พิมพ์

[raponsan]

"อาบัติ" ยังไม่ได้ดู ก็จัญไรแล้วหรือ.?

เป็นกระแสตั้งแต่ยังไม่เข้าฉายสำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง "อาบัติ" จากสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ บาแรมยู ผลงานการกำกับของ "ฝน ขนิษฐา ขวัญอยู่" ที่ได้นักแสดงดังมาร่วมงานมากมาย อาทิ สรพงษ์ ชาตรี, ดนัย จารุจินดา, อรรถพร ธีมากร, พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์, แน็ก ชาลี ปอทเจส, พลอย ศรนรินทร์ ฯลฯ
       
        โดยจากเดิมที่หนังมีกำหนดเข้าฉายรอบสื่อในวันพรุ่งนี้ (13) ล่าสุดทีมข่าวก็ได้รับแจ้งจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ค่ายสหมงคลฯ ว่าจำเป็นต้องเลื่อนการฉายออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ยังม่มีคำตอบว่ากำหนดการลงโรงในวันที่ 15 ตุลาคมนั้นจะยังคงเดิมหรือไม่..?

    

        เรื่องของเรื่องก็เพราะก่อนหน้านี้ได้มีสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายองค์กรพุทธ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงวัฒนธรรม ขอให้ทบทวนการฉายภาพยนตร์ภาพยนตร์เรื่องนี้้ด้วยเหตุผล 4 ประการด้วยกันประกอบไปด้วย
       
        1. ด้านเนื้อหา ภาพยนตร์ดังกล่าวดูหมิ่นดูแคลน ไม่ให้ความเคารพต่อพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน
        2. ด้านคุณค่า ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าใด ๆ ต่อสังคมไทย นอกจากก่อให้เกิดความเกลียดชังและขัดแย้งของผู้คนในสังคม
        3. ด้านศรัทธา ผู้สร้างมีเจตนามุ่งทำลายศรัทธาประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาใช่หรือไม่ และ
        4. ด้านจิตสำนึก เป็นการสร้างภาพยนตร์จากจินตนาการที่รุกล้ำล่วงเกินต่อพุทธศาสนา
       
        แม้ความกังวลดังกล่าวแม้จะตั้งอยู่บนความปรารถนาดี ทว่าสิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มาจากการ "คิดไปเอง" จากการเห็นแค่ "เรื่องย่อ" ดูแค่ "หนังตัวอย่าง" ที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้นเองหรือ.?


       


             อาบัติ เรื่องย่อ

        อาบัติเป็นเรื่องราวของ “ซัน” เด็กหนุ่มวัย 19 ปีผู้เอาแต่ใจตนเอง ไม่สนใจใคร และใช้ชีวิตคึกคะนองอย่างสุดขั้ว เขาจึงถูกพ่อบังคับให้มาบวชเณรเพื่อดัดนิสัย การบวชอย่างไม่เต็มใจ ไร้ศรัทธา และด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจว่าตนเองทำผิดอะไรนักหนา จึงทำให้ซันยังคงใช้ชีวิตเหมือนปกติทั่วไป รวมถึงการแอบคบหากับ “ฝ้าย” สาววัยรุ่นท้องถิ่นผู้โหยหาในความรัก

        ทุกการกระทำที่ท้าทายการอาบัตินี้ ทำให้เณรซันต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ลึกลับชวนขนหัวลุกที่ถูกปกปิดไว้ภายในวัด ทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของสีกากับพระ, การเผชิญหน้ากับผีเปรตที่ตามมาขอส่วนบุญและทวงคืนชีวิตที่ต่างเชื่อมโยงกันอย่างคาดไม่ถึง
 
     

            จากปาก จากใจ ผู้กำกับ

        "ก็ตกใจนิดนึงค่ะ เพราะจริงๆ เราก็คิดว่ามันมีการตัดเรทอะไรอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะมีกระเเสอะไรทำนองนี้ออกมาน่ะค่ะ แต่ว่าก็เข้าใจนะคะก็ด้วยตัวอย่างมันค่อนข้างที่จะคิดได้หลายมุมคนที่เกี่ยวข้องเขาก็อาจจะรู้สึก..." ผู้กำกับหญิงบอกถึงความรู้สึกกรณีที่หนังยาวเรื่องแรกที่กำกับแบบเต็มตัวตกเป็นประเด็นขึ้นมา
       
        เอ่ยชื่อของ "ฝน ขนิษฐา ขวัญอยู่" คนทั่วไปอาจจะไม่คุ้นหูนัก ทว่าในแวดวงคนทำหนังแล้วนี่คือคนทำหนังรุ่นใหม่ที่น่าจับตาเจ้าของผลงานหนังสั้น "เวลา...รัก" ที่ไปกวาดเอารางวัลต่างๆ มาแล้วมากมายก่อนที่ค่าย "จีทีเอช" จะนำไปพัฒนาต่อเป็นหนังยาวเรื่อง "ความจำสั้น แต่รักฉันยาว" โดยมีเธอรับหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เล่าถึงที่มาของโปรเจ็กต์หนังเรื่อง "อาบัติ" ว่า...

         

        "โปรเจกต์นี้มันเริ่มมาจากน้องคนหนึ่ง สมัยก่อนตอนน้องเค้าบวชเป็นสามเณรก็เล่าให้ฟังว่า สามเณรกับเพื่อนเค้าเนี่ยเห็นผู้หญิงห้อยขานั่งอยู่บนต้นไม้ สวยมาก ไม่ใส่เสื้อผ้าเลย ร่างสวยมาก ทุกอย่างสวย เป็นหญิงไทยแต่ไม่มีหัว เห็นตอนกลางวัน สามเณรวิ่งๆ ทุกคนเห็นเหมือนกันหมด ด้วยความกลัวผี คนแถวนั้น คนเฒ่าคนแก่เค้าบอกว่า คือ ผีเผต"
       
        "ผีประเภทนี้คือ ผู้หญิงตอนก่อนตายไปมีอะไรกับพระ ตายไปเลยเป็นแบบนี้ เราก็แบบ ‘มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย’ อันนี้คือไอเดียตั้งต้นที่มันโอเคมาก เราก็เลยหยิบไอเดียนี้มา หลังจากนั้นมันก็ถูกพัฒนาเป็นโครงเรื่องประมาณ 1 หน้ากระดาษค่ะ ก็ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ ก็มีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่รู้ทำไม มันถูกส่งกลับมาที่เรา ผู้กำกับที่ได้ไปเค้าติดอะไรไม่รู้ สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้ทำ ก็เลยวนกลับมาที่เรา"


   

        รับเข้าใจกับกระแสที่ออกมา แต่ก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เพราะเรื่องนี้เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรก
        "คือจริงๆ แล้วฝนพยายามจะเลี่ยง แต่มันเลี่ยงไม่ได้เรื่องพระพุทธศาสนา เพราะมันเป็นไอเดียตั้งต้นของเรา...จริงๆ แล้วการที่สีกามีอะไรกับพระ ฝนมองว่าความรักมันไม่ผิดนะ ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก มันเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน บางครั้งเราเห็นข่าว เขาอาจจะรักกันก็ได้ แต่มันผิดวินัย ต้องแยกออกมาก่อนว่า ความรักมันไม่ผิด คุณรักใครก็ได้ แต่การที่เราจะทำหรือไม่ทำ มันคือความผิดชอบชั่วดีที่เรารู้ว่าจะทำหรือไม่ทำดีกว่า"
       
        "คุณรักได้มั้ย ได้เลย แต่ถ้าคุณไม่กระทำ ไม่ก้าวเข้าไป คุณผิดมั้ย ไม่ผิดนี่ แต่ถ้าจะบอกว่ารักนะ สึกได้มั้ย รออยู่นะ อันนี้ฝนว่ามันผิดละ มันล้ำเส้นไปแล้ว แล้วเราก็ทำอะไรก็ได้ให้คนดูรู้สึกว่าความรักมันไม่ผิด อยากให้เข้าใจว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งฝนมองว่าความรักมันไม่ผิด มันเกิดขึ้นได้ อันนี้ก็เลยไม่กดดัน แต่แค่เราจะเขียนยังไงดี...พี่ปรัชก็ให้คำแนะนำว่า ในเรื่องนี้เนี่ยเราอาจจะมีพระที่ไม่ดี แต่สุดท้ายฝนต้องมีพระที่ดี เพื่อที่จะสะท้อนให้คนดูเห็น"

       

        "มันเหมือนการปลดกุญแจบางอย่าง มันโอเคมากเลยค่ะที่พี่ปรัชพูด แต่หลังจากนั้นคือ มันกลายเป็นว่าเราทำการบ้านหนักกว่าเดิม หนักมากมันเหมือนรื้อทั้งหมดใหม่ มันไม่ใช่แค่ผีอย่างเดียวละ คำสอนของพระพุทธศาสนามันมีอะไรบ้าง ฝนต้องการอะไรที่มันเข้าใจง่ายที่สุดเลย เรื่องไหนที่เข้าใจง่าย ทำไมเราถึงไม่เข้าใจ และทำไมเราถึงเข้าวัดอย่างบริสุทธิ์ใจ บางครั้งเราก็แอนตี้กับคนบางกลุ่มที่ทำแบบนี้ ถามตัวเองก่อนเลย"
       
        "รู้สึกใช้เวลา 1 ปีกับการอยู่กับตัวเองอย่างนี้ ซึ่งมันจะมีข่าวนู้นนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วฝนเองบ้านติดวัด พ่อจะไปวัด ก็จะปรึกษาพ่อ อันนี้ทำไมเค้าทำแบบนั้นแบบนี้ พอสุดท้ายเราก็มาได้จุดตรงกลางว่า เราจะแค่เล่าแค่นี้เอง เล่าแค่ผิดชอบชั่วดี แค่นี้หนูว่าเบสิกที่สุดแล้ว"


         

            ในมุมคนดู

         ทั้งนี้หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าหนังเรื่อง "อาบัติ" จะถูกห้ามฉายก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความเห็ยผ่านโลกโซเชียลกันมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับกระทรวงวัฒนธรรมเท่าไหร่ อาทิ
        "ไม่ทราบว่าแล้วแบบนี้เราจะมีระบบเรตติ้งไว้ทำซากอะไรกันครับ"
        "ทำไมไม่รอให้หนังเข้าฉายก่อนค่อยมาติติงกันก็ได้"
        "ไม่รู้ว่าหนังดีหรือไม่ดีหรอกค่ะ แต่รู้สึกว่าทำแบบนี้มันก็มากเกินไปหน่อยนะคะ"
       
        "ใครยังจำเรื่อง 15 ค่ำเดือน 11 ได้บ้าง ตอนนั้นก็มีกระแสข่าวว่าหนังลบหลู่เรื่องพญานาค แล้วยังไง สุดท้ายหนังทำออกมาได้อย่างสุดยอด คนแห่ไปเที่ยวหนองคายกันแทบแตก..."
        "ผมว่าคุณเอาเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้ไปดูไอ้พวกทรงเจ้า เข้าผีกันดีกว่ามั้ง นั่นแหละตัวงมงาม ตัวทำลายศสานาอย่างแท้จริง..."
        "กรูงงงก็อีกตรงที่ดูแค่หนังตังอย่างก็ตัดสินแล้วนี่แหละ โอ้ ช่างคิดได้น้อ"
       
        "เห็นแล้วผมนึกไปถึงหนังประวัติพระรูปดังที่มีพวกศาสนาหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้เข้ามาช่วยการันตีว่าหนังดีอย่างโน้นอย่างนี้ โดยที่ไม่ลืมหูลืมตาเลยว่าตัวหนังเป็นอย่าง แบบนั้นคือหนังดีจรรโลงศาสนาหรือไงครับ แล้วสรุปเป็นไง หงายเงิบ แถมตอนนี้มีข่าวว่าผู้กำกับเองเลิกนับถือศาสนาพุทธไปแล้วเพราะรู้สึกว่าทำดีไม่ได้ดี ทุด..."
        "จริงๆ ไม่น่าจะรีบร้อนตัดสินกันแบบนี้เลยนะ อย่างน้อยๆ ให้เขาฉายหน่อยก็ยังดี..." ฯลฯ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000114481

[Hero]

ผมว่าควรหยุดโพสต์ เรื่องพวกนี้ เพราะเรากำลังเป็นการตลาดให้กับหนังเรื่องนี้ ครับ