« เมื่อ: มกราคม 10, 2017, 09:11:02 am »
0
“วัดอู่ทรายคำ” เสนอย้าย หรือ ยกพื้นหอไตรไม้เก่าแก่กว่าร้อยปี แก้ปัญหาสร้างอาคารประชิด-สูงค้ำ
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เล่นง่าย! “วัดอู่ทรายคำ” เสนอแนวคิดย้ายหรือยกพื้นหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี เพื่อแก้ไขปัญหาสร้างอาคาร 4 ชั้น ตั้งประชิดและสูงค้ำ ที่ลงมือก่อสร้างไปแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและผิดแบบ จนต้องถูกสั่งระงับ ทั้งนี้เตรียมนัดจัดประชุมหารือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกันในเร็วๆ นี้
จากกรณีที่ช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา วัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการเปิดบริการที่พักคล้ายโรงแรม ขณะเดียวกันยังถูกตั้งประเด็นความเหมาะสมเกี่ยวกับการก่อสร้างก่ออาคาร 4 ชั้น ที่ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรที่สร้างจากไม้เกือบทั้งหลังอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ต่อมาจากการตรวจสอบของเทศบาลนครเชียงใหม่พบว่าดำเนินการก่อสร้างไปทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง และพบว่าไม่ได้มีการเว้นระยะห่างจากจุดกึ่งกลางถนน 6 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย จึงมีคำสั่งระงับการก่อสร้าง พร้อมให้ทำการปรับแบบและยื่นขออนุญาตใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 59 ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้นำคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 43 วรรคหนึ่ง (กรณีที่กระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต) ไปปิดไว้ที่อาคารที่กำลังก่อสร้างของวัดอู่ทรายคำ พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งเป็นทางการถึงเจ้าอาวาสวัดอู่ทรายคำด้วย
โดยตามคำสั่งดังกล่าวให้ทางวัดอู่ทรายคำดำเนินการแก้ไขแบบอาคารให้ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออกของอาคารมีระยะห่างจากศูนย์กลางทางสาธารณะไม่น้อยกว่า 6 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด และให้ยื่นขอรับใบอนุญาตก่อสร้างภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ปิดประกาศดังกล่าว โดยหากพ้นกำหนดระยะเวลาจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งก็คือการออกคำสั่งตามกฎหมายให้ดำเนินการรื้อถอนอาคาร อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า แม้ว่าทางวัดอู่ทรายคำจะยุติการดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวลงชั่วคราว แต่จนถึงปัจจุบันทางวัดอู่ทรายคำยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามคำสั่งดังกล่าวเลย 
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2560 ที่วัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้งภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับประเด็นอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่มีการพูดคุยกันเกี่ยวข้องกับกรณีการก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ที่ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรเก่าอายุกว่าร้อยปีของวัดอู่ทรายคำด้วย
ในการหารือกันมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ทางวัดอู่ทรายคำมีข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากรณีที่เกิดขึ้นด้วยการจะทำการเคลื่อนย้ายหอไตรให้ออกห่างมาจากอาคารที่ก่อสร้าง หรือว่าทำการยกพื้นของหอไตรให้มีความสูงกว่าอาคารที่ก่อสร้าง
ทั้งนี้ในการพูดคุยดังกล่าวเบื้องต้นพบว่าทางเครือข่ายภาคประชาชนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการดังกล่าว แม้ว่าในเวลานี้จะยังเป็นเพียงแค่แนวคิดก็ตาม โดยจากการหารือมีความเห็นตรงกันว่าควรจะต้องมีการจัดการพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่,วัดอู่ทรายคำ,เทศบาลนครเชียงใหม่,เครือข่ายภาคประชาชน,ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา รวมทั้งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหากรณีที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับกรณีปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยจะมีการนัดหมายจัดการพูดคุยกันที่วัดอู่ทรายคำ ในเร็วๆ นี้
ส่วนมาตรการในระยะยาวนั้น เบื้องต้นทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าควรจะมีการตั้งองค์กรหรือคณะกรรมการอิสระของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ,ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม,ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา หรือศาสนา ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ให้ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะให้กับวัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดที่มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่โบราณ ให้ทำการรื้อถอนหรือก่อสร้างใดๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000002375