พิมพ์

[raponsan]

ประเมินเชิงคุณภาพหมู่บ้านศีล 5 ใช้สถิติอาชญากรรมชี้วัด

ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เปิดประชุมใหญ่เดินหน้าโครงการหมู่บ้านศีล 5 ระยะที่ 3 เชิงคุณภาพ ขณะที่พระพรหมเสนาบดี ประธานขับเคลื่อนโครงการฯ ชี้ ใช้สถิติอาชญากรรมวัดผล คนไทยใช้ศีล 5 สู่การปฏิบัติหรือไม่

เมื่อวันที่1พ.ย. ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม มีการประชุมขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล5" ในระยะที่3โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมทั้งกล่าวเปิดการประชุมว่า

โครงการนี้เป็นการดำเนินการของคณะสงฆ์ โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เป็นหน่วยงานที่สนองการดำเนินงาน ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากสื่อต่างๆ และนักร้องชื่อดังอย่าง ยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว และครูสลา คุณวุฒิ มาช่วยแต่งเพลงประชาสัมพันธ์โครงการนี้ด้วย หลังจากช่วงที่ผ่านมามีการมอบป้ายให้กับหมู่บ้านที่มีประชาชนเข้าร่วมโครงการร้อยละ 50แต่หากจังหวัดใดสามารถดำเนินการได้ร้อยละ80จะมีการมอบโล่เงินให้ หากได้ร้อยละ100จะมีการมอบโล่ทองให้ ซึ่งขณะนี้มีจังหวัดที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ80แล้ว29จังหวัด
 
 

พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เจ้าคณะภาค7 ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการฯ กล่าวว่า ผลการดำเนินการทั้ง2ระยะที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมโครงการร้อยละ61ของประชาชนทั้งประเทศ ส่วนการดำเนินการระยะที่3นี้ จะเน้นที่เชิงคุณภาพ ทั้งมุ่งให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการต้องกล่าวอาราธนาศีล 5ได้ และจะมีการประเมินในแต่ละพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการว่าประชาชนมีการประพฤติตัวตามหลักศีล5มากน้อยเพียงใด โดยจะใช้จำนวนสถิติการก่อคดีอาชญากรรมเป็นตัวชี้วัดเบื้องต้น

พร้อมกันนี้เจ้าคณะผู้ปกครองก็จะมีการลงพื้นที่เพื่อประเมินในแต่ละพื้นที่ด้วยว่ายังมีประชาชนดื่มเหล้า รวมไปถึงการพูดกล่าวเท็จทำให้เกิดความขัดแย้งอยู่หรือไม่ และเจ้าคณะผู้ปกครองจะต้องมี การรายงานมายังคณะกรรมการโครงการฯทุกวันที่ 20ของทุกเดือน ทั้งนี้จะมีการเริ่มประเมินตั้งแต่เดือนม.ค.2559 เป็นต้นไป

ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลพศ. กล่าวว่า หลักธรรมของพระพุทธศาสนาสามารถน้อมนำจิตใจให้เกิดความปรองดองกันได้ และการดำเนินการโครงการหมู่บ้านศีล5ถือเป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาลในการนำมาสร้างความปรองดอง ซึ่งในการดำเนินการโครงการในระยะที่3นี้ อยากให้เน้นเชิงคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนนำหลักศีล 5 ไปประพฤติปฏิบัติได้ด้วย

และเห็นว่าในระยะที่ 3 นี้ ควรแบ่งการดำเนินการเป็น2ระยะ เพื่อจะได้สามารถปรับปรุงการดำเนินงานได้ และควรแต่งตั้งอาสาสมัครในการเก็บข้อมูลของแต่ละพื้นที่ด้วย ตนหวังว่าในช่วงรัฐบาลนี้ พระสงฆ์จะช่วยเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยใช้หลักศีล5เป็นกลไกสำคัญ.

ขอบคุณภาพข่าวจาก: http://www.dailynews.co.th/education/358114

[PRAMOTE(aaaa)]

 
       ก็ดี ครับ......เพราะเมื่อสร้างเหตุ   ก็ต้องมี  วิจัย   และการประเมิน หรือการวัดผล ครับ