ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะเหตุใด.? คนเราจึงมัก กังวลเรื่องความตาย อยู่ตลอดเวลา.!!  (อ่าน 952 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เพราะเหตุใด.? คนเราจึงมัก กังวลเรื่องความตาย อยู่ตลอดเวลา.!!

ถาม : ทำไมผมจึง กังวลเรื่องความตาย อยู่ตลอดเวลา เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว คือสมัย ก่อนเวลาว่างๆ จิตเงียบๆ ผมจะชอบเข้าไปจนถึงความมืดมิด มืดสนิท จนไม่มีแม้ แต่ตัวเรา แต่แทนที่จะได้รับความสงบกลับกลายเป็นความกลัวเสียมากกว่า พอโตขึ้นก็เริ่มผูกโยงความรู้สึกนี้กับความตาย ว่าพอเราตายก็จะไม่มีจิตของเรา หรือจิตรับรู้ดวงนี้ต้องดับไป ทำให้ผมรู้สึกทรมานและกลัวมาก แต่ก่อนเป็นเฉพาะก่อนนอน แต่เดี๋ยวนี้ยิ่งเป็นบ่อยขับรถก็เป็น สอนหนังสืออยู่ก็เป็น ผมควรจะจัดการกับความคิดของตัวเองตรงนี้อย่างไรดีครับ

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ขอไขปัญหาข้อนี้ว่า

ตอบ : ในสมัยพุทธกาลมีสหาย 55 คนบรรลุธรรมเพราะมองเห็นความ “ไม่น่าอภิรมย์”  ของรูปร่างสังขารของคน พระอรรถกถาจารย์ ท่านเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า เป็นเพราะสหายเหล่านั้นเคยเป็น “สัปเหร่อ” มาก่อน จิตจึงคุ้นชินแต่กับซากศพ สามารถมองทะลุความงามของคนจนเห็นเป็นความ ไม่งาม และในที่สุดก็บรรลุธรรม เพราะสภาพจิตที่เห็นความจริงอยู่แล้วแต่ชาติก่อนเป็นปัจจัยเกื้อหนุน

นี่คือตัวอย่างว่า บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบันชาตินี้ อาจมีที่มาจากความคุ้นชินในปางก่อนก็เป็นได้ เรื่องนี้มีความเป็นไปได้พอๆกับที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่อาจระลึกชาติได้ จึงขอให้ฟังไว้พอเป็นเกร็ดชีวิตก็แล้วกัน

     การระลึกถึงความตายนั้นมี 2 แบบ
    1. การระลึกถึงความตายด้วยความรู้เท่าทันสัจธรรมของชีวิตว่า มันเป็นของมัน อย่างนั้นเอง ทุกชีวิตเกิดมาล้วนต้องตาย(สัจธรรม) แล้วดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท(จริยธรรม) ระหว่างระลึกถึงความตายนี้ไม่มีความกลัวตายเกิดขึ้น มีแต่ความรู้เท่าทันสัจธรรมล้วนๆ จิตจึงเกิดความสดชื่น รื่นเริง ผ่องใส เพราะเข้าใจความจริง ดำรงชีวิตอย่างมีสติ เพียรทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด อาการอย่างนี้ท่านเรียกว่า “การระลึกถึงความตายอย่างมีโยนิโสมนสิการ” (อย่างแยบคาย อย่างถูกต้อง)
    2. การระลึกถึงความตายแล้วเกิดความกลัวตาย กลัวพลัดพราก หวั่นไหว ประหวั่นพรั่นพรึงต่อความตาย ทำอะไรไม่ถูก อาการอย่างนี้ท่านเรียกว่า “การระลึกถึงความตายอย่างมีอโยนิโสมนสิการ” (อย่างไม่ แยบคาย อย่างไม่ถูกต้อง)

@@@@@@@

ในกรณีของคุณนั้นน่าจะเป็นอาการของความเคยชินของจิต ที่คุณมักป้อนอารมณ์เกี่ยวกับความตายให้จิตบ่อยๆ พลอยทำให้จิต “เสพคุ้น” จนเคยชิน ซึ่งอาการอย่างนี้หากทิ้งไว้ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก เพราะธรรมดาว่า เมื่อจิตของเราคุ้นชินกับสิ่งใดพฤติกรรมก็จะโน้มเอียงไปในทางนั้น (จิตสั่งกาย เช่น คนที่กลัวว่าจะแพ้ในการแข่งขันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ แข่ง ในที่สุดก็จะแพ้จริงๆนักมวยที่กลัวว่าจะถูกน็อก ในที่สุดก็จะถูกน็อกจริงๆ) ทางออกก็คือควรพยายามถอนตัวออกมาจากความเคยชินแบบเดิมนั้นให้ได้

วิธีการในทางปฏิบัติก็คือ การพยายามเจริญสติในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ เพราะการเจริญสติจะทำให้ “อยู่กับปัจจุบัน”คือมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอที่นี่และเดี๋ยวนี้ คนที่อยู่กับปัจจุบันเป็นโอกาสที่จะหลุดเข้าไปในอดีตหรืออนาคต ย่อมจะมีน้อย อาการอย่างที่คุณเล่ามานั้น ในทางปฏิบัติคงต้องเรียกว่า “หลง อารมณ์ที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาเอง” 

แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณสามารถฝึกตนจนสามารถ อยู่กับปัจจุบันได้และหล่อเลี้ยงอารมณ์ปัจจุบันเอาไว้เสมอ เมื่อชีวิตดำเนิน ไปบนความรู้สึกตัวล้วนๆ อาการหวาดผวาเพราะกลัวตายจะหายไปเองในที่สุด ย้ำอีก ครั้งหนึ่งว่า “อย่าตามอารมณ์ (สิ่งที่จิตคิด) แต่จงรู้อารมณ์ อย่าอยู่ใน อารมณ์แต่จงเห็นอารมณ์ และออกจากอารมณ์”  ทำเพียงเท่านั้นไม่นานจะดีขึ้นเอง


ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก : http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/56027.html
Dhamma Daily : เพราะเหตุใดคนเราจึงมัก กังวลเรื่องความตาย อยู่ตลอดเวลา
by Therranuch , 7 March 2018
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2018, 07:53:53 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ