ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาเถรฯ ปรับ บวชระยะสั้น 15-30 วัน ทุกวัดทั่วประเทศ  (อ่าน 932 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
มหาเถรฯ ปรับ บวชระยะสั้น 15-30 วัน ทุกวัดทั่วประเทศ

มหาเถรสมาคม เห็นชอบปรับเวลาบวชระยะสั้น 15 วัน 30 วันทุกวัดทั่วประเทศ ชี้บวช 7 วันไม่เพียงพอต่อการศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา  พร้อมให้พศ.แจ้งมติมหาเถรฯไปยังพระสังฆาธิการทั่วประเทศปฏิบัติตาม

วันนี้( 19 ม.ค.)ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการพศ.ในฐานะโฆษกพศ. เปิดเผยภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)ว่า 

ตามที่มส.มีมติแจ้งไปยังเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด  พระสังฆาธิการทุกระดับ และพระอุปัชฌาย์ เข้มงวดพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม รวมถึงเรื่องการคัดกรองคนเข้ามาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานในการร่างหลักเกณฑ์สำหรับการบวชพระใหม่ โดยจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำว่า จะต้องบวชกี่วัน รวมถึงหลักสูตรที่จะต้องให้พระใหม่ได้ศึกษาระหว่างการบวช  โดยมส.ได้มอบหมายให้พระพรหมบัณฑิต พระพรหมมุนี พระพรหมดิลก พระพรหมโมลี ดำเนินการนั้น

ที่ประชุมมส.ได้มีมติเห็นชอบหลักสูตรพุทธศาสนศึกษา สำหรับผู้บวชระยะสั้น ตามที่คณะทำงานเสนอ โดยมส.เห็นชอบหลักสูตรบวชระยะสั้น 15 วัน และ30 วัน เนื่องจากที่ประชุมมส.ได้ปรารภร่วมกันเห็นว่า การบวชระยะสั้น 7 วันนั้น ไม่เพียงพอต่อการศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้มีการกล่าวถึงการบวชตามประเพณี 3 วัน 7 วัน 9 วัน แต่อย่างใด

สำหรับมติดังกล่าวพศ.จะทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติตามมติมส.ดังกล่าว ส่วนเรื่องหลักสูตรนั้น ให้คณะทำงานดำเนินการปรับเนื้อหาอีกเล็กน้อย ก่อนดำเนินการประกาศในเว็บไซต์พศ. www.onab.go.th เพื่อให้วัดทั่วประเทศได้นำหลักสูตรดังกล่าวไปปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน

 :96: :96: :96: :96:

นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรการบวชระยะสั้นของมส.นั้น คณะทำงานได้นำหลักสูตรศาสนศึกษาสำหรับผู้บวชระยะสั้น 30 วัน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ให้มีการจัดทำขึ้นมาเป็นต้นแบบ โดยจะเน้นการอบรมพระใหม่ใน 6 วิชา คือ ธรรมะ ,วินัย,พุทธประวัติ,เทศนา,ศาสนพิธี,ภาวนา

ซึ่งการปรับระยะเวลาการบวชระยะสั้นและมีหลักสูตรอบรม เนื่องจาก มส.เห็นว่า จากนี้ไปผู้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาจะต้องสามารถนำหลักธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น เรื่องการอาราธนาศีลเกี่ยวกับศาสนพิธี การฝึกสมาธิ เป็นต้น โดยหลักสูตรการอบรมทั้ง 15 วันและ 30 วัน จะใช้หลักสูตรเดียวกัน แต่จะต่างกันเพียงชั่วโมงการอบรมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม พศ.จะเร่งแจ้งมติดังกล่าวให้พระสังฆาธิการทั่วประเทศปฏิบัติ เมื่อหลักสูตรดังกล่าวประกาศใช้ในเว็บไซต์พศ.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ด้านพระพรหมเมธี โฆษกมส. กล่าวว่า ในส่วนของการบวชหน้าไฟ บวชแก้บน รวมไปถึงการบวชตามประเพณีที่มีระยะเวลาไม่ถึง 15 วันนั้น มส.ไม่ได้ห้าม แต่หากมีผู้ที่ต้องการจะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ มส.จะเน้นให้ต้องบวชในระยะเวลา 15 วัน หรือ 30 วัน


 st11 st11 st11

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่มส.ออกมติกำหนดระยะเวลาในการบวชดังกล่าว สืบเนื่องจากการประชุมมส. เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2560 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(อัมพร อัมพโร) ทรงปรารภในที่ประชุมมส.ว่าสมควรที่มส.กำหนดวิธีดำเนินการให้พระภิกษุ สามเณร ประพฤติปฏิบัติตนให้มั่งคงในพระธรรมวินัย สมฐานะผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา ให้คณะสงฆ์เป็นที่นับถือต่อสังคมไทย โดยมส.ได้รับสนองพระปรารภดังกล่าว และออกเป็นมติ ดังนี้

     1. ให้พระสังฆาธิการทบทวนปฏิบัติตามกฎมส.ฉบับที่ 23 พ.ศ.2541 ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ กฎมส.ฉบับที่ 24 พ.ศ.2541  การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2536 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ เพื่อให้แก้ไขความเสื่อมและปรับปรุงคุณภาพของพระสงฆ์ จะได้ปรากฎเป็นที่ประจักษ์ชัดอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
     2. ให้พระสังฆาธิการและพระอุปัชฌาย์ เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการปกครอง ควบคุมสอดส่องดูแลอบรมพระภิกษุสามเณรในปกครอง  ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ กฎมส. มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความละเอียดถี่ถ้วนคัดครองผู้ขอเข้าบรรพชาอุปสมบท 
     3. ให้พระสังฆาธิการและพระอุปัชฌาย์ กำหนดหลักเกณฑ์อบรมพระภิกษุในปกครองให้เป็นที่พึ่งทางใจและทางสติปัญของประชาชน และบำเพ็ญกิจเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

 

ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/education/622483
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2018, 08:45:40 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ