ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เกลี้ยงแผงไต้หวัน เปิดตัวหนังสือ'ธรรมราชา' สุดล้ำทำแอพพลิเคชั่นแผ่ธรรมผ่านมือถือ  (อ่าน 1004 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29355
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เกลี้ยงแผงไต้หวัน!เปิดตัวหนังสือ'ธรรมราชา' สุดล้ำทำแอพพลิเคชั่นแผ่ธรรมผ่านมือถือ
สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาโท สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน

ระหว่างวันที่ 11 - 15 กรกฎาคม พ.ศ.2558 ที่ผ่านมา พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) และพระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางไปยังเมืองเกาสง ไต้หวัน  ประเทศจีน นอกจากเพื่อร่วมพิธีประสาทปริญญาแก่นิสิตมหาวิทยาลัยสงฆ์ จิ้งเจวี๋ย ไต้หวัน และประชุมคณะกรรมการสถาบันสมทบมหาวิทยาบัยมหาจุฬาลงกรณราวิทยาลัยแล้ว

พระพรหมบัณฑิตยังได้แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ "ธรรมราชา" ภาคภาษาจีน ณ ศูนย์หนังสือเมืองไทเป โดยมีพระธรรมาจารย์จิ้งสิน จากวัดกวงเต๋อเมืองเกาสง วิทยาลัยสงฆ์จิ้งเจวี๋ย สถาบันสมทบ มจร ท่านชิมิงยี่ และผู้ร่วมดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือร่วมในการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ายสมหมาย สุภาษิต รอง ผอ.สำนักงานบริหารสำนักส่งเสริมพระพุทธ ศาสนาและบริการสังคม  มจร ได้เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวไต้หวันอย่างยิ่งต่างนำหนังสือให้พระพรหมบัณฑิตลงนามเป็นที่ระลึก เมื่อเดินสำรวจในแผงวางจำหน่ายปรากฏหมดในช่วงระยะเวลาอันสั้น ฝ่ายจัดจำหน่ายจึงได้นำมาวางในแผงเพิ่มเติมทันที


 :25: :25: :25: :25:

ไม่ใช่เพียงเท่านั้น มจร ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ จิ้งเจวี๋ย ไต้หวัน พัฒนาเว็บไซต์เผยแพร่กิจกรรมระหว่างสถานการศึกษาทั้งสองแห่งอย่างเช่นเนื้อหาของกิจกรรมครั้งนี้ รวมถึงข้อมูลภายในหนังสือ"ธรรมราชา" พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดทำแอพพลิเคชั่นสามารถดูได้ผ่านทางมือถือระบบต่างๆ

สำหรับเนื้อหาในหนังสือเรื่อง "ธรรมราชา"  นั้นเป็นบทบรรยายของพระพรหมบัณฑิตในหลายๆสถานการณ์ล่าสุดบรรยายในการประชุมวิชาการสถานบันพระปกเกล้าครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 7-8 ก.พ.2557 โดยระบุว่า ประเทศไทยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเอาแต่พระราชอำนาจมาแต่ไม่ได้เอา "ธรรมราช" มาปฏิบัติด้วย

และในงานเดียวกันนั้นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน กล่าวในการปาฐกถาเรื่อง "ธรรมราชา คุณธรรมผู้ปกครองกับสังคมไทย" ในการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้าครั้งที่ 15 ความว่า ตนไม่เคยเห็นว่าผู้นำใดถ้าทำให้ผู้ตามหรือประชาชนไม่พอใจแล้วอยู่ต่อไปไม่ได้เลย และจากเดิมที่เป็น "ราชะ" ก็เหลือเพียง "รา" เท่านั้น  ดังนั้นคำว่า "ความพอใจ" กับ "ราชะ" จึงมีความหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นลัทธิศาสนาใดก็มีความพยายามทำให้นักปกครองปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความพึงพอใจแก่ผู้ตามตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทำให้ผู้ตามหรือประชาชนอยู่อย่างมีความสุข


 st12 st12 st12 st12

ในการปกครองของไทยนั้น คติ "ธรรมราชา" ปรากฏชัดในยุคสุโขทัย แต่มาในยุคกรุงศรีอยุทธยานิยมของนอกคือ "ขอม" จึงมีคติ "รามาธิบดี" แม้นจะรู้ว่าแบบสุโขทัยมีของดีก็ตามและทำให้คตินี้ตกมาถึงไทยในปัจจุบัน  คติธรรมราชาพื้นกลับมาในยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุครัตนโกสินทร์ก็ถือคตินี้ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา

"คำว่า "ธรรมราชา" นี้ ทั้งนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรี ข้าราชการ หรือแม้กระทั้งลุงกำนันจะต้องมี แต่ที่แปลกก็คือว่า สังคมไทยมักเลือกปฏิบัติที่่จะนำหลักธรรมบ้างข้อมาใช้  เช่น  พรหมวิหาร 4 ชอบที่จะนำ เมตตา กรุณา มาใช้แต่ละเลย มุทิตา และอุเปกขา หรือแม้นแต่การให้ทาน ก็นิยมการให้วัตถุทาน ไม่นิยมที่จะให้ "อภัยทาน" หรือ "ธรรมทาน"  เป็นต้น  จึงทำให้คุณธรรมบกพร่องในสังคมไทย" นายวิษณุ กล่าวและว่า

ถ้าจะฟื้นให้สังคมไทยมีความสงบสุขกลับคืนมา จะต้องนำ "ธรรมราชา" มาใช้ในปริบทใหม่ และเมื่อสหประชาชาติยกย่องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นบุคคลสำคัญของโลก ก็ต้องมาดูว่าเขายกย่องเพราะอะไร อย่างเช่น ในช่วงการเปลียนแปลงการปกครองพระองค์มี 2 ทางเลือกคือ สู้กับหนีแต่พระองค์ทรงใช้ทางเลือกที่ 3 คือ "ยอมแพ้" ทำให้พระองค์เป็นบุรุษผู้ใฝ่สันติโดยแท้  จึงควรที่จะนำพระจริยาวัตรของพระองค์มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์บ้านเมืองไทยปัจจุบันนี้

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150715/209793.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ