ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยู่ก่อนแต่ง แล้วค่อยขอขมาแต่งงาน กรรมที่ผิดศีลข้อ 3 จะเป็นอโหสิกรรมไหม.?  (อ่าน 2732 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อยู่ก่อนแต่ง แล้วค่อยขอขมาแต่งงาน กรรมที่ผิดศีลข้อ 3 จะเป็นอโหสิกรรมไหม.?

ถาม : สังคมสมัยนี้อยู่ก่อนแต่งกันมากมาย หากยังอยู่ในปกครองของพ่อแม่ ย่อมถือว่าผิดศีลข้อ 3 แต่หากคบกันต่อจนขอขมาแต่งงานอย่างถูกต้อง กรรมที่ผิดศีลข้อ 3 จะเป็นอโหสิกรรมไหมครับ

ตอบ : ศีล เป็นข้อที่พึงปฏิบัติเพื่อให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เดียรัจฉาน เพราะหากมนุษย์ไม่พากันรักษาศีลแล้ว ย่อมทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนอลหม่านเข่นฆ่าเบียดเบียนกันยิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน โดยปกติแล้วจะปฏิบัติคู่กัน คือเบญจศีลและเบญจธรรม คือนอกจากให้ละเว้นสิ่งที่ไม่ควรทำทั้ง 5 ข้อแล้วยังต้องปฏิบัติตามเบญจธรรมทั้ง 5 ข้อไปพร้อมกันด้วย ถึงจะเรียกได้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐได้อย่างแท้จริง

แต่หากคราใดมนุษย์ละเมิดศีลและไม่รักษาธรรมแล้ว มนุษย์ก็จะเป็นสัตว์ทันที พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติ ศีลไว้เพื่อให้มนุษย์ทุกคนพึงหลีกเว้น ไม่ไปละเมิดล่วงเกิน ป้องกันความแตกร้าวในหมู่มนุษย์ และมีความไว้วางใจกันและกัน จะทำให้ชีวิตของตนเอง ครอบครัว และสังคมมีความสุข มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

หญิงเป็นวัตถุที่ต้องห้ามของชาย 3 จำพวก คือ 
     - ภรรยาท่าน 1 
     - หญิงผู้อยู่ในพิทักษ์รักษา 1 เช่น หญิงอยู่ในปกครองของบิดามารดาหรือญาติทั้งหลายผู้อยู่ในฐานะเช่นนั้น 
     - หญิงที่จารีตห้าม 1 เช่น แม่ชี หรือที่กฎหมายบ้านเมืองห้าม เป็นต้น ไม่ควรละเมิดล่วงเกินข่มเหงรังแก


@@@@

เมื่ออยู่กันก่อนแต่งงาน ในทางจารีตประเพณีแล้วถือว่าผิดแน่นอน เพราะไม่อยู่กรอบประเพณี เป็นการทำลายอนาคตของตนเอง ทำร้ายจิตใจของผู้เป็นพ่อเป็นแม่หรือผู้ดูแลเลี้ยงดูมา  หากสังคมยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติ ต่อไปเด็ก ๆ ก็จะเอาเป็นแบบอย่าง กลายเป็นเรื่องถูกต้องไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมากมาย ทั้งเรื่องคดีฆ่าข่มขืน ท้องไม่พร้อมก็พากันไปทำแท้ง เกิดการฆ่ากันอีก บางทีก็ปล่อยเด็กที่เกิดมาใช้ชีวิตไปตามยถากรรม ก่อให้เกิดอาชญากรรมมากมาย ไปจนกระทั่งถึงติดเชื้อเอดส์ มองไปมุมไหนก็ไม่ดีเลย

ส่วนจะไปขอขมา ขออโหสิกรรมกับพ่อแม่ในภายหลังแม้พ่อแม่จะยอมยกโทษอโหสิกรรมให้ แต่กรรมที่ทำลงไปนั้นเมื่อมีกำลังมากเมื่อไหร่ก็จะส่งผลเป็นอกุศลวิบากทันที ดังนั้นกรรมใด ๆ ก็ตามจะเป็นอโหสิกรรมได้ก็ต่อเมื่อผู้นั้นบรรลุเป็นพระอรหันต์นิพพานไปแล้วเท่านั้น กรรมทั้งหมดจึงจะเป็นอโหสิกรรม เพราะไม่มีเจ้าของผู้รับนั้นนั่นเอง


ดร.พระมหาบวรวิทย์ รตนโชโต : พระอาจารย์ผู้ไขปัญหา
http://www.goodlifeupdate.com/30287/healthy-mind/dhamma/dhamma-daily/married/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น