สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของลำปาง
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ตั้งอยู่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางด้านตะวันตกเฉียงใต้ หลักเมืองทำด้วยไม้สัก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยหลักที่หนึ่งสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2400 หลักที่สองสร้างประมาณปี พ.ศ.2416 และหลักที่สาม สร้างประมาณปี พ.ศ.2429 ต่อมาในปี พ.ศ.2440 เมื่อสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้น ได้นำหลักเมืองมาไว้ที่บริเวณหน้าศาลากลาง และได้มีการสร้างมณฑปครอบหลักเมืองทั้งสามในปี พ.ศ.2511
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงไทยแบบจตุรมุข ซึ่งตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง พระพุทธรูปสร้างด้วยโลหะผสมรมดำทั้งองค์ ปางสมาธิ ชาวบ้านเรียก "หลวงพ่อดำ" จัดสร้างโดยกรมการรักษาดินแดน เมื่อปี พ.ศ.2511 มี 4 องค์ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ 4 ทิศของประเทศ โดยทางทิศเหนือได้นำมาประดิษฐานไว้ ณ จังหวัดลำปาง นับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพสักการะของประชาชน ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ปิดทองเกือบทั้งองค์ โดยสาธุชนที่มานมัสการ
วัดพระแก้วดอนเต้า
ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือ เป็นวัดเก่าแก่และสวยงาม มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตนานถึง 32 ปี ปูชนียสถานที่สำคัญ คือ องค์พระธาตุมณฑปศิลปะพม่า พระนอนองค์ใหญ่ พระวิหารหลวง และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งล้านนา การเดินทางไปยังวัดนั้น ไปได้โดยการข้ามสะพานรัชฎาภิเษก แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนพระแก้ว ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นองค์พระธาตุตั้งเด่นอยู่บนเนิน
วัดศรีชุม
เป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดพม่าที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 31 วัด สร้างในปี พ.ศ.1893 โดยคหบดีชาวพม่า ชื่ออูโย ซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทย เมื่อตนเองมีฐานะดีขึ้น จึงต้องการทำบุญ โดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นในตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง การเดินทางไปวัดศรีชุมนั้น เมื่อถึงโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยแล้ว เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกไปเล็กน้อย จะพบทางเข้าวัดอยู่ด้านขวามือ จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่พระวิหาร ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ หลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก
วัดศรีรองเมือง
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าคราวน้อย ตำบลสบตุ๋ย ในเขตเทศบาลเมืองด้านทิศตะวันตก เป็นวัดพม่าที่สร้างขึ้นในสมัยที่ลำปางเป็นศูนย์กลางการค้าขาย การทำป่าไม้เช่นกัน สถาปัตยกรรมที่สำคัญได้แก่ วิหารไม้หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้นน้อยสวยงามตามแบบศิลปพม่า นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นวัดที่มีการประดับตกแต่งภายในด้วยลายไม้แกะสลัก และลายปูนปั้นปิดทองที่มีความวิจิตรสวยงาม
สถานปฏิบัติธรรม-มณฑป หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์
ตั้งอยู่ชานเมืองลำปาง ประมาณ 4 กิโลเมตร ตามทางสายลำปาง-แจ้ห่ม ภายในบริเวณมีมณฑปลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิอาจารย์ซึ่งมีผู้เคารพนักถือเป็นจำนวนมาก นั่งในท่าสมาธิขนาดเท่ารูปจริง เพื่อให้ประชาชนเคารพสักการะ และบริเวณมณฑปก็มีที่จอดรถและสถานที่เช่าพระเครื่อง ส่วนกุฏิของหลวงพ่อเกษมอยู่ด้านข้างมณฑป
บ้านเสานัก
เลขที่ 86 ถนนราษฎร์วัฒนา อ.เมืองลำปาง เป็นบ้านทรงไทย สถาปัตยกรรมล้านนาผสมพม่า สร้างเมื่อ พ.ศ.2438 เดิมสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ที่เรียกว่า บ้านเสานัก เพราะว่ามีเสาทั้งหมด 116 ต้น เป็นสถานที่ตอนรับแขกบ้านแขกเมืองอยู่เป็นประจำ และเป็นที่ตั้งแสดงเครื่องใช้โบราณทั้งของไทยและของพม่า บริเวณบ้านตกแต่งเป็นสวนหย่อม เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 10.00 - 17.00 น. ท่านละ 30 บาท และมีบริการรับจัดอาหารกลางวัน/อาหารเย็นสำหรับหมู่คณะ ติดต่อได้ที่บ้านเสานัก โทร.(054) 227653
วัดเจดีย์ซาวหลัง
"ซาว" แปรว่ายี่สิบ "หลัง" แปลว่าองค์ วัดเจดีย์ซาวหลัง แปลว่าวัดทีมีเจดีย์ 20 องค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นวัดใหญ่อยู่กลางทุ่งนา บริเวณวัดร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปาง สร้างแต่โบราณทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า วัดนี้สร้างมานานกว่าพันปี ทางด้านซ้ายของพระอุโบสถเป็นศิลปะสมัยใหม่ ประดับลวดลายติดกระจกสีทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้เมื่อปี พ.ศ.2526 ได้มีชาวบ้านขุดพบพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ หนัก 100 บาท สองสลึง มามอบให้แก่ทางวัด ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่า "พระแสนแซ่ทองคำ" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้วครึ่ง สูง 15 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกที่ขึ้นเป็นทะเบียนโบราณวัตถุแห่งชาติแล้ว
วัดพระธาตุม่อนพญาแช่
ตั้งอยู่บนภูเขา ตำบลพิชัย อ.เมืองลำปาง บนเส้นทางสายลำปาง-งาว ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากตัวเมือง โดยเลี้ยวขวาเข้าไปตรงหลักกิโลเมตรที่ 605 ประมาณ 1 กิโลเมตร ความสวยงามของวัดอยู่ที่บันไดนาคที่ทอดยาวขึ้นไปหาพระธาตุ คล้ายกับวัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ทุกปีจะมีงานนมัสการองค์พระธาตุในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7
วัดพระธาตุเสด็จ
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางลำปาง-งาว ประมาณ 19 กิโลเมตร แยกซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 17 ประมาณ 2 กิโลเมตร วัดพระธาตุเสด็จเป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี ประมาณ 500 ปีมาแล้ว อุโบสถและวิหารต่างๆ ในวัดนี้ ล้วนแต่เป็นของโบราณที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ยังคงสภาพศิลปโบราณให้ได้เห็นอยู่จนปัจจุบัน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติแล้ว
เขื่อนกิ่วลม
อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 38 กิโลเมตร เส้นทางลำปาง-งาว โดยแยกซ้ายตรงหลักกิโลเมตรที่ 623-624 เข้าไปอีก 14 กิโลเมตร เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เขื่อนกิ่วลมอยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน สำหรับบ้านพักรับรอง ทางกรมชลประทานอนุญาตให้เข้าพักเฉพาะข้าราชการหรือหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยมีหนังสือติดต่อล่วงหน้าไปที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน หรือ โทร.(02)2414806 บริเวณเหนือเขื่อนเป็นอ่างเก็บน้ำ เหมาะแก่การล่องเรือหรือแพ เพราะมีทัศนียภาพสวยงาม การล่องแพใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ติดต่อได้ที่สำนักงานท่องเที่ยวบริเวณเขื่อน และหากต้องการพักค้างคืนสามารถทำได้ 2 ลักษณะ คือ
1. ล่องแพไปพักที่เขื่อนกิวลมรีสอร์ท ซึ่งมีที่พักเป็นบ้าน และบังกะโลหลายแบบ ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาป โทร.(054) 334393
2. ล่องแพและค้างคืนบนแพ ซึ่งเป็นแพติดเครื่องยนต์ หรือค้างคืนที่วังแก้วรีสอร์ท ติดต่อได้ที่ โทร.(054)223733
ที่มา
http://lampang.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=46&Itemid=61