พิมพ์

[raponsan]

'สื่อธรรม'พ้นมิติเวลา'อินสตาญาณ'พระปรีชาฯ'สังฆราช'

ทั้งนี้ การ “ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กผสมผสานกับธรรมะ” นี้ มีกรณีจาก “หนังสือชุด...วจนธรรม” ซึ่งรวบรวมและย่อยเนื้อหาจากพระนิพนธ์ฉบับต่าง ๆ มาจัดพิมพ์ขึ้น

“หนังสือ วจนธรรม นี้ เป็นสื่อธรรมะรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบให้น่าสนใจ และนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาใช้ เพื่อให้คนทั่วไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เข้าถึงธรรมะง่ายขึ้น ซึ่งคือหนึ่งในพระดำริ สมเด็จพระสังฆราชฯ“...เป็นการระบุของ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ผ่านทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์”

    ... เกี่ยวกับการ “ใช้สื่อโซเชียล” กับ “ธรรมะ”
    ตามพระปณิธานใน “สมเด็จพระสังฆราชฯ”
    มุ่งหวัง “ให้คนยุคใหม่เข้าถึงธรรมะ” มากขึ้น

 

ทั้งนี้ การ “ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กผสมผสานกับธรรมะ” นี้ มีกรณีจาก “หนังสือชุด...วจนธรรม” ซึ่งรวบรวมและย่อยเนื้อหาจากพระนิพนธ์ฉบับต่าง ๆ มาจัดพิมพ์ขึ้น โดยแบ่งออกเป็น ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ได้แก่...’วจนธรรม ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก“ และชุด ’102 วจนธรรม“ ซึ่งก็ “มีจุดน่าสนใจ” มีรายละเอียด ที่ต่างกัน...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ได้อธิบายผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า...หนังสือทั้ง 2 ชุด มีการ “ใช้รูปแบบของโซเชียลเน็ตเวิร์ก” รวมถึงมีการเชิญชวนให้ผู้คน “ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อเผยแผ่พระนิพนธ์-ธรรมนิพนธ์” ใน สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้สังคมได้ศึกษาและเรียนรู้ อันจะเป็นการทำนุบำรุงพระศาสนา...รวมถึง เพื่อรำลึกถึง สมเด็จพระสังฆราชฯ

 

สำหรับในชุดที่ 1 นั้น ได้เชิญชวนให้ประชาชน “ร่วมกันแชร์วจนธรรม” ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพในหนังสือ ก่อนจะนำไปโพสต์หรือแชร์ต่อในโปรแกรมแบ่งปันรูปภาพและเรื่องราวยอดนิยม อย่าง อินสตาแกรม โดยขอให้ผู้ที่โพสต์หรือแชร์ภาพที่ถ่ายจากหนังสือ “ร่วมกันติดแฮชแท็ก” ด้วยประโยค ’#Instanyana“ ใต้ภาพที่มีการโพสต์

    เพื่อร่วมกันแสดงถึง “พลังแห่งพระธรรม”
    “ช่วยกันเผยแผ่...วจนธรรม” ผ่านโซเชียล

 

’การเชิญชวนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อเผยแผ่ธรรมะ พระนิพนธ์ ธรรมนิพนธ์ ใน สมเด็จพระสังฆราชฯ นอกจากเพื่อให้เป็นเครื่องฉุกคิด เตือนสติแล้ว ยังเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วย“...พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าว

สำหรับคำว่า...“Instanyana” ในภาษาอังกฤษ หรือในภาษาไทย “อินสตาญาณ” นั้น ก็มีความหมาย โดยคำว่า...“อินสตา” แปลว่า...“ทันที ฉับพลัน” ส่วน “ญาณ” แปลว่า...“ความรู้ ปัญญา” เมื่อรวมกันเป็นคำว่า...“อินสตาญาณ-Instanyana” ก็แปลได้ว่า...’ความรู้หรือปัญญาในฉับพลัน“ ซึ่งก็เปรียบเป็น “ปริศนาธรรม” ให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ศึกษา-เรียนรู้

    เพื่อทำให้ผู้คนรู้สึกสนุกกับลูกเล่นที่เพิ่มขึ้น
    ทำให้ “สื่อธรรมะ...ไม่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย”

 

ในส่วนของหนังสือวจนธรรมชุดที่ 2 คือ “102 วจนธรรม” ซึ่งเพิ่งจัดพิมพ์เมื่อเดือน ต.ค. 2558 นั้น ในชุดนี้ได้มีการ “สอดแทรกลูกเล่น” โดยเป็น ’หนังสือ 3 มิติ“ ซึ่งผู้ใช้งานเพียงดาวน์โหลด ’แอพพลิเคชั่น The Sangharaja“ ลงโทรศัพท์มือถือ จากนั้นทำการเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมา แล้วนำไปสแกนที่หน้าหนังสือซึ่งมี สัญลักษณ์ ’AR“ ที่เป็น ระบบ Augmented Reality ตรงบริเวณมุมด้านล่าง ก็จะปรากฏ ’ภาพเคลื่อนไหว“ อาทิ...ภาพประตูวัดเปิด และปรากฏภาพ สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานพร เป็นต้น...เหล่านี้คือ “ลูกเล่นใหม่” ใน “หนังสือวจนธรรม ชุดที่ 2” ซึ่งแตกต่างไปจากชุดแรก...

    “หนังสือ 3 มิติ” คือจุดเด่นที่ “น่าสนใจ”

 

อย่างไรก็ตาม พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ชี้แจงว่า...เบื้องต้นขณะนี้ระบบที่รองรับแอพพลิเคชั่นนี้ ยังใช้ได้เฉพาะ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เท่านั้น และผู้ที่จะชม “หนังสือ 3 มิติ” ก็ยังจำเป็นที่จะต้องมี “หนังสือต้นฉบับ” ที่เป็นรูปเล่มก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางคณะผู้จัดทำกำลังจะพัฒนาให้สามารถใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้น และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ “อัพโหลดข้อมูลหนังสือ” ลงใน เว็บไซต์ www.sangharaja.org ที่วัดบวรฯ ทำขึ้น ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็น เว็บไซต์หนึ่งเดียว ที่...

มี ’ข้อมูล สมเด็จพระสังฆราชฯ“ ครบถ้วนที่สุด

 

ทั้งนี้ กับ “แนวคิดใช้สื่อโซเชียลผสมผสานสื่อธรรมะ” นั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ระบุว่า...อาจเรียกการจัดทำ “สื่อธรรมะ” รูปแบบนี้ โดยเปรียบได้กับคำว่า...“อกาลิโก” ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา หมายถึงการ “พ้นมิติแห่งกาลเวลา” ซึ่งโซเชียลเน็ตเวิร์กมีบทบาทกับผู้คนยุคปัจจุบันมาก ดังนั้น แนวคิดเผยแผ่ธรรมะผ่านช่องทางนี้ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ทำได้...แต่ต้องเหมาะสม!!!

    เพื่อให้ “ธรรมะอินเทรนด์...ทันยุค-ทันสมัย”

 

’สมเด็จฯ เคยมีคำสอนว่า...ให้ใช้ตัณหากำจัดตัณหา เราจึงทำสื่อธรรมะรูปแบบใหม่นี้ขึ้นมา เพื่อทำให้คนอยากดู อยากเห็น อยากอ่าน เราสร้างกิเลสขึ้นมา เพื่อให้เขาลดกิเลส ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อที่ธรรมะจะขยับเข้าหาคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น และเพื่อทำให้คนยุคนี้เขยิบเข้ามาใกล้ธรรมะยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้สื่อโซเชียล หรือนำรูปแบบที่ทันสมัยมาประยุกต์นั้น ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ธรรมะไม่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายอีกต่อไป“...พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ เน้นย้ำถึงเรื่องนี้

    พระเมตตา ’วจนธรรม...สมเด็จพระสังฆราชฯ“
    ในวันนี้เกิดเป็นรูปแบบ ’สื่อธรรมะที่ร่วมสมัย“
    ย้อนดูที่มาที่ไป...นี่ก็ ’ด้วยพระปรีชาญาณ“

ขอบคุณภาพและบทความจาก : http://www.dailynews.co.th/article/366888

[PRAMOTE(aaaa)]

      เค้าเก่งครับ