พิมพ์

[raponsan]

มองโลกในแง่ดี ช่วยบรรเทาความโกรธ

ความโกรธของแต่ละคนหนักเบาแตกต่างกัน ความโกรธเป็นเหตุให้คนหน้ามืดตามัวเผลอบันดาลโทสะใส่กัน ทั้งที่สาเหตุนั้นอาจมาจากเรื่องเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่คนที่เรามักจะโกรธได้ง่ายและบ่อยที่สุดก็คือคนใกล้ตัว หากเป็นในกรณีนี้ การมองโลกในแง่ดีสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นและผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

ท่านว.วชิรเมธี กล่าวว่าการ มองโลกในแง่ดี หมายถึงการรู้จักมองหาแง่ดีแง่งามหรือพระคุณที่โดดเด่นของคนที่เรากำลังโกรธหรือเป็นต้นตอให้เราโกรธ ทั้งนี้เป็นเพราะว่า บางทีคนที่เราโกรธนั้น เขาอาจไม่เลวไปเสียทั้งหมดอย่างที่เราเก็บมาโกรธเป็นวรรคเป็นเวรก็เป็นได้ หรือบางทีเขาก็เป็นของเขาตามปกติอยู่แล้ว แต่เพราะความโกรธเป็นม่านมืดคอยบังตาเอาไว้ จึงทำให้เราพลอยมองข้ามด้านดีของเขาไป

เมื่อใดก็ตามที่ความโกรธคุกรุ่นขึ้นมา ให้เราลองหลับตาแล้วนึกถึงคนที่เป็นต้นตอแห่งความโกรธคนนั้นให้ดี แล้วถามตัวเองดูว่า เขามีดีอย่างไร เขาเคยช่วยเหลือเรามาเท่าไรแล้ว คอยนึกถึงความดีงามของเขาเอาไว้ แล้วความโกรธจะค่อยๆ บรรเทาเบาบางลงไปทีละน้อยๆ เหมือนน้ำแข็งที่ตอนแรกเกาะกันเป็นกลุ่มก้อน แต่ถ้าเราหยิบน้ำแข็งก้อนนั้นออกมาจากตู้เย็นแล้วนำมาวางไว้ข้างนอก น้ำแข็งก้อนนั้นค่อยๆ ละลายสลายตัวเองลงทีละน้อย จนในที่สุดก็ไม่เหลืออะไรเลย

หากเคยอ่านพงศาวดาร จะพบว่าเมื่อใดก็ตามที่แม่ทัพทำผิดและจะต้องมีโทษถึงประหารตามกฎอัยการศึกนั้น มักจะมีมหาอำมาตย์หรือมุขมนตรีคอยกราบทูลขอพระราชทานอภัยโทษให้ท่านแม่ทัพเสมอ โดยหนึ่งในคำขอพระราชทานอภัยโทษนั้นก์คือ การคอยเตือนให้พระมหากษัตริย์ทรงคำนึงถึง “ความชอบแต่หนหลัง” ของท่านแม่ทัพเป็นสำคัญ แล้วนำความชอบแต่หนหลังนั้นมาหักลบกลบหนี้กับความผิดหรือความกริ้วโกรธที่พระมหากษัตริย์ทรงมี

 

โดยวิธีมองโลกในแง่ดีชนิด “คำนึงถึงความชอบแต่หนหลัง” แบบนี้เองความกริ้วโกรธในพระทัยของพระมหากษัตริย์ก็จะหายไป แทนที่พระองค์จะเสียแม่ทัพคนสำคัญซึ่งหาได้แสนยาก เลยกลายเป็นได้กำไรสองต่อ

หนึ่ง คือได้แม่ทัพคนเดิมไว้เป็นกำลังสำคัญของกองทัพเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการแน่นอนว่าเมื่อเขาได้รับอภัยโทษย่อมจะมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์มากเป็นทวีคูณ

และสอง พระองค์ก็จะไม่ต้องทรงถูกครหาว่า “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”

บางครั้งการที่เราเริ่มโกรธใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมา ถ้าเราใช้วิธีมองโลกในแง่ดีเข้าช่วย โดยการ “คำนึงถึงความชอบแต่หนหลัง” เสียบ้าง ก็จะช่วยให้ความโกรธบรรเทาเบาบางลงไปอย่างรวดเร็ว

ด้านที่เลวของเขาซึ่งทำให้เราโกรธ เราจงลืมหรือทำเป็นมองไม่เห็นเสียบ้าง เลือกมองแต่ด้านที่ดีของเขาซึ่งทำให้ใจเบิกบานก็พอแล้ว

ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “ทุลฺลโภ องฺคสมฺปนฺโน : คนที่ดีพร้อม หาได้แสนยาก”

 

ข้อมูลจากหนังสือธรรมะหลับสบาย โดย ว.วชิรเมธี สำนักพิมพ์อมรินทร์
http://www.goodlifeupdate.com/55293/healthy-mind/positive-thinking-2/

[sinsae]

 

ที่นี่ร่วมมือกับ ท่าน ว หรือ ครับ เห็นมีบทความ ท่าน ว มาลงที่นี่มาก