พิมพ์

[raponsan]

วางกรอบปริญญาบาลีใน พ.ร.บ.การศึกษาสงฆ์

"พระพรหมโมลี" เผยวางกรอบการศึกษาบาลีในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม เรียนสายบาลีล้วนจบ ป.ธ. 9 ยังได้วิทยฐานะปริญญาตรีเช่นเดิม เพิ่มรูปแบบใหม่พ่วงวิชาการ ป.ธ. 9 ขอวิทยฐานะปริญญาเอก ผ่านหลักเกณฑ์ของสภามหาวิทยาลัย -สกอ.- มหาเถรฯ เชื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้จูงใจให้พระเณรเรียนบาลีมากขึ้น

วันนี้ ( 15 ส.ค.) พระพรหมโมลี แม่กองบาลีสนามหลวง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม ได้ปรับแก้เนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว เพื่อเตรียมเสนอให้มส.รับทราบ ก่อนเสนอรัฐบาลอีกครั้ง เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอีก เนื่องคณะอนุกรรมการฯดำเนินการปรับแก้ตามความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และจัดทำกฎกระทรวง หรือ กฎหมายลูกประกอบ พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แนะแนวทางมาแล้ว ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำไปว่า การออก พ.ร.บ.นี้ สิ่งสำคัญ คือ เพื่อสนับสนุนการศึกษาด้านบาลี นักธรรม สามัญศึกษา และเป็นการรักษาโบราณราชประเพณีที่มีอยู่ โดยเฉพาะพระราชพิธีทรงตั้งเปรียญ ธรรมที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อนวันวิสาขบูชาเป็นประจำทุกปี

 

พระพรหมโมลี กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ การศึกษาแผนกบาลี ในมาตรา 22 ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จบประโยคเปรียญธรรม (ป.ธ.) ด้านบาลีล้วนๆ โดยเฉพาะป.ธ. 9 ก็ยังคงได้สิทธิตามกฎหมายกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ.2527 คือ วุฒิปริญญาตรี สำหรับผู้ที่จบตั้งแต่ ป.ธ.6-7 ที่จะขอมีวิทยฐานะเทียบเท่าปริญญาตรี ป.ธ.8 มีวิทยฐานะเทียบเท่าปริญญาโท และป.ธ.9 มีวิทยฐานะเทียบเท่าปริญญาเอก จะต้องผ่านหลักเกณฑ์ ของคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ สภามหาวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) และผ่านการอนุมัติจาก มส. ซึ่งการกำหนดไว้เช่นนี้ เพราะคณะสงฆ์ต้องการให้มีการรับรองและยอมรับ เพราะปริญญาในยุคปัจจุบันมีความสำคัญ เป็นเครื่องการันตีความรู้ที่เรียนมา

“หากเป็นไปในรูปแบบนี้ จะสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ศธ.โดยไม่ขัดไม่แย้งกัน และจูงใจให้พระเณรเรียนบาลีมากยิ่งขึ้น หากเรียนสำเร็จแล้วอยู่ในเพศบรรพชิต ก็จะเป็นผู้สืบต่อพระพุทธศาสนา หากออกไปเป็นฆราวาส ก็จะเป็นคนดีของสังคม และใช้วุฒิการศึกษานี้ประกอบอาชีพได้ รวมทั้งยังสามารถเป็นครูสอนบาลีในสถานศึกษาต่างๆ ที่จะเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาได้อีกทางหนึ่ง  นอกจากนี้อาตมาจะให้มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มาช่วยวางโครงสร้างหลักเกณฑ์วิทยฐานะร่วมกับทาง สกอ.ว่าจะเดินไปแบบใดให้เกิดคุณภาพ ซึ่งหลายฝ่ายอาจจะกังวลเรื่องกฎระเบียบที่จะมีมาก อาตมาก็ได้ชี้แจงไปว่า กฎระเบียบ ที่มีก็เพื่อให้เกิดการยอมรับต่อการศึกษาคณะสงฆ์" แม่กองบาลีสนามหลวง กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/516021