ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาของสมภาร  (อ่าน 938 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เวลาของสมภาร
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2016, 08:34:02 pm »
0


เวลาของสมภาร

ปัญหาวิวาทขัดแย้งในการแต่งตั้งสมภาร เคยเกิดขึ้นแล้วหลายยุคหลายสมัย ผมมีเรื่องเก่า เมื่อราวปี 2503–2504 จะเล่าให้ฟัง หลังพระครูสังฆรักษ์ (แม) ผมเรียกท่าน “คุณก๋งแม” มรณภาพ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปทุมคณาวาส ปากคลองบางเรือหัก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ก็ว่างลง

คุณก๋งแม ท่านเป็นพระหมอเรืองวิชา...ทั้งเรื่องยาแผนโบราณ เรื่องอาคมเสกเป่า ใครเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องไปหา...ท่านเอาหลานชายมาบวชเป็นพระ พวกเราเรียกกันว่า “หลวงพี่ (อุ)ดมว่ากันว่าท่านตั้งใจถ่ายทอดวิชาให้เต็มที่ ในทางวิชาหมอยา วิชาอาคม หลวงพี่ดมก้าวหน้า แต่ในทางปริยัติ สอบได้แค่นักธรรมตรี

ภาระในการเลือกสมภารเป็นของท่านเจ้าคุณสมุทรโมลี เจ้าคณะจังหวัด...ดูเหมือนท่านก็พยายามสดับตรับฟังเสียงของชาวบ้าน...เทไปให้พระระดับหัววัดองค์ไหน ก็ตั้งใจจะตั้งองค์นั้น


 :96: :96: :96: :96:

อันดับแรก หลวงพี่เติม...วุฒินักธรรมเอกครูสอนนักธรรม พระบวชใหม่กี่รุ่นๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกเรือประมง ก็ต้องเป็นศิษย์ท่าน แถมชาวบ้านนับถือกันด้านวิชา “สูญฝี” แต่ความที่ท่านมีศิษย์ขึ้นชื่อไปในทางนักเลง ข้อหาพระนักเลง ทำให้คะแนนความเหมาะสมของหลวงพี่เติมลดลงไป

อีกรูปหลวงน้าเติม เติมเหมือนกัน ชาวบ้านเรียกหลวงพี่เติม “เติมเล็ก” เรียกหลวงน้าเติม “เติมใหญ่” หลวงน้าเติมเป็นพระโอภาปราศรัย กุฏิท่านไม่เคยว่างแขก...คุยกับหลวงน้าได้ทุกเรื่อง เรื่องพระเครื่อง เรื่องหวย คุณงามความดีน้าเติมก็มี แต่ถูกหักคะแนน เล่นพระเครื่อง เรื่องหวย

เหนือวัดปทุมฯไปเล็กน้อย เป็นบ้านเกิดของ “มหาประยงค์” แต่ท่านรุ่งเรืองเฟื่องฟูอยู่ที่วัดบ้านแหลม วัดเจ้าคณะจังหวัด...ตำแหน่งก็สำคัญ เป็นเลขาหลวงพ่อพระสมุทรโมลี ตำแหน่งสมภารรักษาการ จึงหล่นใส่มหายงค์

แต่ช่วงเวลาทดลองงาน ท่านว่าที่สมภาร ก็ถูก “ลองของ” จู่ๆเท้ง (โป๊ะ) ข้างวัด ก็ถูกตัดลอย แล้วก็มีคนไปบอกว่าที่สมภารให้ไปจัดการที ยังมีหลายเรื่อง สะท้อนความไม่ตอบรับ โทษฐานที่ท่านไม่ใช่พระวัดปทุมฯ

 st12 st12 st12 st12

วันหนึ่ง ท่านเจ้าคุณสมุทรโมลี ก็พระทั้งวัด ทั้งนัดชาวบ้านให้มาช่วยกันแสดงประชามติ เสียงใหญ่เสียงเดียว แต่ก็ดังจนทุกคนต้องฟัง คือเสียงจาก “โยมไล้” ที่ศาลอาม้า เถ้าแก๋ใหญ่ พี่น้องเจ้าของเรือนกกระทุง มีหลายคนบางคนเป็นนายกเทศมนตรี... แต่เหนือผู้ยิ่งใหญ่ คือ “โยมไล้” ผู้เป็นแม่ ลูกจ้างเรืออวนลาก ตั้งฉายา “รัฐบาล”

โยมไล้ เลือกที่นั่งอยู่ที่ริมหอฉัน ไม่มีใครได้ยินโยมไล้ กราบแล้วพูดอะไรกับท่านเจ้าคุณ

เมื่อพร้อมหน้า ท่านเจ้าคุณก็เริ่มวิสัชนา...ยกความจำเป็นสารพัน ในการเลือกสมภาร หลวงพี่เติมเล็กนั่งก้มหน้า เอานิ้วเคาะพื้น หลวงน้าเติมมองเพดาน หลวงพี่ดมไม่ได้อยู่ในคิว นั่งสงบเสงี่ยม ส่วนมหาประยงค์ดูจะรู้คิวล่วงหน้า ไม่มา

ท่านเจ้าคุณสมุทรโมลี วิสัชนา ยืดยาวพระและชาวบ้าน ลุ้นระทึกในใจ
“เพื่อความปรองดองของทุกฝ่าย อาตมาเห็นว่าจำเป็นต้องรับเป็นสมภาร วัดปทุมฯเสียเอง”
ท่านขมวด บทเอวัง บทสุดท้าย...สั้นๆง่ายๆ แต่ก็ชัดเจน


 st11 st11 st11 st11

ท่านเจ้าคณะจังหวัดรักษาการสมภาร เป็นนาน...จนกระทั่ง “หลวงพี่ดม” พระหนุ่มหลานคุณก๋งแม...วุฒิภาวะเติบโตเหมาะสม...ท่านก็ตั้งให้เป็นสมภาร

ตอนนี้หลวงพี่ดม เป็นพระเถระอาวุโส ขึ้นทำเนียบพระอาจารย์ดัง มีคิวปลุกเสกพระเครื่องของขลัง...ยาวเป็นปี...นอกจากดูแลรักษาวัดให้สะอาดโอ่อ่าสวยงาม ยังสร้างสถานีอนามัย หาหมอหาพยาบาลมารักษาชาวบ้าน

กุศโลบายซื้อเวลา รอตั้งหลวงพี่ดมทายาทคุณก๋งแม เป็นสมภาร...ลดความแตกแยกในหมู่พระและญาติโยมของท่านเจ้าคุณได้ผลงดงามสมตามเจตนา

ผมได้ยินแว่วๆมีคนเสนอทฤษฎี “ซื้อเวลา” แก้ปัญหาขัดแย้งในการตั้งพระสังฆราช...
สมัยรัชกาลที่ 5 ท่านทำได้ สมัยนี้รัฐบาลมีอำนาจเต็มมือ ก็น่าจะทำได้...ปัญหาน่าจะอยู่ที่กล้า...หรือไม่กล้า.


คอลัมน์ ชักธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง
https://www.thairath.co.th/content/570701
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ