ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มจร.ชงตั้ง วิทยาลัยพระธรรมทูต  (อ่าน 900 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มจร.ชงตั้ง วิทยาลัยพระธรรมทูต
« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2015, 10:34:03 pm »
0



มจร.ชงตั้ง วิทยาลัยพระธรรมทูต

มจร.ชงตั้งวิทยาลัยพระธรรมทูต เปิดสอนหลักสูตรพระธรรมทูต ระดับปริญญาโท ถึง ปริญญาเอก ใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 5 ปี คาดรับพระนิสิตรุ่นแรกได้ในปี 59

วันนี้ (31ส.ค.) พระโสภณวชิราภรณ์ (ไสว โชติโก) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ปัจจุบันการฝึกอบรมพระธรรมทูตที่จะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ มีระยะเวลาในการอบรมเพียง3เดือน พบว่า

ยังไม่สามารถทำให้พระพระธรรมทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังต่างประเทศได้ ทั้งเรื่องการสอนวิปัสสนากรรมฐาน เรื่องภาษาในการสื่อสาร และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่มรณภาพไปแล้วเห็นปัญหาในเรื่องดังกล่าว และ เคยมอบนโยบายให้แก่ มจร.ว่า ควรจะมีการปรับปรุงการอบรมพระธรรมทูต ดังนั้น มจร.จึงเห็นควรให้ตั้งวิทยาลัยพระธรรมทูต พร้อมทั้งปรับปรุงหลักสูตรการอบรมพระธรรมทูตขึ้นใหม่


 :96: :96: :96: :96:

     “หลักสูตรพระธรรมทูตใหม่ จะเป็นหลักสูตรระดับปริญญาโท ถึง ปริญญาเอก ใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 5 ปี พระสงฆ์ที่เข้าเรียนต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยก่อนเข้าเรียนต้องเลือกว่าจะไปเป็นพระธรรมทูตประเทศใด เพื่อฝึกในเรื่องภาษา ซึ่งพระธรรมทูตจะต้องสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเฉพาะของประเทศที่จะไปปฏิบัติหน้าที่
     จากนั้นจะมีการฝึกวิปัสสนากรรมฐาน 1 ปี ศึกษาธรรมะตามพระไตรปิฎกอย่างเข้มข้น1ปี และในปีสุดท้ายของการศึกษาจะให้ทดลองปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติงานพระธรรม ทูตในประเทศต่างๆ ซึ่ง มจร.จะแต่งตั้งที่ปรึกษาประจำศูนย์ เพื่อประเมินผลงานของพระธรรมทูตด้วย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมข้อมูลเสนอสภามหาวิทยาลัย ก่อนเสนอสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และ มหาเถรสมาคม โดยกำหนดไว้ว่าปลายปี 2559 จะสามารถเปิดรับพระนิสิตรุ่นแรกได้ "
พระโสภณวชิราภรณ์ กล่าว.


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/345038
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ