ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม"ปวดหัว"บ่อย รู้มั้ย "สังคมก้มหน้า"ทำกระดูกต้นคอรับน้ำหนักมากกว่าเดิม 6 เท่า  (อ่าน 3227 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ทำไม"ปวดหัว"บ่อย! รู้มั้ย"สังคมก้มหน้า"ทำกระดูกต้นคอรับน้ำหนักมากกว่าเดิม 6 เท่า!

ปัจจุบันการใช้งานสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ เข้ามามีบทบาทในชีวิตเพิ่มมากขึ้น บางคนใช้งานเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนถึงเข้านอน มิหนำซ้ำยังวางไว้ข้างตัวขณะนอนหลับ รู้หรือไม่ว่า การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบประสาทและกระดูกต้นคอ เมื่อใช้ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานาน อาการผิดปกติที่พบได้บ่อยในกลุ่มคน "สังคมก้มหน้า" คือ อาการปวดศีรษะ

 :96: :96: :96: :96:

ร.ท.นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท รพ.กรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย เกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจากความไวที่มากกว่าปกติของระบบประสาทเอง ซึ่งทำให้เกิดโรคปวดศีรษะไมเกรน หรือจากความผิดปกติอื่นๆ เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองแตก ความดันในสมองผิดปกติ ยาหรือสารเคมีบางชนิด เป็นต้น

และการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ที่มากเกินไปหรือใช้งานอย่างไม่ถูกท่านั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้เช่นกัน การก้มหน้าเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอเมื่อยล้า หรือเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อขึ้นมาเป็นก้อน อาการปวดที่กล้ามเนื้อคอนี้อาจส่งความปวดไปยังส่วนอื่นที่ใกล้เคียง เช่น ท้ายทอย ขมับ รอบกระบอกตา หน้าผาก ฯลฯ ซึ่งพบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ หรือใช้สมาร์ทโฟนอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งจะรู้จักกันดีในชื่อ "กลุ่มอาการปวดจากกล้ามเนื้อเกร็ง" หรือ Myofascial pain syndrome (MFS)


 :41: :41: :41: :41:

นอกจากนี้ ยังทำให้กระดูกต้นคอรับน้ำหนักมากกว่าปกติถึง 6 เท่า เกิดภาวะกระดูกคอเสื่อมก่อนวัย หรืออาจถึงขั้นหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทได้ กรณีนี้ถ้าไปกดทับเส้นประสาทสมองระดับที่ 1-4 ก็อาจเกิดอาการปวดศีรษะที่บริเวณท้ายทอย ด้านข้างศีรษะ ขมับ กระบอกตา หน้าผาก รวมถึงกลางกระหม่อมได้ ทางการแพทย์จะเรียกโรคนี้ว่า "โรคปวดศีรษะจากความผิดปกติของคอ" หรือ Cervicogenic headache

อีกทั้งแสงที่ออกมาจากหน้าจอหรือแสงสะท้อนจากหน้าจอ ยังกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบเฉียบพลันขึ้นในกลุ่มคนที่เป็นโรคไมเกรนอยู่แล้ว รวมทั้งกล้ามเนื้อที่มีอาการเกร็งปวดบริเวณคอและศีรษะ ยังกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบรุนแรงเฉียบพลันได้อีกด้วย


ดังนั้น จึงควรใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ อย่างเหมาะสม


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439546924
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อันที่จริง จะบอกว่า เป็นสังคมก้มหน้า ดีไหม ?
  คำตอบ ก็คือ ดีนะ เพราะว่ามองหน้า แล้ว มันหาเรื่องกัน จ้องตาก็ไป รร. นำปัญหา แท้ง อาชกรรม มาด้วย เพราะไม่ก้มหน้า แต่เพราะก้มหน้า มันได้อ่าน ได้รู้ ไม่โง่
     อีกอย่างใครจะไปก้มหน้า อ่านมันอยู่ทั้งวัน งานการก็มี เรียนก็มี ไม่ได้มีเวลาทั้งวันไปก้มหน้า หรอก พูดเกินไป อันนี้ที่พูด มีการทำสถิติ เชิงบวก ในสถานที่ศึกษามาแล้ว ด้วยนะ

   ที่ปวดหัว เพราะไม่มีจะกินมากกว่า ตกงาน เงินไม่มีใช้ แฟนหนี เจ้าหนี้รุมทึ้ง อันนี้ปวดหัวมากกว่า นะ

    :29: :49: like1
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ