« เมื่อ: เมษายน 25, 2018, 06:28:54 am »
0
วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร การศึกษาคือหัวใจสําคัญของการเผยแผ่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร มาบ้าง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าวัดแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ศึกษาอักษรสมัยเบื้องต้นของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าฟ้าอีกหลายพระองค์
@@@@@@
ประวัติวัดโมลีโลกยาราม
วัดโมลีโลกยารามสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เดิมชื่อว่า “วัดท้ายตลาด” ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรวมวัดท้ายตลาดเข้าเป็นเขตพระราชฐาน วัดแห่งนี้จึงไม่มีพระสงฆ์จําพรรษาตลอดรัชกาล
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงย้ายเมืองหลวงมาตั้งทางทิศตะวันออกของแม่น้ําเจ้าพระยา พระองค์มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัด และถือเป็นพระอารามหลวงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1
@@@@
มาในสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงขนานนามวัดนี้เสียใหม่ว่า “วัดพุทไธสวรรย์” หรือ “วัดพุทไธสวรรยาวาศวรวิหาร” ทั้งยังเจริญพระราชศรัทธาในอดีตเจ้าอาวาส คือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระราชโอรสคือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึงพระราชโอรสอีกหลายพระองค์มาทรงพระอักษรกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ขึ้นครองราชย์ ทรงมีพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์วัดให้บริบูรณ์งดงามยิ่งขึ้น จากนั้นทรงขนานนามชื่อวัดใหม่ว่า “วัดโมลีโลกสุธารามอาวาศวรวิหารพระอารามหลวง” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดโมลีโลกย์สุธาราม” ซึ่งต่อมาเรียกว่า “วัดโมลีโลกยาราม” และ ได้รับการสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
สํานักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
วัดโมลีโลกยารามเปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังไม่เปิดเป็นสํานักเรียน เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฉิม) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 3 เปิดสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี แบบสอบด้วยปาก จนกระทั่งในปี 2534 สํานักเรียนวัดโมลีโลกยาราม ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการโดยมีพระรัตนมุนี (โสม) เจ้าอาวาสองค์ที่ 11 เป็นอาจารย์เจ้าสํานักเรียนรูปแรก ท่านมีปณิธานแน่วแน่ที่จะจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี เพื่อผลิตศาสนทายาทที่มีคุณภาพ ภายหลังท่านอาพาธ สํานักเรียนจึงทรุดโทรมตามไปด้วย
ต่อมาพระพรหมกวี (วรวิทย์) เจ้าสํานักเรียนรูปที่ 2 ได้ปรับปรุงระบบการบริหารการศึกษาอย่างจริงจังทําให้มีพระภิกษุสามเณรสอบบาลีได้มากขึ้นตามลําดับ นอกจากนั้นพระภิกษุสามเณรหลายรูปยังสอบได้คะแนนดีจนได้รับทุนเล่าเรียนหลวงอีกด้วย ปัจจุบันพระราชปริยัติโมลี (สุทัศน์ วรทสฺสี) เจ้าอาวาส และเจ้าสํานักเรียนรูปปัจจุบันสืบสานงานการศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเข้มแข็ง จนทําให้สํานักเรียนแห่งนี้มีจํานวนพระภิกษุและสามเณรที่สอบบาลีได้มากเป็นอันดับหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
พระราชปริยัติโมลี (สุทัศน์ วรทสฺสี) เล่าถึงความสําคัญของภาษาบาลีว่า
“คนจํานวนไม่น้อย สงสัยว่าทําไมต้องเรียนภาษาบาลี ปัจจุบันไม่เห็นต้องใช้บาลีเลย อาตมาขออธิบายให้ฟังอย่างนี้ว่า ภาษาบาลีเป็นภาษาที่มีความสําคัญต่อพระพุทธศาสนามาก เพราะเป็นภาษาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้ตรัสสอนแสดงธรรม หากเรามีความรู้เรื่องภาษาบาลีก็สามารถอ่านคําสอนที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ได้โดยตรง นอกจากนี้พระบาลี (คําสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นภาษาบาลี) ยังบรรจุไว้ซึ่งแนวทางความคิด วัฒนธรรม ตลอดจนประเพณีของสงฆ์ทุกเรื่องด้วย
ความจริงแล้วภาษาบาลีไม่ได้เลือนหายไปจากสังคมไทยเลย ยกตัวอย่างเช่น ชื่อของคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาบาลี ที่มีความหมายลึกซึ้งไพเราะ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ จึงเข้าใจผิดคิดว่าบาลีไม่สําคัญ ทุกปีที่วัดโมลีโลกยารามจะมีพระภิกษุและสามเณรมาสมัครเรียนมากกว่า 300 รูป แต่การเรียนบาลีไม่ใช่เรื่องง่ายต้องอดทนและตั้งใจเรียนอย่างสูง จึงจะสอบผ่านได้
โดยในปี พ.ศ.2557 มีพระภิกษุและสามเณรที่นี่สอบได้ 158 รูป ส่วนปีนี้สอบได้มาก ถึง 171 รูป ถือเป็นสถิติใหม่ จนวัดโมลีฯได้รับเกียรติกล่าวขานว่า เป็นสํานักเรียนที่มีการสอบผ่านได้สูงเป็นอันดับหนึ่งของกรุงเทพฯ
วัดโมลีโลกยารามแห่งนี้ไม่ได้เน้นปลูกสร้างอาคาร แต่เน้นสร้างคนผ่านการเรียนพระบาลี แม้จะไม่เห็นเป็นรูปธรรมเหมือนการสร้างโบราณสถาน แต่เชื่อว่าพระภิกษุและสามเณรเหล่านี้คือ กําลังสําคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป”
@@@@@@
สนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร เพื่อความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาสืบไป
ร่วมทําบุญส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี
สํานักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
ธนาคารกรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขาปากคลองตลาด
เลขที่บัญชี 160-0-05071-9
โทร.สอบถามได้ที่ 0-2472-8147 และ 08-9660-1464
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/87541.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2018, 06:32:32 am โดย raponsan »

บันทึกการเข้า

ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ