พิมพ์

[raponsan]

อุโบสถสำเภาแก้วร้อยล้าน หนึ่งเดียวในประเทศไทย

อุโบสถสำเภาแก้วร้อยล้านหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่วัดหินแท่นลำภาชี จ.กาญจนบุรี : ท่องไปในแดนธรรม โดยไตรเทพ ไกรงู

วัดหินแท่นลำภาชี ตั้งอยู่บ้านหินแท่น หมู่ ๓ ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สันนิษฐานว่าวัดหินแท่นลำภาชี ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๙ ปัจจุบันมีพระครูถาวรกาญจนธรรม หรือหลวงพ่อสมคิด เป็นเจ้าอาวาส

ศาสนาสถานภายในวัดหินแท่นลำภาชีนั้น ส่วนใหญ่หลวงพ่อสมคิด จะเป็นผู้ลงมือสร้างด้วยตัวเอง ทั้งนี้เพื่อประหยัดและใช้ปัจจัยที่ญาติโยมถวายมาอย่าคุ้มค่า โดยเฉพาะหลวงพ่อทันใจ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัด ท่านก็ลงมือสร้างเองทั้งองค์ ตั้งแต่ผูกเหล็ก เทปูน ปั้นพระพักตร์ โดยอัญเชิญญาณจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศมาประดิษฐานไว้ในส่วนพระเกศ

 

หลวงพ่อทันใจถูกตั้งทิ้งไว้กลางแจ้งอยู่ระยะหนึ่ง ไม่มีการสร้างวิหารครอบอย่างที่เห็นทุกวันนี้ แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์มีคนมากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง มีอยู่หลายครั้งที่ผู้มากราบไหว้ประสบความสำเร็จเรื่องโชคลาภจึงมาสร้างวิหารครอบถวายในภายหลัง

นอกจากนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอีกอย่างหนึ่ง คือ ศาลาประดิษฐาน ๓ บูรพพระมหากษัตริย์ในอดีต คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระปิยมหาราช หรือพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี โดยผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวาย ทั้งนี้มีคติความเชื่อว่า กษัตริย์ ๓ พระองค์น่าจะเคยเสด็จผ่านสถานที่สร้างวัด

 

สำหรับแนวคิดในการสร้างโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น หลวงพ่อสมคิด บอกว่า พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารบางขุนพรม กทม. ท่านนิมิตเห็นสถานที่ก่อสร้าง จึงนำคณะศรัทธาหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มาช่วยสร้าง ครั้งแรกได้ขอโบสถ์หลังเล็กๆ เท่านั้น แต่พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ เมื่อสร้างแล้วต้องใหญ่ โดยเริ่มสร้างมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ ใช้ปัจจัยไปกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งมาจากศรัทธาของหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ทั้งสิ้น

สำหรับความหมายของโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น หลวงพ่อสมคิด บอกว่า สีขาวของโบสถ์ หมายถึงกระจกขาว หมายถึง พระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล ส่วนเรือสุพรรณหงส์ หมายถึงการนำพามนุษย์ข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ

พระคุณอันประเสริฐของพระพุทธเจ้ามี ๓ ประการ คือ

๑.พระปัญญาธิคุณ คือ พระพุทธองค์ทรงมีพระปัญญารอบรู้ถึงความจริงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งปวงความเป็นจริงของสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นอย่างไร ก็ทรงทราบชัดถึงความจริงเหล่านั้น และนำความจริงเหล่านั้นมาเปิดเผยชี้แจงแสดงแก่โลก ตามพื้นเพแห่งอัธยาศัยของบุคคลเหล่านั้น

๒.พระบริสุทธิคุณ คือ พระพุทธองค์ทรงมีพระทัยบริสุทธิ์ สะอาดหมดจด จากอาสวะกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย ไม่มีความขุ่นมัวเศร้าหมองภายในพระทัยทรงดำรงอยู่อย่างคงที่ ไม่แปรผัน ท่ามกลางอารมณ์ที่กระแทกกระทั้นจากภายนอก ไม่ว่าจะดีหรือร้ายแต่พระทัยของพระพุทธเจ้าก็บริสุทธิ์มั่นคงอยู่อย่างนั้นไม่แปรผัน

และ ๓.พระมหากรุณาธิคุณ คือ ทรงกอปรด้วยความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ทรงเลือกชาติชั้นวรรณะแต่ประการใด แม้แต่ในศีลของพระองค์ก็ทรงบัญญัติให้คนงดเว้นไม่ทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป และทรงแนะให้แผ่เมตตาจิตต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข อันเป็นเป้าหมายของการดำรงชีวิต



     
     
คิดและทำแบบหลวงพ่อสมคิด

หลวงพ่อสมคิด บอกว่า บวชมาเป็นพรรษาที่ ๒๑ แล้ว ตอนแรกตั้งใจจะบวชเพียง ๑๕ วันเท่านั้น โดยใน ๓ ปี แรกคิดสึกหลายครั้ง แต่เมื่อได้ปฏิบัติธรรม เดินธุดงค์ รวมทั้งได้ศึกษาธรรมจากครูบาอาจารย์ ได้ออกปริวาสกรรม เดินธุดงค์ ด้วยเท้าเปล่า ๑๕ ปี ทำให้ได้พบสัจธรรมชีวิตและเข้าใจธรรมะหลายอย่างจึงบวชมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อได้รับแต่ตั้งเป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่อายุ ๓๑ ปี ใครๆ ก็ตราหน้าว่าบวชไม่นานเมื่อเก็บสตางค์ได้คงสึก จึงลบคำสบประมาทด้วยการทำให้เห็นจริง โดยเริ่มมือก่อสร้างกุฏิ ศาลาปฏิบัติธรรม ด้วยมือตนเอง สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือ ประหยัด และสามารถสร้างศรัทธาให้ญาติโยมได้เห็น

 

“การถูกหมิ่นประมาท การถูกดูถูกเหยียดหยามเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก ยิ่งเป็นพระอายุน้อยพรรษาไม่มากยิ่งต้องทำใจ ธรรมะง่ายๆ ของอาตมา คือ คิดดี พูดดี ทำดี เจริญดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีความ อดทน มีความจริงใจก็จะผ่านพันอุปสรรคนั้นๆ ได้” หลวงพ่อสมคิดกล่าว

ด้วยเหตุที่หลวงพ่อสมคิดเป็นพระนักพัฒนาและนักเผยแผ่ สนับสนุน ส่งเสริมงานทางด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จึงมีศรัทธาญาติโยมถวายที่อีก ๑๐๐ ไร่ เลยวัดไป ๘๐๐ เมตร เพื่อสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมโดยใช้ชื่อว่า สำนักสงฆ์ป่าเขาน้อยธรรมรังษี สาขาวัดหินแท่นลำภาชี เพื่อรองรับการฝึกปฏิบัติธรรมในโอกาสข้างหน้า ทั้งที่เป็นนักเรียนแประชาชนทั่วๆ ไป ซึ่งทุกวันนี้ที่วัดเองก็เปิดโบสถ์ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เพื่อให้คนได้ปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.)

๑๒-๑๗ เม.ย. งานบุญปิดทองฝังลูกนิมิต

หลวงพ่อสมคิดท่านเป็นพระนักพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริมงานทางด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารบางขุนพรม พระอารามหลวง นำคณะศรัทธาพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ก่อสร้างอุโบสถบนสำเภาแก้ว มีความกว้าง ๓๐.๕ เมตร สูง ๓๕ เมตร และยาว ๗๔ เมตร พร้อมสร้างพระประธานชื่อสมเด็จพุทธรัตนมุนีศรีโสธร ที่ล้อมรอบด้วยอสีติมหาสาวก หรือพระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ ๘๐ รูป

ด้านข้างทั้ง ๒ ของโบสถ์มีเรือสุพรรณหงส์ ๒ ลำ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นต้น ด้านหลังของโบสถ์มีท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผีเป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์

 

ขณะนี้อุโบสถเสร็จแล้ว ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ ขอเชิญร่วมมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ปิดทองฝังลูกนิมิต “อุโบสถสำเภาแก้วร้อ­­ยล้าน” หนึ่งเดียวใน จ.กาญจนบุรี หนึ่งเดียวในประเ­­ทศไทย

ปัจจุบันหลวงพ่อสมคิดได้สร้างพระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร หลวงปู่โต หลวงปู่ทวด หน้าตัก ๖ เมตร ทุกองค์ นอกจากนี้สำนักสงฆ์ยังขาดเจ้าภาพในการสร้างและปรับภูมิทัศน์ รวมทั้งปลูกป่าทดแทนที่โดนตัดไปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่หลวงพ่อสมคิด โทร.๐๘-๕๒๙๖-๔๙๖๑ หรือโอนเงินร่วมบุญธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ชื่อบัญชี วัดหินแท่นลำภาชี เลขที่บัญชี ๖๗๔-๒๒๑๓๑๓-๕


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160401/225120.html

[PRAMOTE(aaaa)]

 
           ยุคนี้ นับเป็นยุคที่เฟื่องฟู ของพุทธศาสนา ครับ