อไปทำหน้าที่ตักน้ำให้กับสมาชิกครอบครัวได้ใช้อาบและดื่มกิน



ชีวิตของสาวตักน้ำ ปัจจุบันยังคงพบได้ที่หมู่บ้าน “เดนกันมัล” อยู่ห่างออกไปจากเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของอินเดียราว 150 กิโลเมตร การมีชีวิตอยู่ที่นั่นถือว่ายากลำบากอย่างยิ่ง เนื่องจากหมู่บ้านเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง บทบาทของผู้ชายที่เป็นสามีและเป็นหัวหน้าครอบครัวของที่เดนกันมัล คือ ทำปศุสัตว์หรือเกษตรกรรม ขณะที่ผู้เป็นภรรยาจะเลี้ยงลูกอยู่บ้านและทำงานบ้าน แต่การงานภายในบ้านทั้งหมดนั้นจะต้องมีหนึ่งคนที่เป็นผู้ไปตักน้ำในแหล่งน้ำที่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านหลายกิโลเมตร และจะต้องทำหน้าที่นี้ถึง 8 เดือนต่อปี เพราะฤดูแล้งมักกินเวลาถึง 8 เดือนเลยทีเดียว

สาวตักน้ำเป็นผู้ที่มีชีวิตอาภัพมากถึงมากที่สุด นอกจากจะถูกขายเพื่อมาแต่งงานแล้ว ค่านิยมของผู้ชายที่รับภรรยาสาวตักน้ำนี้คือ พวกเขาจะไม่มีลูกกับพวกเธอ แต่จะมีลูกกับภรรยาคนแรกเท่านั้น สาวตักน้ำแม้มีสถานะเป็นภรรยา แต่ก็เป็นเพียงแค่คนตักน้ำที่ถูกขายแลกกับที่ซุกหัวนอนและอาหาร 3 มื้อเท่านั้น


 :32: :32: :32: :32:

และการจะหาผู้หญิงที่ยินยอมจะมาอยู่ในสถานะสาวตักน้ำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกสาวตัวเองต้องตกระกำลำบากแต่งงานไปกับหนุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ธุระกันดาร โดยเฉพาะพ่อแม่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว

ดังนั้น หนุ่มที่มาจากหมู่บ้านแห้งแล้งจึงมักแต่งงานกับสาวที่มาจากหมู่บ้านแห้งแล้งหรือสาวจากหมู่บ้านเดียวกัน สาวพวกนี้จะเข้าใจความลำบากของฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำดี และจะทำหน้าที่เตรียมน้ำอย่างเพียงพอกับความต้องการของครอบครัว แต่อย่างที่หมวยเล็กบอก...ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาผู้หญิงที่ยินยอมมาทำหน้าที่นี้อย่างเต็มใจ จากข้อมูลของสื่ออินเดีย “อินเดีย เดลี สตาร์”ระบุว่า หญิงพวกนี้จึงมักเป็นพวกที่ถูกทอดทิ้งจากสามีเก่าหรือเป็นแม่หม้าย ขณะที่ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่ถูกขายมาแต่งงาน จะไม่เข้าข่ายเป็นสาวตักน้ำ



นอกเหนือจากบทบาทที่ต้องตักน้ำแล้ว สาวตักน้ำจะต้องทำทุกอย่างที่ภรรยาคนแรกของสามีสั่ง พวกเธอต้องยอมรับด้วยว่า จะไม่มีส่วนในทรัพย์สมบัติของสามีและไม่สามารถนอนร่วมเตียงเดียวกับสามีได้ หากภรรยาคนแรกยังมีชีวิตอยู่...กับสังคมไทยหมวยเล็กว่า คงไม่มีใครยอมเป็นแน่ นี่มัน “คนใช้” ชัดๆไม่ใช่ภรรยา

ในหนึ่งวันของสาวตักน้ำที่หมู่บ้านเดนกันมัล พวกเธอจะต้องตักน้ำให้ได้มากกว่า 100 ลิตร จากแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างจากหมู่บ้านออกไป 3 กิโลเมตร!!! ต้องเดินไป-กลับวันละหลายรอบเพื่อให้ได้น้ำตามที่ต้องการ ถ้าเป็นคนไทยคงเป็นลมกลางทางไปแล้ว เพราะต้องเดินหลายกิโลมเตรท่ามกลางอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยมีคนโทใบใหญ่เทินอยู่บนศีรษะ ในหมู่บ้านนี้สาวตักน้ำจะเดินด้วยกันเป็นขบวนทุกวัน และจากข้อมูลของชาวบ้าน สาวเหล่านี้จะเริ่มหัวล้าน มีอาการมึนงง และไม่สามารถมีลูกได้เพราะต้องเทินน้ำหนักอยู่บนศีรษะทุกวันและต้องเดินตากแดดตรากตรำตักน้ำไม่หวั่นแม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน



นอกจากนี้ สาวตักน้ำยิ่งอยู่ในช่วงวัยสาวจะยิ่งแข็งแรงตักน้ำได้มาก ดังนั้น ผู้ชายบางคนจึงแต่งงานเป็นรอบที่สาม หลังจากที่เริ่มรู้ว่า สาวตักน้ำคนที่สองนั้นเริ่มจะแก่เกินไป ไม่มีแรงเดินไปตักน้ำให้ได้มากๆเหมือนแต่ก่อน

แต่ก็ใช่ว่าพวกเธอจะต้องเดินไปตักน้ำที่แหล่งน้ำหรือบ่อน้ำใกล้เคียงเสมอไป เพราะทุกๆ 5 วัน “รถบรรทุกน้ำ”ที่มีความจุราว 1,000 ลิตร จะแวะเวียนมาแจกจ่ายน้ำตามหมู่บ้าน สาวตักน้ำจึงมักอยู่ในอาการดีใจและต้องการแย่งชิงน้ำจากรถบรรทุกน้ำให้ได้มากที่สุด พวกมักก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ตบตี แย่งชิง จิกผมกันละกันเพื่อให้น้ำจากรถบรรทุกน้ำมากที่สุด


 :96: :96: :96: :96: :96:

“ทูกิ” สาวตักน้ำจากหมู่บ้านนี้บอกกับนิตยสาร “โอเพ่น แมกกาซีน”ว่า พวกเธอเหนื่อย ไม่ต้องการทำเช่นนี้อีกแล้ว แต่ก็ไม่มีทางเลือก และไม่อยากให้ลูกๆของพวกเธอต้องเป็นแบบนี้ อยากจะให้ลูกได้มีอนาคตที่สดใส ไม่ต้องจนตรอกรับใช้ใครเป็นสาวตักน้ำที่ไม่เห็นอนาคต

หมวยเล็กว่า ความยากลำบากของพวกเธอจะหมดไปหรือสถานะ “สาวตักน้ำ” พิเศษนี้อาจจะหมดไปจากสังคมหมู่บ้านแห้งแล้งในอินเดียได้ หากรัฐบาลเดินหน้าต่อท่อประปาเข้ามาที่หมู่บ้านเหล่านี้ ให้ผู้คนมีน้ำกิน-ใช้อย่างพอดีกับการดำรงชีวิต พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในถิ่นธุระกันดาร จะได้ไม่ต้องลดค่าความเป็นมนุษย์ของใคร ลงมาเป็นแค่คนตักน้ำที่มีเพียงสถานะภรรยาบังหน้า แต่แท้จริงแล้วก็คือ “คนใช้” ดีๆนี่เอง


คอลัมน์ : มุดรั้วบ้านเพื่อน โดย "หมวยเล็ก"“
ขอบคุณภาพและบทความจาก : http://www.dailynews.co.th/article/325664
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ