แม่เฒ่าวัย 88 ยึดทำกระยาสารท ไหว้บรรพบุรุษ บุญเดือน 10
หญิงชราวัย 88 ปี ใน อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ถูกปลูกฝังจากรุ่นแม่สืบทอดไปยังลูกสาว ทำขนมกระยาสารททุกวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ด้วยความเชื่อที่ว่า ญาติผู้ล่วงลับจะไม่ได้ส่วนบุญส่วนกุศล หากไม่ใส่บาตรขนมชนิดนี้ พร้อมยึดเป็นอาชีพเสริม ...
"ขนมกระยาสารท" เป็นขนมประจำวันสารทในทุกท้องถิ่นของประเทศไทย ซึ่งจะขาดเสียไม่ได้ ด้วยมีความเชื่อที่ว่า ถ้าไม่ได้ใส่บาตรขนมกระยาสารท ในวันสารทไทยแล้ว ญาติผู้ล่วงลับก็จะไม่ได้ส่วนบุญส่วนกุศลที่กระทำในวันนั้น ขนมกระยาสารทมีส่วนประกอบ คือ ข้าวตอก ข้าวเม่า ถั่ว งา มะพร้าวน้ำตาลปี๊บ และแบะเซ นำทั้งหมดมากวนเข้าด้วยกัน เมื่อสุกแล้วจึงนำมาปั้นเป็นก้อนกลม หรือจะตัดเป็นแผ่นก็ได้ อดีตที่ผ่านมาเดือนใกล้จะถึงงานบุญสารทเดือนสิบ ทุกบ้านก็ยังลงมือทำ ขนมกระยาสราท แต่ปัจจุบันขนมกระยาสารท ไม่ค่อยได้รับความนิยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณยายประทุม ถนอมวงค์ อายุ 88 ปี และนางทวีป ถนอมวงค์ อายุ 60 ปี สองแม่ลูกที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 11 ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ยังคงอนุรักษ์การทำขนมกระยาสราท ซึ่งคุณยายประทุม ได้เล่าให้ฟังว่าได้เริ่มทำขนมกระยาสารทมาตั่งแต่เป็นเด็กแล้ว ในทุกปีเมื่อใกล้จะถึงวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 แม่ของตนจะทำขนมกระยาสารทเพื่อที่จะเตรียมนำไปทำบุญที่วัดในวันสารทไทย ทำให้ตนเริ่มทำขนมกระยาสารทมาตั่งแต่เด็ก และทุกบ้านก็จะทำขนมกระยาสารท
คุณยายประทุม ถนอมวงค์ อายุ 88 ปี และนางทวีป ถนอมวงค์ อายุ 60 ปี สองแม่ลูก กวนขนมกระยาสารทในกระทะใบบัว
"ทุกวันนี้เมื่อใกล้จะถึงวันสารทไทย ฉันเและลูกสาวก็ช่วยกันทำขนมไปทำบุญที่วัด ตามประเพณีโบราณซึ่งเป็นเวลากว่า 80 ปี และได้สืบทอดต่อให้กับลูกสาว ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้จะเหลือเพียงไม่กี่แห่งที่ยังทำขนมกระยาสารทกันอยู่ ในหมู่บ้านนี้ก็เหลือเพียงบ้านของฉันแห่งเดียว ที่ยังทำขนมกระยาสารท และจะมีชาวบ้านมาขอซื้อขนมกระยาสารทเพื่อนำไปทำบุญในวันสารทไทยด้วย" คุณยายวัย 88 กล่าว
ด้านนางทวีป กล่าวว่า การทำขนมกระยาสารทนั้น หนึ่งปีจะทำกันเพียงหนเดียวเท่านั้น เนื่องจากขนมกระยาสารท เป็นขนมที่ใช้เวลาในการทำหลายขั้นตอนและใช้เวลานาน โดยจะต้องนำข้าวตอก ข้าวเม่า ถั่ว งา มะพร้าว ไปคั่วในกระทะโดยใช้ฟืนให้สุกก่อน จากนั้นจะนำน้ำตาลปี๊บและแบะแซ มาเคี่ยวในกระทะจนน้ำตาลสุก เหนียวข้น สามารถปั้นได้ จากนั้นจะนำของที่คั่วไว้ไปผสมกับน้ำตาลปี๊บที่กำลังร้อน ก่อนที่จะเทใส่แม่พิมพ์และรอให้เย็นจึงตัดเป็นชิ้นได้ทำขนมกระยาสารททุกวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ขายดีของไม่เพียงพอกับความต้องการ
"ขั้นตอนทั้งหมดต้องใช้เวลานานและใจเย็นมาก ทำให้ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครทำแล้ว ทำให้ดิฉันรู้สึกเสียดาย ถ้าไม่สืบทอดการทำขนมกระยาสารทไว้ ในอดีตที่ผ่านมา ดิฉันเคยขายขนมกระยาสารท กิโลละ 25-30 บาท แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลปี๊บ ข้าวตอก ข้าวเม่า ถั่ว งา มะพร้าว มีราคาแพงขึ้น จึงทำให้ตอนนี้ราคากระยาสารทขายจะอยู่ที่ กิโลละ 120 บาท ทุกวันนี้ต้องทำขนมกระยาสารทวันละ 2 รอบ ตกวันละ 20 กิโล ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน" นางประทีบกล่าว
อย่างไรก็ตาม 2 แม่ลูกครอบครัวนี้ ได้ยืนยันกับทางผู้สื่อข่าว ว่าจะยังอนุรักษ์การทำขนมกระยาสารทต่อไปจนกว่าจะหมดแรง ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/529493