ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แจกธรรม วันธรรมสวนะ คิดถึงทุกท่าน แต่ฉันก็มีเรื่องยุ่งเยอะเหมือนกัน เลยต้องพัก  (อ่าน 2866 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7283
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0

แจกธรรม วันธรรมสวนะ คิดถึงทุกท่าน แต่ฉันก็มีเรื่องยุ่งเยอะเหมือนกัน เลยต้องพักบ้าง

จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ คำบาลี
(จิตตัง ทันตัง สุขาวะหัง) คำอ่าน
 จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ คำแปล

 กายฉัน ก็ไม่ต่างอะไร จากกายพวกท่านทั้งหลาย มีความหิว กระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ มีเวทนาเกิดขึั้น มีโรคภัย ไข้เจ็บ มีความชรา และ มีความตายเป็นที่สุดเช่นกัน

กายประกอบด้วย ธาตุ ๔ มีอาการ ๓๒ มี แยกส่วนให้เห็นโดยพระพุทธเจ้าตรัสแสดงอาการ ๓๒ เป็น ธาตุกรรมฐาน ซึ่งใครได้เรียนกรรมฐาน สาย มัชฌิมา แบบลำดับ ในพระธรรมปีติ พระยุคลธรรม และ พระสุขสมาธิ ในห้องพุทธคุณ ๓ ห้องนี้ก็มีการยกธาตุ เหล่านี้ไว้ในลำดับกรรมฐาน

พิจารณาให้ดีแล้ว พระภิกษุ คราบรรพชาสามเณร อุปัชฌาย์ ก็จะแยกสอนธาตุกรรมฐาน นี้เป็นลำดับแรก เพื่อให้ผู้ บรรพชา มีองค์กรรมฐาน โดยให้ว่าท่องในขณะบรรพชา ทั้งเดินหน้า ( อนุโลม ) และ ถอยกลับ ( ปฏิโลม ) เรียกว่า ตจปัญจกกรรมฐาน

อันที่จริงกรรมฐาน กองนี้มีชื่อเป็นทางการว่า กายคตาสติ ( สติตามระลึก(ชิ้น)ส่วนของกาย แยกออกเป็น ๓๒ ชิ้น มี ๖ ธาตุ

ในสมัยครั้งพุทธกาล มีพระอรหันต์สำเร็จธรรมเพียงภาวนา ส่วนชิ้นเดียว ก็มากอยู่ ตั้งแต่ เกสา ( อันนี้มีหลายองค์ ) อัฏฐิกัง ( มีบ้างเล็กน้อย ) ส่วนใหญ่แล้ว จะได้จาก เกสา ( ผม ) เป็นส่วนใหญ่ อาทิ พระสิวลี พระทัพพมัลบุตร เป็นต้นที่สำคัญ สำเร็จธรรมตั้งแต่อายุน้อย คือ ๗ ขวบเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ฉันอ่านศึกษาในประวัติ พระอนุพุทธ ทั้ง ๘๐ รูปแล้วก็เห็นความเพียร ของแต่ละท่าน แต่ละองค์ แต่ละกองกรรมฐานที่ใช้

ดังนั้นถือได้ว่า พุทธานุสสติกรรมฐาน ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ มี หลวงปู่สุก ไก่เถื่อนเป็น ปฐมาจารย์ นี้ยังคงรูปแบบในสายวิชา ที่ถูกต้องไว้อยู่ และ ผู้ภาวนาก็สามารถฝึกฝนจิตไต่ ระดับสมาธิ ขึ้นไปได้เป็นลำดับ

ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลาย หมั่นฝึกฝน จะเป็นองค์กรรมฐาน จะเล็ก จะใหญ่ ขอให้ศึกษาให้ถูกต้อง แล้วก็ภาวนาเถิด เพราะว่า สังสารวัฏ กองทุกข์ ที่มีอยู่นั้นมันหนักหนาสาหัส มีความโศรก ความร่ำไร รำพัน เป็นต้น รอท่านอยู่ตลอดเวลา หากท่านทั้งหลาย ไม่ฝึกฝนจิต จิตก็ตกข้างฝ่ายอกุศล ทันที ดังนั้นให้ใช้เวลา ไปทางกุศลให้มาก นึกถึง พุทโธ บ้าง ลมหายใจเข้าออก บ้าง เพราะในยุคนี้เป็นยุค โลกาภิวัฒน์ ( ยิ่งพัฒนาตามโลก ) จนคนเราปัจจุบัน ขาดคุณธรรม สมัยนี้จึงเป็นช่วงสมัยที่หาที่คนดีจริง ได้ยาก มีแต่คนที่พร้อมจะชั่วและดี จะหาง่ายที่คนไม่ทำชั่ว ก็เพราะเกรงกลัวกฏหมาย แต่ถ้าคนดีนั้นไม่ได้เกี่ยวกับกฏหมาย เขาจะรักษากุศล สมัยนี้ถ้าเผลอก็หาย เผลอก็โกง เผลอก็ถูกเบียดเบียน อันนี้คนไม่กลัวบาปกรรม กัน แต่กลัวกฏหมาย ไม่เหมือนสมัยก่อน จิตคนสูงเพราะฝึกธรรมไว้ดี จึงกลัวนรก กฏหมายจึงไม่ค่อยมี

ขอให้ท่านทั้งหลายจงมีกำลังใจ ต่อสู้ อุปสรรค แม้ความทุกข์ จะเข้ามามากบ้างน้อยบ้าง ก็อย่าลืมคุณงามความดีในใจตนเอง จงรักษากุศลและฝึกฝนจิต ให้มีความสุข กันทุกท่านทุกคนเทอญ

เจริญธรรม / เจริญพร


ขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ท้อ..ก็อย่าลืมนึกถึงกุศล
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ