ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กินของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง : สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง  (อ่าน 5068 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29353
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


จะรู้ได้อย่างไรว่าเริ่ม..แก่
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง : กินของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง
           
   คนเราตอนเป็นเด็กก็อยากจะรีบโต จะได้รู้สึกเป็นอิสระรับผิดชอบตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องมีพ่อแม่มาคอยควบคุม แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ แล้ว กลับกลัวการที่จะเติบโตต่อไปหรือไม่อยากกลายเป็นผู้อาวุโส (Sentiority) ในที่ทำงานสาเหตุลึก ๆ ก็เพราะกลัวคนเขาว่าแก่นั่นเอง แต่ก็เหมือนกันที่บางคนอายุไม่เทท่าไหร่ แต่ด้วยหน้าที่การงาน และบทบาทบังคับให้ต้องเก็กทำตัวแก่อยู่ตลอดเวลาเพราะเกรงว่าจะขาดความเชื่อถือ แต่ลึก ๆ ในจิตใจมนุษย์ทุกคนนั้นไซ้ร์ไม้มีใครที่อยากจะแก่เร็วหรอก ไม่เช่นนั้นจะเกิดสถานบริการเสริมความงามกันเต็มบ้านเต็มเมืองหรอกหรือ

    แต่อย่างที่พระท่านว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ บางคน อาจดึงเสริมแต่งไว้จนคนอื่น ๆ คาดเดาอายุไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่อาจพอประเมินและสังเกตุได้บ้างก็คือพฤติกรรมที่แสดงออก      
 
    :96: :96: :96: :96:

    คนโบราณตั้งข้อสังเกตกิริยาอาการของคนเข้าขั้น แก่ไว้ 3 ประการ คือ
    “กินของขม ชมเด็กสาว และเล่าความหลัง”

    นั่นเพราะว่าคนทั่ว ๆ ไปรวมถึงเด็กๆ มักจะไม่ชอบของขม เพราะรู้สึกว่ารับประทานยากถึงแม้จะมีคนบอกว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ก็ตาม ดังที่เราจะสังเกตเห็นว่าคนที่เริ่มรู้สึกจะชอบของขม เช่น สะเดาลวก มะระต้ม ชะอมทอด คือ คนที่เริ่มมีอายุมากขึ้น เพราะถ้ารับประทานอาหารหวานมากเกินไปก็เกรงว่าจะเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น
    ดั้งนั้นใครก็ตามที่เคยไม่ชอบอาหารรสขม แต่มารู้สึกเอร็ดอร่อยเอาในตอนนี้ ก็พึงคำนึงไว้เถิดว่าท่านกำลังแก่

     
   

    คนเมื่ออายุมากขึ้นเนื้อหนังก็หย่อนยาน เมื่อมองดูสังขารตัวเองไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อหันไปมองดูเด็ก ๆ รุ่นใหม่เนื้อหนังเต็งตึง ผิวพรรณสดใสดูแล้วช่างเพลิดเพลินเจริญหูเจริญตา และยิ่งถ้าเป็นมนุษย์ผู้ชายด้วยแล้วเมื่อหันกลับมามองดูมนุษย์ผู้หญิงที่เป็นคู่เรียงเคียงหมอนของตนแล้วทำให้เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสกับของเต่งตึงเข้าตำรา “วัวแก่อยากกินหญ้าอ่อน”

    มีคนกล่าวไว้ว่าผู้หญิงก็เเหมือนมะม่วง กินตอนอ่อนก็เปรี้ยวหน่อย แต่รสชาติก็ทำให้ซู่ซ่ากระชุ่มกระชวยดี ถ้ากินตอนห่าม ๆ ก็มัน ๆ อย่างเดียว กินตินสุกก็ชุ่มฉ่ำ ๆ กินตอนช้ำก็เลอะไม้เลอะมือ (ผู้ชายก็คงไม่แตกต่างกัน) ดังนั้นหลายคนจึงมักอยากจะกินมะม่วงก่อนที่มันจะช้ำคุณผู้หญิงผู้ชายทั้งหลายคนจึงมักอยากจะกินมะม่วงก่อนที่มันจะช้ำคุณผู้หญิงผู้ชายทั้งหลาย รู้ไว้เถิดถ้าท่านเฝ้าแต่ใฝ่หาของอ่อน ๆ เอ๊าะ ๆ ละก็ รู้ไว้เถิดว่าแก่แล้วและเขาเรียกว่า “เฒ่าหัวงู”

           

    ลักษณะของคนแก่อีกประการหนึ่ง คือ ชอบเล่าเรื่องความหลัง เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า “คนหนุ่มสาวชอบมองไปข้างหน้า คนชราชอบมองไปข้างหลัง คนหนุ่มสาวอยู่ด้วยความหวัง คนชราอยู่ด้วยความทรงจำ” ถึงแม้วันคืนจะไม่หวนกลับทิ้งไว้แต่เรื่องราวเก่า ๆ ที่ซึมซับอยู่กับรอยย่นของความชรา เรื่องเก่า ๆ ในอดีตกาลจะกลายเป็นเรื่องเล่าขานสิ่งของที่เก่าแก่แต่มีคุณค่าจะกลายเป็ฯมรดก คนก็แก่ลงไปทุกวัน ซึ่งถ้าเป็นผู้ที่มีคุณงามความดีไม่มีแถมทำร้าย ๆ ไว้เยอะอาจจะกลายเป็นคนชราอนาถาก็ได้
     
     :49: :49: :49: :49:

    พึงระลึกไว้เถิดว่าหากผู้ใดมีพฤติกรรมดังที่กล่าวมา “ชอบกินของขม ชอบชมเด็กสาว และชอบเล่าความหลัง” นั่นคือสัญญาณแห่งความแก่มาเตือนนั่นเอง เวลาข้างหน้าก็เหลืออยู่น้อยเต็มที จะตายวันตายพรุ่งไม่มีใครหยั่งรู้ได้ดังนั้นเราควรสร้างความดีแก่ผู้คนและสังคมไว้เยอะๆ จะดีกว่าพระท่านว่าคนเราต้องรู้จักลดความโลภ ลดความอยาก ลงเสียบ้าง เพราะถ้าทุกคนได้ทุกอย่างดังที่คิดสิ้นชีวิตจะเอาของกองไว้ไหน จะได้บ้างเสียบ้างช่างปะไร สังขารใครสังขารมันเท่านั้นเอง

     
ที่มา : บทความสุขภาพจิตของโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์
http://www.jvkk.go.th/jvkkfirst/story/health/81.htm
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ