ชาวภูเก็ตเตรียมเทศกาลกินเจ ฉลองยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน
ชาวภูเก็ตแห่ล้างอ๊าม เตรียมรับประเพณีถือศีลกินเจ หรือเทศกาลถือศีลกินผัก ประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน ระหว่างวันที่ 13-21 ต.ค.นี้...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.58 ตั้งแต่ช่วงเช้า และตลอดทั้งวัน ศาลเจ้า หรือ "อ๊าม" ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้เริ่มทยอยล้างศาล โดยจะมีการนำอุปกรณ์ต่างๆ ภายในศาลเจ้า เช่น แจกันดอกไม้ เชิงเทียน กระถางธูป โคมไฟ ฯลฯ มาชำระล้างขัดถูให้สะอาดมันเงา เพื่อเตรียมพร้อมที่จะประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ "ยกเสาโกเต้ง" ซึ่งเป็นต้นไผ่ตรงที่มีความสูงตึกหลายชั้น เพื่ออัญเชิญตะเกียงทั้ง 9 ขึ้นสู่ยอดเสาแต่ละศาลเจ้าที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 13-21 ต.ค. หรือ 9 วัน 9 คืน โดยแต่ละศาลเจ้าที่เข้าร่วมจะเริ่มยกเสาโกเต้งตั้งแต่เวลา 17.09 น. วันที่ 12 ต.ค.บางศาลเจ้าอาจยกเสาโกเต้งในค่ำคืนวันที่ 12 ต.ค.แล้วแต่ฤกษ์งามยามดีขององค์เทพที่ประจำอยู่แต่ละศาลเจ้ากำหนดเริ่มทยอยทำความสะอาดสิ่งของภายในศาลเจ้า
โดยศาลเจ้าบางเหนียว หรือ "ศาลเจ้าต่าวบู้เก๊ง" หรือ "มูลนิธิเทพราศี" เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2447 ชาวบ้านเรียกว่า ศาลเจ้าต่าวโบ้เก๊ง หรือ ฉ้ายตึ๋ง ได้ยึดถือวันที่ 4 ต.ค.ล้างศาลเจ้า ซึ่งมีพี่น้องชาวภูเก็ต ศิษยานุศิษย์ เหล่าม้าทรงประจำศาลเจ้านับร้อยต่างทยอยจูงลูกจูงหลานมาร่วมล้างศาลเจ้ากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ตต่างนำรถดับเพลิงมาฉีดชำระล้างพื้นโดยรอบศาลเจ้าให้สะอาด เพื่อสะดวกในการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในศาลเจ้า ทั้งนี้ ศาลเจ้าบางเหนียวหรือ "ฉ้ายตึ๋ง" เป็นที่ทราบกันว่ามีคณะกังฉ๊ายฮี่เดินทางมาจากเมืองจีนมาแสดงที่ตรอกเม่าเก้า หรือ ซอยรมณีย์ ถ.ถลาง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในปัจจุบัน ขณะนั้นมีศาลเจ้าอยู่เพียงแห่งเดียว จึงได้นำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๋ย) มาบำเพ็ญกุศลและเริ่มประเพณีถือศีลกินผักเป็นประจำ จนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสและเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากช่วยกันคนละไม้ คนละมือ
ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ที่ศาลเจ้าโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งนำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๋ย) ไปประดิษฐานที่ศาลเจ้าบางเหนียว และช่วยกันสร้างศาลเจ้าเรือนไม้หลังคามุงจาก 4-5 ปีต่อมาเกิดเพลิงไหม้ศาลเจ้าอีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน จากนั้นชาวบ้านจึงนำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๋ย) ไปประดิษฐานที่บริเวณตรงกันข้ามที่เกิดเพลิงไหม้ ชาวบ้านบางเหนียวเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ร่วมบำเพ็ญกุศลและถือศีลกินผักทุกปี ทำให้สถานที่คับแคบแก่ผู้ที่มาร่วมพิธีกรรม ขุนเลิศภาคารักษ์ได้ร่วมแรงร่วมใจกับพี่น้องชาวภูเก็ตปรับปรุงศาลเจ้าขึ้นใหม่ เป็นหลังคามุงสังกะสีและเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านซื้อที่ดิน 6 แปลงในปี พ.ศ.2500 คณะกรรมการบริหารศาลเจ้าจำนวน 5 คน ได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิเทพราศีในปี 2501 จากนั้นได้มีการปรับปรุงพัฒนาจากหลังคาสังกะสี เป็นอาคารคอนกรีตที่มีขนาดใหญ่อำนวยความสะดวกแก่ผู้คนที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน.เตรียมพร้อมเข้าสู่เทศกาล กินเจ ภูเก็ต
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/529863