ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระบรมสารีริกธาตุ 5 แผ่นดิน ที่ “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ”  (อ่าน 2296 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




พระบรมสารีริกธาตุ 5 แผ่นดิน ที่ “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ”

“ธรรมะจัดสรร” เราเคยได้ยินถ้อยคำนี้จากรุ่นพี่คนหนึ่ง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราคิดถึงถ้อยคำนี้อีกครั้ง “เจดีย์สีทอง” อร่ามตาอยู่เบื้องหน้า เพียงไม่นานหลังจากวกรถจาก “ถ.เพชรเกษม” เข้าสู่ “ถ.จอมพล” เส้นทางระหว่าง “ชะอำ-หัวหิน” และที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปดูให้หายสงสัย

“พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ” เสียงจากเครื่องขยายเสียงดังมาให้ได้ยิน ราวกับรู้ว่าเราสงสัยอะไร ขณะที่เรากำลังมองหาที่จอดรถในลาน ซึ่งมีรถจอดอยู่ก่อนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เดินมาโบกรถให้เราจอดอย่างเรียบร้อย ก่อนจะตอบคำถามว่า “วัดห้วยทรายใต้” ที่เราเพิ่งมาถึง กำลังมี “พิธีบรรจุหัวใจหลวงพ่อทองสุข”

 :25: :25: :25: :25:

พวกเราไม่รอช้า เร่งฝีเท้าเพื่อเข้าสู่ด้านในด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่เสียงสวดมนต์ดังกังวานไปทั่ววัด ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายนั่งประนมมืออยู่ตามจุดต่างๆ เต็มพื้นที่ เราชวนกันไป “ถวายสังฆทาน” เป็นลำดับแรก ตามความตั้งใจแต่ต้น ก่อนจะค่อยๆ เดินสำรวจรอบๆ สถานที่ กระทั่งไปหยุดยังจุดให้เช่า “วัตถุมงคล” ซึ่งน่าจะให้ข้อมูลเราได้มาก

ในที่สุดเราก็ได้รู้ว่า อาคารมณฑปหลังใหญ่ 6 ชั้น ที่เราเห็นนี้ บนสุดคือ “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ” เจดีย์สีทองเด่นสะดุดตาที่เราเห็นในคราแรก จนต้องเลี้ยวรถเข้ามานั่นเอง ภายใต้ “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ” เป็นที่ประดิษฐาน “พระบรมสารีริกธาตุ 5 แผ่นดิน” เหตุที่เรียกว่า “5 แผ่นดิน” เพราะ “พระบรมสารีริกธาตุ” มาจาก 5 แผ่นดินที่แตกต่ากัน ได้แก่ ไทย อินเดีย ศรีลังกา ทิเบต และพม่า 



ภายในมณฑปแห่งนี้ ยังมีประดิษฐานรูปปั้น “หลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโต” หรือ “พระครูพินิจสุตคุณ” องค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร 9 นิ้ว ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย “หลวงพ่อทองศุข” มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือศรัทธาของ “ชาวเมืองเพชร” และจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะนักนิยม “วัตถุมงคล”

    “หลวงพ่อทองศุข” เป็นอดีตเจ้าอาวาส “วัดโตนดหลวง” และเป็น “พระอุปัชชาย์” ให้แก่ “หลวงพ่อห่วย จกฺกวโร” หรือ “พระครูฌานวัชราภรณ์”  “หลวงพ่อห่วย” ก็คือเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของ “วัดห้วยทรายใต้” นั่นเอง
    “วัดห้วยทรายใต้” สร้างเมื่อปี 2510 โดย “หลวงพ่อโต จุนฺโท” เจ้าอาวาสองค์แรก โดยสร้างขึ้นบนที่ดินซึ่งเป็นสมบัติของ “โยมมารดา” หลวงพ่อโต ซึ่งมีศรัทธาถวายเพื่อสร้างวัด
    เมื่อ “หลวงพ่อโต” มรณภาพในปี 2531 ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกัน กราบอาราธนา “พระอาจารย์ห่วย จกฺกวโร” รองเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงในขณะนั้น มาดำรงตำแหน่ง “เจ้าอาวาส”



    “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ” สร้างขึ้นโดยมีที่มาจากเมื่อครั้ง “หลวงพ่อห่วย” เดินทางไปจาริกแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดีย และเกิดความประทับใจใน “พระมหาเจดีย์” ของ “วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์”
     “หลวงพ่อห่วย” จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้มีโอกาสได้สร้าง “พระมหาธาตุเจดีย์” บรรจุ “พระบรมสารีริกธาตุ” ณ วัดห้วยทรายใต้ จนกระทั่งแล้วเสร็จดังปรากฏที่เห็นในวันนี้

ทางวัดได้จัด “พิธีพุทธาภิเษก” สมโภชพระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ เมื่อ 26 ก.ย.58 โดยอาราธนาพระเกจิคณาจารย์ 1,509 รูป จากทั่วประเทศไทย มาเจริญพระพุทธมนต์ นั่งปรกอธิษฐานจิต “วัตถุมงคล” ด้วย หลังสอบถามกันอยู่พักใหญ่ เราก็ได้เหรียญที่ระลึกทั้ง “หลวงพ่อทองสุข” และ “หลวงพ่อห่วย” กลับบ้านกันแบบเต็มใจและอุ่นใจ พร้อมข้อมูลที่บอกว่าได้ทำลาย “แม่พิมพ์” การสร้าง “วัตถุมงคล” ครั้งนี้แล้วด้วย

จากนั้นเราก็ได้รับคำแนะนำให้เข้าสู่ด้านในมณฑป ซึ่งกำลังรอทำพิธี “บรรจุหัวใจ” ของ “หลวงพ่อทองสุข” เข้าสู่ “รูปปั้น” ขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายใน นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีสำคัญเช่นนี้ มองเห็นเหล่าญาติโยมผู้มีศรัทธาทั้งหลาย ส่วนใหญ่อยู่ในชุดนุ่งห่มขาว นั่งกันอย่างสำรวม รอคอยเวลาอย่างใจจดจ่อ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็ทยอยกันนำ “ทองคำเปลว” ปิดลงบนวัตถุสีแดงรูปทรงคล้าย “หัวใจ” อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของงานนี้



เมื่อได้ฤกษ์ดีตามเวลาที่แจ้งกันไว้ “หลวงพ่อห่วย” ก็เดินนำขบวน แห่ “หัวใจ” วนไปรอบ “รูปปั้น” ตามด้วยประธานฝ่ายฆราวาส ขณะนั้นเหล่าคณะสงฆ์ก็สวดมนต์พร้อมกันดังไปทั่วบริเวณ ตอนที่ขบวนแห่กำลังวนไปรอบๆ นั้น ทั้งลมและฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนักไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน และกรมอุตุนิยมวิทยาก็แจ้งล่วงหน้าถึงผลกระทบจาก “พายุ” ไว้ด้วย แต่ที่ออกจะน่าแปลกใจ และเป็นที่โจษจันกันตลอดงาน เห็นจะอยู่ที่ พอเดินวนครบ 3 รอบ ทั้งลมทั้งฝนก็ดูราวกับเป็นใจ พร้อมใจกันหยุดกระหน่ำเสียดื้อๆ

จากนั้นก็มีการนำ “หัวใจ” เข้าสู่ประตูด้านหลังของ “รูปปั้น” ซึ่งด้านในเป็นโครงสร้าง ที่สามารถนำ “หัวใจ” ขึ้นไปยังบริเวณ “ทรวงอก” ของ “หลวงพ่อทองสุข” ได้พอดี หลังพิธีจบเสร็จเรียบร้อย เหล่าญาติโยมทั้งหลาย ก็ชวนกันเดินขึ้นสู่ด้านบน เพื่อสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ” พวกเราไม่รอช้าเดินตามขึ้นไปด้วย ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปแต่ละชั้น เพื่อนรุ่นพี่ที่มาด้วยกัน ก็ชี้ชวนให้ชมลวดลายปูนปั้นที่บอกว่าเป็นฝีมือแบบ “ตระกูลช่างเมืองเพชร” ซึ่งมีให้เห็นตลอดทางทุกชั้น


 :25: :25: :25: :25:

แต่ละชั้นที่เดินวนขึ้นไปนั้น สามารถมองเห็น “รูปปั้นหลวงพ่อทองสุข” ในหลากหลายมุม เหล่าญาติโยมหยุดถ่ายภาพที่ระลึกกันเป็นระยะ เพราะได้มุมมองที่แตกต่างกัน ขณะนั้นพวกเราก็มองเห็นคณะที่กำลังเดินนำอยู่ด้านหน้า โดยมี “หลวงพ่อห่วย” เจ้าอาวาส อยู่ด้านหน้าสุด มีลูกศิษย์ลูกหา และญาติโยมเดินตามขบวนกันไป เราถือโอกาสนั้นต่อท้ายขบวนตามขึ้นไปสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ” ด้วย

ภายใต้ “เจดีย์สีทอง” ที่เราเห็นจากด้านนอกไกลๆ นั้น บัดนี้เรามาอยู่ภายใน และมี “พระบรมสารีริกธาตุ” ที่ประดิษฐานเรียงรายกันอยู่ 5 จุด คือบริเวณกึ่งกลาง และ รายรอบ 4 ทิศ นับเป็นโชคดีอย่างยิ่ง เพราะ “หลวงพ่อห่วย” กล่าวนำคำสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ” ให้แก่ผู้ติดตาม โดยวนไปรอบๆ จนครบทั้ง 4 ทิศ และพวกเราก็ได้ร่วมอยู่ในคณะด้วย พวกเราชวนกันเดินวนไปรอบๆ “พระรัตนเจดีย์ศรีมหาธาตุ” เพื่อชมทัศนียภาพของ “ชะอำ” ซึ่งมองเห็นความเขียวชอุ่มของต้นไม้ยามฤดูฝน และมองเห็นทะเลอ่าวไทยอยู่ลิบๆ

    “ธรรมะจัดสรร” เพื่อนรุ่นพี่เราเอ่ยขึ้นมาอีกคราว และเราก็เริ่มรู้สึกเช่นนั้นเช่นกัน...


เขียนบทความโดย ออนอาร์ต / roythao@yahoo.com
ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.banmuang.co.th/column/other/1563
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNSOC5809280010094/2/64340
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 st12

    คาดหวังว่า สักวันหนึ่ง จะมีผู้สร้างเจดีย์ ระลึกถึงคุณของหลวงปู่สุก ไกเถื่อน ให้เลื่องลือ แม้เจดีย์ที่ ในหลวงสร้างถวายไว้ที่วัดพลับนั้น ดูแล้ว ไม่ทำให้สะกิดใจนึกถึงหลวงปู่สุก เลย เวลาเข้าไปที่วัดราชสิทธาราม อาจจะเป้นเพราะว่าเป็นเจดีย์ที่ในหลวงพระราชทาน สร้าง ไว้แม้จะเป็นคู่หน้าอุโบสถ แต่ ก็ไม่ระทึก ตระการตา ตระการใจเลย

    ก็ลุ้นอยู่ว่า ทาง ทีมสระบุรี จะได้จัดสร้าง ได้อย่างยิ่งใหญ่ ดั่งเช่น ปฐมเจดีย์
    ปฐมเจดีย์ ถึงแม้ไปวันนี้ ก็ไม่มีอะไรสื่อถึง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ผมจึงเชื่อว่า ถ้าทุติยะเจดีย์ ขึ้น ต้องมีอะไรสื่อถึง หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน หรือ พระกรรมฐาน

     ผมยังคิดอยู่ว่า ถ้ามีจิตรกรรมฝาผนัง เล่าประวัติการสืบพระกรรมฐาน ด้วยในพระเจดีย์ที่ 2 นี้จะน่าชื่นชมขนาดไหน

     ขออภัยไม่ใช่ความคิดของผมนะครับ แต่ผมจากรายการตอนหนึ่งที่พระอาจารย์ท่านเล่า เกี่ยวกับเรื่อง ทุติยะเจดีย์ ทำให้ผมอยากเห็น เจดีย์ นี้ก่อนเสียชีวิตลง จริง ๆ ครับ

   st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :welcome: gd1 like1
     ท่านเฮโร่ พูดได้ดี ..ปล่อยวางได้อย่างนั้นน่ะดีแล้ว สาธุ

        เรื่องเจดีย์นี้ เรื่องสำคัญ  ต้องตาม ตามแผนที่คือ ตามครูบาอาจารย์ นะครับ

         

       
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ