วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7341 ข่าวสดรายวัน
'ไว-แม็กซ์'โอกาสไร้สาย เครือข่ายเพื่อสังคมรู้คิด-รู้ทัน
จันท์เกษม รุณภัย
ความ ก้าวหน้าของคนหนึ่งคนนอกจากการต้องดิ้นรนค้นคว้าหามาแล้วนั้น หากปราศจากซึ่ง "จังหวะ" ที่ดีกับ "โอกาส" อันเหมาะสมก็เป็นการยากที่จะประสบผลสำเร็จ สำหรับเยาวชนที่เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่จะเจริญงอกงามไปเป็นผู้ใหญ่ใน ฐานะมันสมองของชาติ การสั่งสมประสบการณ์อันก่อเกิดทักษะถือเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอกแห่งศิลปวัฒนธรรมอันหลายหลาก มากล้นด้วยขุนเขา พงไพรและสายลมหนาว ภายใต้ความสวยงามและบรรยากาศโรแมนติกที่หลายคนใฝ่ฝันคาดหวังนั้น คือ ความกระเสือกกระสนของเมล็ดพันธุ์มากมายที่ถวิลหาโอกาสแห่งความก้าวหน้าไม่ ต่างไปจากเมล็ดพันธุ์เยาวชนในกรุงเทพฯ
โครงการ "ไอทีวัลเลย์ แม่ฮ่องสอน เฉลิมพระเกียรติ" เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธ.ค. 2550 มีเป้าประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที ด้วยบริบทของชุมชนชนบท โดยเฉพาะครูและนักเรียนตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจ.แม่ฮ่องสอน อันเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการสร้าง "โอกาส" ด้วยการใช้เครือข่ายไร้สายเป็นสะพานให้คนในท้องถิ่น เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ส่งผลให้รู้คิดและรู้เท่าทัน เพิ่มพูนศักยภาพด้านไอทีเพื่อการสร้างงานและไม่ต้องย้ายถิ่นฐาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สร้างคน สร้างงาน สร้างเครือข่าย" กลายเป็นรายได้และเงินหมุนเวียนนำมาพัฒนาสังคมท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลโดยรวมต่อการพัฒนาของชาติ
ไว-แม็กซ์ (WiMAX) คือ อุปกรณ์กระจายคลื่นความถี่ไมโครเวฟเพื่อการสื่อสารที่ระดับ 2.5-2.69 กิกะเฮิร์ตซ์ ในโครงการนำร่องเพื่อสร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ภายใต้โครงการไอ ทีวัลเลย์ มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดในกรณีของไทยอยู่ที่ 10 เมกะบิตต่อวินาที ได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า แลกกับการเก็บข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ เนื่องด้วยจ.แม่ฮ่องสอนมีลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายคลึงกับญี่ปุ่น
ไว-แม็กซ์ แตกต่างกับเทคโนโลยีกระจายสัญญาณแบบไว-ไฟ (Wi-Fi) ซึ่งใช้ความถี่ไมโครเวฟที่ระดับ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ มีรัศมีสัญญาณเพียง 50-100 เมตร ขณะที่รัศมีสัญญาณของไว-แม็กซ์ครอบคลุมพื้นที่ได้ไกลราว 5-10 กิโลเมตร แต่ไม่สามารถทะลุทะลวงภูเขาได้
ติดตั้งนำร่องใน 3 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง อ.แม่สะเรียง และอ.ปาย ควบคุมดูแลโดยศูนย์เทคโนโลโยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค หน่วยงานในสังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA) หรือสวทช. ซึ่งได้สิทธิบัตรสัญญาณความถี่ดังกล่าวเป็นเวลา 3 ปี จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ปัจจุบันรวมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) เรียกว่า กสทช. นำมาทดลองปล่อยสัญญาณเพื่อหาผลกระทบในด้านต่างๆ แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ การออกแบบและดำเนินโครงการ การติดตั้งและทดสอบระบบ การสร้างกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และการประเมินผล
โรงเรียนปายวิทยาคาร อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของโครงการซึ่งเป็นสถานที่บ่มเพาะเด็กนักเรียนมัธยม ศึกษาในแผนการสอนหลักสูตรวิทยาศาสตร์-คอมพิวเตอร์ รุ่นแรกปัจจุบันอยู่ชั้นม.6 มีจำนวน 9 คน ใช้หลักสูตรการสอนเทียบเท่าระดับปริญญาตรี โดยทั้งหมดถือเป็นต้นกล้าของโครงการแม่ฮ่องสอน ไอทีวัลเลย์ ตามยุทธศาสตร์ "สร้างคน" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายหน่วยงานทั้งรัฐบาลและเอกชน เช่น บริษัท ซอฟต์สแคว 1999 และเครือข่ายทางการศึกษา อาทิ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตลอดจนองค์การบริหารส่วนจ.แม่ฮ่องสอนเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมด้านคอมพิวเตอร์ และคุรุภัณฑ์ โดยภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมวางแผนนั้นเป็นไปตามยุทธศาสตร์ "สร้างงาน" เพื่อให้นักเรียนที่ร่ำเรียนจบมามีงานทำ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายทางการศึกษาตามยุทธศาสตร์ "สร้างเครือข่าย" เพื่อกระจายศักยภาพการพัฒนาไปทั่วจังหวัด
นายสันติ สาทิพย์พงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดห้องเรียนอัจฉริยะ โดยมี ดร.พันศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการเนคเทค นายพรเทพ ศุภราภรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมคณะครูอาจารย์ให้การต้อนรับ ณ ร.ร.ปายวิทยาคาร ภายใต้โครงการ "แม่ฮ่องสอน ไอทีวัลเลย์@ปาย" เมื่อ 24 ธ.ค. ว่า โครงการดังกล่าวเกิดจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับการนำ ไอทีเข้ามาพัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตของประชาชนในอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
โครงการ นี้มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายไว-แม็กซ์ ซึ่งจะส่งผลให้เยาวชนเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นและช่วยพัฒนาทักษะทางด้านไอที ของเด็ก นำไปประยุกต์ใช้กับการประกอบอาชีพในอนาคตได้ อันจะส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของอ.ปาย
นอก จากนี้ สวทช.และเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นมีแผนที่จะนำคอนเซ็ปต์ไอที วัลเลย์ไปใช้พัฒนาชุมชนในพื้นที่ซึ่งยากต่อการเข้าถึงอีกทั่วประเทศ ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้และความร่วมมือของประชาชนในท้องถิ่น ด้วย
นายพรเทพ ศุภราภรณ์ ผอ.ร.ร.ปายวิทยาคาร กล่าวถึงปัญหาของห้องเรียนอัจฉริยะและศูนย์บ่มเพาะนักไอที ว่า ยังมีบุคลากรไม่เพียงพอ โดยเฉพาะครูที่จะมาทำหน้าที่สอน โดยตอนนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้และผู้เชี่ยว ชาญด้านไอทีซึ่งทำธุรกิจอยู่ในท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังระบุว่า จ.แม่ฮ่องสอนนั้นไฟฟ้าดับบ่อย คอมพิวเตอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นโน้ตบุ๊ก ส่วนสัญญาณอินเตอร์เน็ตนั้นอาศัยจาก 3 แหล่ง ได้แก่ สัญญาณไร้สายจากเสาไว-แม็กซ์ ระบบเอดีเอสแอล และสายเคเบิลใยแก้วนำแสงของยูนิเน็ตซึ่งอยู่ในระหว่างการวางสายมาจาก จ.เชียงใหม่
"ไอทีเป็นเครื่องมือที่จะช่วยลดความเสียเปรียบของพวกเรา" ผอ.พรเทพกล่าว
ความสำเร็จที่ไม่ได้มาพร้อมกับเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องอาศัย "โอกาส" ซึ่งได้รับการหว่านเพาะแล้ว
...ที่ เหลือคือ การรอคอย "จังหวะ" เมื่อต้นกล้าแห่งปายเติบโตขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า อันจะเป็นบทพิสูจน์ว่าโครงการนี้มี "ประสิทธิผล" มากน้อยเพียงใด
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.itvalley.org/ที่มาข่าว
http://www.khaosod.co.th/
ผู้เขียน
หัวข้อ: งานแม่ฮ่องสอนไอทีวัลเล่ย์ครั้งที่ 2 (อ่าน 2435 ครั้ง)